พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2025 อุปมาเรื่องเศรษฐีโง่เขลาและความโลภ

          ประชาชนคนหนึ่งทูลพระเยซูเจ้าว่า ‘พระอาจารย์ โปรดบอกพี่ชายข้าพเจ้าให้แบ่งมรดกให้ข้าพเจ้าเถิด’ พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า ‘มนุษย์เอ๋ย ใครตั้งเราเป็นผู้พิพากษาหรือเป็นผู้แบ่งมรดกของท่าน แล้วพระองค์ตรัสกับคนเหล่านั้นว่า ‘จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตของคนเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา แม้ว่าเขาจะมั่งมีมากเพียงใดก็ตาม’ พระองค์ยังตรัสอุปมาเรื่องหนึ่งให้เขาทั้งหลายฟังอีกว่า ‘เศรษฐีคนหนึ่งมีที่ดินที่เกิดผลดีอย่างมาก เขาจึงคิดว่า “ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันไม่มีที่พอจะเก็บพืชผลของฉัน” เขาคิดอีกว่า “ฉันจะทำอย่างนี้ จะรื้อยุ้งฉางเก่าแล้วสร้างใหม่ให้ใหญ่โตกว่าเดิม จะได้เก็บข้าวและสมบัติทั้งหมดไว้ แล้วฉันจะพูดกับตนเองว่า “ดีแล้ว เจ้ามีทรัพย์สมบัติมากมายเก็บไว้ใช้ได้หลายปี จงพักผ่อน กินดื่มและสนุกสนานเถิด” แต่พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “คนโง่เอ๋ย คืนนี้ เขาจะเรียกเอาชีวิตเจ้าไป แล้วสิ่งที่เจ้าได้เตรียมไว้จะเป็นของใครเล่า คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนเองแต่ไม่เป็นคนมั่งมีสำหรับพระเจ้า ก็จะเป็นเช่นนี้”
(ลูกา 12:13-21)








วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559

การรักษาโรคทางร่างกายและจิตใจ

ปี 1840 ชายผู้หนึ่งชื่อ โรเชต Rochette พาลูกชายของเขาซึ่งเจ็บป่วยไปพบกับคุณพ่อยอห์น มารีย์ เวียนเนย์ เจ้าอาวาสแห่งอาร์ส  โดยมีภรรยาติดตามมาด้วย  ภรรยาได้ไปสารภาพบาปและรับศีลมหาสนิท  ขณะที่โรเชตสนใจแต่เพียงการรักษาอาการป่วยของลูกชายให้หายเท่านั้น  เขาจึงเข้าไปในโบสถ์เพียงไม่กี่นาที  แล้วไปยืนอยู่บริเวณอ่างน้ำเสกซึ่งอยู่ท้ายโบสถ์  คุณพ่อเจ้าอาวาสเดินจากพระแท่นไปยังที่ฟังสารภาพบาป  โรเชตเห็นคุณพ่อเรียกเขาให้มายังที่ฟังสารภาพบาปนั้น  แต่เขาปฏิเสธ  ในเวลานั้นภรรยาของเขาและลูกชายอยู่ใกล้กับที่ฟังสารภาพบาป  คุณพ่อเวียนเนย์ถามผู้เป็นภรรยาว่า “เขาไม่มีความเชื่อมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”  สุดท้าย  เมื่อจบการเทศน์ครั้งที่สามของคุณพ่อเวียนเนย์   โรเชตก็ตัดสินใจเดินไปยังที่ฟังสารภาพบาป  “เอาละ” เขาคิด  “คุณพ่อเจ้าอาวาสคงไม่กินฉันหรอก”  เขาเดินตามคุณพ่อเวียนเนย์ไปเบื้องหลังพระแท่น  โดยไม่รอช้า  คุณพ่อพูดว่า “โรเชต  ตรงนี้แหละเป็นที่สำหรับเราทั้งสอง” แล้วท่านชี้นิ้วไปที่ฟังสารภาพบาป  “จงเข้าไปข้างใน”  โรเชต ตอบว่า “โอ  ผมยังไม่อยากสารภาพบาปหรอกครับ”  แต่คุณพ่อย้ำว่า “เราจะต้องเริ่มต้นที่นั่น”  โรเชตรู้สึกตั้งตัวไม่ติดต่อการโจมตีอย่างทันทีทันใดนี้  เขาคุกเข่าลงและพูดกระอึกกระอักว่า “คุณพ่อครับ.....เป็นเวลานานประมาณสิบปีแล้ว.....”  คุณพ่อพูดว่า “บอกให้ใกล้เคียงกว่านี้ซิ”  “ประมาณสิบสองปีครับ.....”  คุณพ่อพูดอีกว่า “บอกให้ใกล้เคียงกว่านี้อีก”  โรเชตพูดว่า “ครับ...คือตั้งแต่ปีศักดิ์สิทธิ์ 1826”  คุณพ่อพูดว่า “อา...ใช่แล้วตอนนั้นแหละ  เราจะพบเมื่อใช้ความพยายามสักเล็กน้อย”  แล้วโรเชตก็สารภาพบาปทั้งหมดของเขาเหมือนเด็กเล็กๆ   ในวันต่อมาโรเชตและภรรยาก็มาคุกเข่าที่โบสถ์  ส่วนลูกชายของเขา  เดินออกจากโบสถ์โดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำพยุงสองข้างนั้นอีก  เพราะไม่ต้องใช้อีกต่อไป  คุณพ่อเวียนเนย์ได้รักษาโรคฝ่ายจิตใจของผู้เป็นพ่อ  และรักษาโรคฝ่ายร่างกายของผู้เป็นลูก  เป็นอัศจรรย์สองครั้งในครั้งเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น