พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี

           เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ผู้เลี้ยงแกะย่อมสละชีวิตเพื่อแกะของตน ลูกจ้างที่ไม่ใช่ผู้เลี้ยงแกะและไม่เป็นเจ้าของแกะ เมื่อเห็นสุนัขป่าเข้ามาก็ละทิ้งบรรดาแกะและหนีไป สุนัขป่าแย่งชิงแกะ และฝูงแกะก็กระจัดกระจายไป ลูกจ้างวิ่งหนีเพราะเขาเป็นเพียงลูกจ้าง ไม่มีความห่วงใยฝูงแกะเลย เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี เรารู้จักแกะของเรา และแกะของเราก็รู้จักเรา พระบิดาทรงรู้จักเราฉันใด เราก็รู้จักพระบิดาฉันนั้น เรายอมสละชีวิตเพื่อแกะของเรา เรายังมีแกะอื่น ๆ ซึ่งไม่อยู่ในคอกนี้ เราต้องนำหน้าแกะเหล่านี้ด้วย แกะจะฟังเสียงของเรา
           จะมีแกะเพียงฝูงเดียวและผู้เลี้ยงเพียงคนเดียว พระบิดาทรงรักเรา เพราะเราสละชีวิตของเราเพื่อจะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก ไม่มีใครเอาชีวิตไปจากเราได้ แต่เราเองสมัครใจสละชีวิตนั้น
           เรามีอำนาจที่จะสละชีวิตของเรา และมีอำนาจที่จะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก นี่คือพระบัญชาที่เราได้รับจากพระบิดาของเรา‘
(ยอห์น 10:11-18)








วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559

การรักษาโรคทางร่างกายและจิตใจ

ปี 1840 ชายผู้หนึ่งชื่อ โรเชต Rochette พาลูกชายของเขาซึ่งเจ็บป่วยไปพบกับคุณพ่อยอห์น มารีย์ เวียนเนย์ เจ้าอาวาสแห่งอาร์ส  โดยมีภรรยาติดตามมาด้วย  ภรรยาได้ไปสารภาพบาปและรับศีลมหาสนิท  ขณะที่โรเชตสนใจแต่เพียงการรักษาอาการป่วยของลูกชายให้หายเท่านั้น  เขาจึงเข้าไปในโบสถ์เพียงไม่กี่นาที  แล้วไปยืนอยู่บริเวณอ่างน้ำเสกซึ่งอยู่ท้ายโบสถ์  คุณพ่อเจ้าอาวาสเดินจากพระแท่นไปยังที่ฟังสารภาพบาป  โรเชตเห็นคุณพ่อเรียกเขาให้มายังที่ฟังสารภาพบาปนั้น  แต่เขาปฏิเสธ  ในเวลานั้นภรรยาของเขาและลูกชายอยู่ใกล้กับที่ฟังสารภาพบาป  คุณพ่อเวียนเนย์ถามผู้เป็นภรรยาว่า “เขาไม่มีความเชื่อมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”  สุดท้าย  เมื่อจบการเทศน์ครั้งที่สามของคุณพ่อเวียนเนย์   โรเชตก็ตัดสินใจเดินไปยังที่ฟังสารภาพบาป  “เอาละ” เขาคิด  “คุณพ่อเจ้าอาวาสคงไม่กินฉันหรอก”  เขาเดินตามคุณพ่อเวียนเนย์ไปเบื้องหลังพระแท่น  โดยไม่รอช้า  คุณพ่อพูดว่า “โรเชต  ตรงนี้แหละเป็นที่สำหรับเราทั้งสอง” แล้วท่านชี้นิ้วไปที่ฟังสารภาพบาป  “จงเข้าไปข้างใน”  โรเชต ตอบว่า “โอ  ผมยังไม่อยากสารภาพบาปหรอกครับ”  แต่คุณพ่อย้ำว่า “เราจะต้องเริ่มต้นที่นั่น”  โรเชตรู้สึกตั้งตัวไม่ติดต่อการโจมตีอย่างทันทีทันใดนี้  เขาคุกเข่าลงและพูดกระอึกกระอักว่า “คุณพ่อครับ.....เป็นเวลานานประมาณสิบปีแล้ว.....”  คุณพ่อพูดว่า “บอกให้ใกล้เคียงกว่านี้ซิ”  “ประมาณสิบสองปีครับ.....”  คุณพ่อพูดอีกว่า “บอกให้ใกล้เคียงกว่านี้อีก”  โรเชตพูดว่า “ครับ...คือตั้งแต่ปีศักดิ์สิทธิ์ 1826”  คุณพ่อพูดว่า “อา...ใช่แล้วตอนนั้นแหละ  เราจะพบเมื่อใช้ความพยายามสักเล็กน้อย”  แล้วโรเชตก็สารภาพบาปทั้งหมดของเขาเหมือนเด็กเล็กๆ   ในวันต่อมาโรเชตและภรรยาก็มาคุกเข่าที่โบสถ์  ส่วนลูกชายของเขา  เดินออกจากโบสถ์โดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำพยุงสองข้างนั้นอีก  เพราะไม่ต้องใช้อีกต่อไป  คุณพ่อเวียนเนย์ได้รักษาโรคฝ่ายจิตใจของผู้เป็นพ่อ  และรักษาโรคฝ่ายร่างกายของผู้เป็นลูก  เป็นอัศจรรย์สองครั้งในครั้งเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น