“นักบุญบริเก็ตแห่งสวีเดนเคยได้รับการทดลองจากหลายๆคนอย่างต่อเนื่องและด้วยความอดทน มีคนหนึ่งพูดดูถูกเธอ อีกคนยกย่องเธอต่อหน้าเธอ,แต่กลับบ่นว่าถึงเธอเมื่อเธอไม่อยู่ อีกคนด่าเธอ อีกคนพูดไม่ดีกับเธอทั้งๆที่เธออยู่ต่อหน้า ทำให้เธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก อีกคนหนึ่งทำผิดต่อเธออย่างร้ายแรงและเธอก็อวยพรเขา คนหนึ่งทำให้เธอสูญเสียบางสิ่งและเธอก็สวดภาวนาเพื่อเขา และผู้กล่าวร้ายคนที่เจ็ดให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการตายของลูกชายของเธอ ซึ่งเธอรับไว้อย่างสงบ ต่อจากนั้น,นักบุญอักเนสมรณะสักขีได้ปรากฏแก่บริเก็ตพร้อมกับนำมงกุฎที่สวยงามที่สุดที่ประดับด้วยเพชรพลอยเจ็ดเม็ดมาด้วย นักบุญอักเนสบอกกับบริเก็ตว่าผู้ที่กล่าวร้ายทั้งเจ็ดคนนั้นเป็นผู้ที่วางเพชรพลอยไว้บนมงกุฏนี้เอง แล้วนักบุญอักเนสก็สวมมงกุฏให้แก่บริเก็ตแล้วก็หายไป
ผู้ที่ยอมรับความทุกข์จากการกระทำที่ไม่ดีของผู้อื่นได้ประโยชน์มากเพียงใดจากความอดทนเช่นนี้ นักบุญแองเจลาแห่งโฟลิกโน,เมื่อถูกถามว่าเธอสามารถทนต่อความทุกข์ด้วยความเบิกบานใจได้อย่างไร? เธอตอบว่า 'เชื่อเถิดว่า ความยิ่งใหญ่และคุณค่าแห่งความทุกข์นั้นไม่เป็นที่รับรู้และเป็นที่เข้าใจของเรา เพราะถ้าหากเรารู้ถึงคุณค่าของการทดลองของเราแล้ว การทดลองเหล่านั้นก็จะกลายเป็นสิ่งที่เราพยายามแสวงหา และเราจะพยายามฉวยโอกาสจากกันและกันเพื่อรับความทุกข์ทรมาน'"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น