พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2024 พระเยซูทรงรักษาคนตาบอด

           พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์ ขณะที่พระองค์เสด็จออกจากเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์และประชาชนจำนวนมาก บารทิเมอัสบุตรของทิเมอัส คนขอทานตาบอดนั่งอยู่ริมทาง เมื่อได้ยินว่าพระเยซูชาวนาซาเร็ธกำลังเสด็จผ่านมา เขาเริ่มส่งเสียงร้องตะโกนว่า “ข้าแต่พระเยซู โอรสของกษัตริย์ดาวิด เจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” หลายคนดุเขาให้เงียบ แต่เขากลับตะโกนดังยิ่งกว่าเดิมว่า “พระโอรสของกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” พระเยซูเจ้าทรงหยุด ตรัสว่า “ไปเรียกเขามาซิ” เขาก็เรียกคนตาบอดพลางกล่าวว่า “ทำใจดี ๆ ไว้ ลุกขึ้น พระองค์กำลังเรียกเจ้าแล้ว” คนตาบอดสลัดเสื้อคลุมทิ้ง กระโดดเข้าไปเฝ้าพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านอยากให้เราทำอะไรให้” คนตาบอดทูลว่า “รับโบนีให้ข้าพเจ้าแลเห็นเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ไปเถิด ความเชื่อของท่านได้ช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว” ทันใดนั้น เขากลับแลเห็นและเดินทางติดตามพระองค์ไป
(มาระโก 10:46-52)








วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

แม่พระและการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้า


โอ ลูกของแม่,หัวใจของแม่ระทมทุกข์เหมือนถูกทอดทิ้งให้เดียวดายเมื่อไม่ได้เห็นลูกเป็นเวลาสามวัน เมื่อครั้งที่เราได้พบลูกกำลังสอนอยู่ท่ามกลางธรรมจารย์ในพระวิหาร,แม่ก็ลืมความเศร้าโศกและได้รับความยินดีกลับคืนมา “ท่านตามหาลูกทำไม? ท่านไม่รู้หรือว่าลูกต้องอยู่ในบ้านของพระบิดาของลูก?” ลูกรัก,เวลานั้นแม่ยังไม่เข้าใจจนกระทั่งแม่ได้เห็นร่างของลูกอยู่ในถ้ำฝังพระศพ เป็นเวลาสามวันที่แม่ระลึกถึงคำเหล่านั้นของลูกในเวลาที่ลูกเป็นเด็ก ว่าลูกต้องทำภารกิจของพระบิดา อย่างไรก็ตาม,หัวใจของแม่ก็ยังรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งและเศร้าโศกในเวลาที่ร่างของลูกนอนอยู่บนศิลา  แต่ในวันที่สาม,ลูกได้เนรมิตทุกสิ่งขึ้นใหม่,และในที่สุดหัวใจของแม่ก็ได้รับความบรรเทา
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น