พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ข่าวพระสันตปาปา


"เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐประณามพระสันตะปาปาสำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับสงคราม NATO ของพระสันตะปาปาฟรังซิสที่ทรงกล่าวว่า “นาโต้ไปเห่าหน้าประตูรัสเซีย” ซึ่งอาจนำไปสู่การทำให้วลาดิมีร์ ปูติน รุกรานประเทศอื่น 
นาง Oksana Markarova,เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐฯ, บอกกับสำนักข่าว Newsmax ตอบโต้ต่อการสัมภาษณ์ของพระสันตปาปาฟรังซิสเมื่อวันอังคารที่ 3 พ.ค. กับสื่อสิ่งพิมพ์ของอิตาลี Corriere della Sera ซึ่งพระองค์ตรัสว่า “นาโต้ไปเห่าหน้าประตูรัสเซีย ซึ่งอาจนำไปสู่การทำให้ วลาดิมีร์ ปูติน รุกรานประเทศอื่น” สาเหตุที่แท้จริงของสงครามรัสเซีย-ยูเครนมาจากความเป็นไปได้ที่ยูเครนจะเข้าร่วมกับ NATO เอกอัครราชทูต Markarova บอกว่าการประเมินของพระสันตะปาปาฟรังซิส “ผิดทั้งหมด” เธอบอกว่านาโต้ “ไม่ได้ทำการยั่วยุใดๆ” เพราะยูเครนไม่ได้เข้าร่วมกับ NATO และไม่ได้ทำอะไรเพื่อยุยงให้โจมตีจากรัสเซีย 
เอกอัครราชทูตซึ่งเป็นชาวกรีกคาทอลิกยังกล่าวด้วยว่าพระสันตะปาปาทำผิดพลาดในการให้ ชาวยูเครนและรัสเซียร่วมกันแบกไม้กางเขนในพิธีกรรมคาทอลิกเดินรูปสิบสี่ภาค( Stations of the Cross) ที่โคลอสเซียม 
 ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อสิ่งพิมพ์ของอิตาลี Corriere della Sera เดียวกันนี้,พระสันตปาปายังตรัสว่า 
“เรารู้สึกว่าก่อนที่เราจะไปที่เคียฟ,เราต้องไปที่มอสโคก่อน”  

พระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งมีอาการปวดเข่า ทรงใช้รถเข็นเป็นครั้งแรกในการเข้าเฝ้าทั่วไปในวันพฤหัสบดี นักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พระสันตะปาปาวัย 85 ปีถูกเข็นเข้าไปในห้องประชุมเปาโลที่ 6 ของนครวาติกันเพื่อพบปะกับองค์กรพี่น้องสตรีและแม่ชีคาทอลิก พระองค์ต้องนั่งในรถเข็นหลังจากการผ่าตัดลำไส้ใหญ่เมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว แต่ครั้งนี้พระองค์ทรงเจ็บปวดเป็นอย่างมากที่หัวเช่าขวา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น