พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

           เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)








วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

บินออกไปจากโลก


หัวใจของมนุษย์อยู่ที่ไหน สมบัติของเขาก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

พระสันตปาปาสององค์พบกัน


 
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2023 พระสันตะปาปาฟรังซิสเสด็จร่วมกับพระสันตปาปาทาวาดรอสที่ 2(Pope Tawadros II) แห่งคอปติกออร์ทอดอกซ์ที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ในกรุงโรมในสัปดาห์นี้ ขณะที่ทั้งสองฉลองครบรอบ 50 ปีของการพบปะครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 และพระสันตะปาปาเชนูดาที่ 3 ในปี 1973 พระสันตะปาปาทั้งสองสวดภาวนาด้วยกันที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ต่อหน้าผู้แสวงบุญหลายร้อยคน 
 นอกจากนี้พระองค์ยังระลึกถึงชาวคริสต์นิกายคอปติก 21 คนที่ถูกกลุ่มไอเอสสังหารหมู่ในลิเบียในปี 2015 และขอให้ผู้แสวงบุญสวดภาวนาให้พระสันตะปาปาทาวาดรอสที่ 2 และขอให้คุ้มครองคริสตจักรออร์โธดอกซ์คอปติกทั้งหมด  

วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

พระเยซูตรัสกับนักบุญเกมมา


ลูกเอ๋ย เราต้องการผู้ยอมทนทุกข์ ผู้ยอมทนทุกข์ที่แข็งแกร่ง,เพื่อระงับพระพิโรธของพระบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเรา เราต้องการวิญญาณ,ผู้ซึ่งโดยผ่านทางความทุกข์,การทดลอง,และความเสียสละของพวกเขา,จะช่วยชดเชยความผิดของคนบาปและความอกตัญญูของพวกเขา โอ,ถ้าหากเราสามารถทำให้ทุกคนเข้าใจได้ว่าพระพิโรธของพระบิดาของเรานั้นมีมากมายสักเพียงไรต่อโลกที่ชั่วร้ายได้!”  
พระดำรัสของพระเยซูตรัสกับนักบุญเกมมา  

วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

นักบุญโดมินิกกับทูตสวรรค์


อีกเหตุการณ์หนึ่งในชีวิตของนักบุญโดมินิกเป็นเรื่องเกี่ยวกับการประจักษ์ของทูตสวรรค์ซึ่งเกิดขึ้นที่กรุงโรมเมื่อท่านไปเยี่ยมบรรดาซิสเตอร์ในคณะของท่าน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเวลาเย็นมากแล้ว  ต่อมา,เมื่อท่านเสร็จภารกิจการเยี่ยมและค่ำมืด, แต่ท่านก็ตัดสินใจที่จะไปซานตา ซาบินา,โบสถ์ที่อยู่ในความดูแลของคณะโดมินิกันตั้งแต่เวลานั้นมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อนร่วมทางของท่านที่มาด้วยกันกลัวว่าพวกเขาจะได้รับอันตรายในเวลาค่ำคืนดึกดื่น แต่ท่านนักบุญโดมินิกยืนยันว่าพระเจ้าผู้ทรงพระทัยดีจะส่งทูตสวรรค์มาคุ้มครองอารักขาพวกเขา และพระองค์ก็ทรงทำเช่นนั้น 
มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาแสดงตน,"เขามีรูปร่างงดงาม มีไม้เท้าอยู่ในมือ ท่าทางราวกับเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง" ชายหนุ่มเดินทางไปกับพวกเขาด้วย เมื่อพวกเขาไปถึงประตูโบสถ์ก็พบว่ามันปิดล็อกอยู่ แต่ชายหนุ่มยืนพิงประตูแล้วประตูก็เปิดออกทันที เขาเข้าไปก่อน ต่อจากนั้นก็เป็นบราเดอร์แล้วก็นักบุญโดมินิก แล้วชายหนุ่มก็เดินออกไปจากประตูที่ปิดอยู่ เมื่อบราเดอร์ Tancred ผู้เป็นสหายของนักบุญสอบถามถึงตัวตนของชายหนุ่มลึกลับ นักบุญตอบว่า "ลูกเอ๋ย นี่คือทูตสวรรค์ของพระเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงส่งมาคุ้มครองเรา"  
สหายของนักบุญมีเหตุผลที่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกเขา คืนหนึ่งนักบุญโดมินิกสวดภาวนาอยู่ที่ข้างเสาเตี้ยที่ด้านล่างของทางเดินใกล้กับประตูในโบสถ์ซานตา ซาบินา ในคืนนั้น หินสีดำทรงกลมถูกขว้างใส่นักบุญโดมินิกด้วยมือที่มองไม่เห็นจากส่วนบนของหลังคา มันโดนหัวของนักบุญ ฉีกเสื้อคลุมศีรษะของท่าน และกระเด็นไปฝังตัวอยู่ในดินข้างๆท่าน เสาต้นนี้ซึ่งมีหินสีดำอยู่บนยอดยังคงพบในตำแหน่งเดิมในโบสถ์ซานตา ซาบินา 
 Source: Angels and Devils  

