พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2024 สมโภชพระเยซูจะกษัตริย์แห่งสากลจักรวาล

           ปีลาตกลับเข้าไปในจวน และเรียกพระเยซูเจ้ามาถามว่า “ท่านเป็นกษัตริย์ของชาวยิวหรือ” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านถามดังนี้ด้วยตนเอง หรือผู้อื่นบอกท่านถึงเรื่องของเรา” ปีลาตตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นชาวยิวหรือ ชนชาติของท่าน และบรรดาหัวหน้าสมณะมอบท่านให้ข้าพเจ้า ท่านทำผิดสิ่งใด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “อาณาจักรของเรามิได้มาจากโลกนี้ ถ้าอาณาจักรของเรามาจากโลกนี้ ผู้รับใช้ของเราก็คงจะต่อสู้เพื่อมิให้เราถูกมอบให้ชาวยิว แต่อาณาจักรของเราไม่ได้เป็นของโลกนี้” ปีลาตจึงถามพระองค์ว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านเป็นกษัตริย์ใช่ไหม” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านพูดว่าเราเป็นกษัตริย์นั้นถูกต้องแล้ว เราเกิดมาเพื่อเป็นกษัตริย์ เรามาในโลกนี้เพื่อเป็นพยานถึงความจริง ผู้ใดอยู่ฝ่ายความจริงก็ฟังเรา”
(ยอห์น 18:33ข-37)








วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2562

คำแถลงของนายกรัฐมนตรีฮังการี


                 นาย Viktor Orbánนายกรัฐมนตรีฮังการี ได้กล่าวในการประชุมระหว่างประเทศครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2019 เรื่องการเบียดเบียนคริสตชนในกรุงบูดาเปสต์ เขากล่าวว่า “คริสต์ศาสนาในยุโรปกำลังอยู่ในความลำบากครั้งยิ่งใหญ่”
                 เขาเสริมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับคริสตชนในตะวันออกกลางนั้น “ใกล้ชิดเรามากกว่าที่ผู้คนคิด”
                 นายวิกเตอร์ชี้ให้เห็นว่าสี่ในห้าคนที่ถูกเบียดเบียนข่มเหงเพราะความเชื่อของเขาเป็นคริสตชน แต่ยุโรปยังคงนิ่งเฉย
                 เขาเชื่อมั่นว่า “เพื่อช่วยรักษายุโรปไว้ , ผู้ที่สามารถให้ความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแก่เราคือ คนที่เรากำลังช่วยเหลืออยู่ในขณะนี้[ผู้ลี้ภัยจากการถูกข่มเหง]” เพราะ“เรากำลังหว่านเมล็ดพันธ์, เรากำลังมอบสิ่งที่จำเป็นให้แก่พวกเขา และได้รับตอบแทนจากพวกเขาคือ ความเชื่อของคริสตชน, ความรักและความเพียร”
                และ“ชาวฮังกาเรียนเชื่อว่าค่านิยมของชาวคริสต์จะนำไปสู่สันติภาพและความสุขและนี่คือสาเหตุที่รัฐธรรมนูญของเราระบุว่าการคุ้มครองศาสนาคริสต์เป็นภาระหน้าที่ของรัฐฮังการี จึงกำหนดให้เราปกป้องชุมชนคริสตชนทั่วโลกที่ถูกกดขี่ข่มเหง”
                 พระอัยกา Ignatius Ephrem II แห่ง Syriac Orthodox Church พูดถึง“ ภัยคุกคามที่มีอยู่” แก่ชาวคริสต์ในตะวันออกกลางว่า “90% ของคริสตชนได้ออกจากอิรักไปแล้ว และ50% ได้ออกไปจากซีเรีย”
                 ท่านกล่าวว่า “หลังจากห้าปีของการส่งเสียงร้องของเรา แต่หลายคนก็ยังไม่ได้ยิน”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น