ความทุกข์ของพระเยซูเจ้าในสวนเก็ธเซเมนี


เมื่อทูตสวรรค์ของพระเจ้าขับไล่อาดัมและเอวาออกจากสวนเอเดน,สถานที่แรกที่พวกเขาพบคือบริเวณสวนเก็ธเซเมนีในปัจจุบัน พวกเขาคุกเข่าลงตรงก้อนหินนั้นที่พระคริสต์ทรงหลั่งเหงื่อออกมาเป็นพระโลหิต พวกเขาอ้อนวอนขออภัยโทษจากพระเจ้า,พระบิดาของพวกเขา แต่ความทุกข์เสียใจในบาปของพวกเขามิอาจทำให้หลุดพ้นจากโทษบาปของพวกเขาได้ (จากนิมิตของอันนา คัทรีน อัมเมอริก -พระมหาทรมานของพระคริสต์)  
แต่พระเยซูคริสต์ทรงอ้อนวอนต่อพระบิดาด้วยความทุกข์โศกเศร้าอย่างมากที่สวนเก็ธเซเมนี พระองค์ต้องต่อสู้ภายในจิตวิญญาณของพระองค์จนเหงื่อไหลออกมาเป็นโลหิต และพระองค์ทรงยินยอมทุกอย่างต่อพระประสงค์ของพระบิดา สิ่งที่บิดามารดาเดิมของเราได้ทำให้สูญเสียไป,พระเยซูคริสต์ทรงนำกลับคืนมาให้แก่มนุษยชาติทั้งมวล มนุษย์ได้กลับมาเป็นลูกของพระเจ้า,พระบิดา, ทำให้เราได้รับพระหรรษทานที่เคยสูญเสียไป,และได้รับมากกว่าเดิมเสียอีก  

วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ทูตสวรรค์เครูบ


“เครูบ”ชื่อนี้หมายถึง 
"พลังที่จะรู้จักและเห็นพระเจ้า" 
เพื่อ "การได้รับพระพรแห่งแสงสว่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระองค์" 
เพื่อ "พิจารณาถึงความงดงามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์" 
ทูตสวรรค์เครูบถูกเรียกอีกอย่างว่านักปราชญ์แห่งศาสตร์แห่งนักบุญ ตามคำกล่าวของอองรี-มารี บูดอง(Henri-Marie Boudon) อัครสังฆราชแห่งเอฟวรอซ์ ซึ่งกล่าวว่า "แสงสว่างจากสวรรค์ประทานความรู้อันน่าชื่นชมแก่พวกเขา และรังสีอันศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาได้รับการเติมเต็มนั้นสะท้อนให้เห็นในสายธารต่อบรรดานิกรเทวดาลำดับชั้นอื่นๆ" 
ครั้งแรกที่เราเรียนรู้เกี่ยวกับเครูบในพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์คือในปฐมกาล: "พระองค์ทรงขับไล่มนุษย์และทรงตั้งบรรดาเครูบผู้ถือดาบเพลิง ส่องแสงแปลบปลาบไว้ทางตะวันออกของสวนเอเดน เพื่อเฝ้าทางไปสู่ต้นไม้แห่งชีวิต” (ปฐก. 3:24)  
Source: Angels and Devils  

วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

คุณค่าของความทุกข์


ครั้งหนึ่ง นักบุญเทเรซาแห่งอาวีลา ได้รับเงินจากพ่อค้าผู้หนึ่งและเขาขอให้นักบุญสวดภาวนาเพื่อเขา หลังจากนั้นไม่นาน นักบุญเทเรซากล่าวกับเขาว่า: "ฉันได้สวดภาวนาเพื่อคุณแล้ว และฉันได้รับการเปิดเผยจากสวรรค์ว่าชื่อของคุณได้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือแห่งชีวิตแล้ว เพื่อเป็นเครื่องหมายยืนยันของสิ่งนี้ ในอนาคตจะไม่มีความเจริญรุ่งเรืองทางโลกใดๆบังเกิดแก่คุณอีก." และสิ่งนี้ก็เป็นจริง; เพราะในเวลาไม่นาน เรือทุกลำของเขาก็จมหายไป และเขาก็ล้มละลาย เมื่อเพื่อนของเขาทราบเรื่องภัยพิบัติเหล่านี้ พวกเขาจัดหาเรืออีกลำหนึ่งให้กับเขา ซึ่งไม่นานก็อับปางเช่นกัน จากนั้นเขาก็ต้องเข้าคุกจากการเป็นหนี้และถูกฟ้องร้องจากเจ้าหนี้ แต่เจ้าหนี้ของเขารู้ว่าเขาเป็นคนดี จึงไม่ทำร้ายเขา และปล่อยเขาเป็นอิสระ เมื่อเขายากจนลง,เขาดำเนินชีวิตด้วยความศรัทธาเยี่ยงนักบุญ โดยพึ่งพิงในพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว  
"ถ้าพระเจ้าทำให้คุณต้องทนทุกข์มาก นั่นเป็นสัญญาณว่าพระองค์ทรงออกแบบชีวิตที่ดีไว้ให้คุณ และแน่นอนว่าพระองค์มีพระประสงค์ที่จะให้คุณเป็นนักบุญ และถ้าคุณอยากจะเป็นนักบุญที่ยิ่งใหญ่ จงอ้อนวอนพระองค์ด้วยตัวคุณเองเพื่อให้คุณมีโอกาสที่จะได้รับความทุกข์บ้าง เพราะไม่มีไม้ใดที่จะก่อไฟแห่งความรักอันศักดิ์สิทธิ์ได้ดีไปกว่าไม้กางเขน ซึ่งพระคริสต์ทรงใช้ในยัญบูชาแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์" 
 -- นักบุญอิกนาเชียส แห่งโลโยลา