พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง

          พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)








วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ความรักอันยิ่งใหญ่ต่อพระเยซู


ครั้งหนึ่งพระเยซูทรงถามคัทเธอรีนแห่งเซียนนาว่า “ลูกที่รัก ลูกรู้ไหมว่าทำไมเราถึงรักลูก?” คัทเธอรีนตอบว่าเธอไม่ทราบ พระเยซูจึงตรัสว่า “เราจะบอกลูก ถ้าเราเลิกรักลูก ลูกก็จะไม่เหลืออะไรเลย ลูกจะไม่สามารถทำอะไรดีๆได้เลย เวลานี้ลูกคงเห็นแล้วว่าทำไมเราถึงต้องรักลูก” “จริงค่ะ” คัทเธอรีนตอบ และทันใดนั้นเธอก็พูดว่า “ลูกอยากจะรักพระองค์แบบนั้น” 

 แต่ทันทีที่เธอพูดจบ เธอก็รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นไม่เหมาะสม พระเยซูทรงยิ้ม จากนั้นเธอก็พูดอีกว่า “แต่มันไม่ยุติธรรม พระองค์สามารถรักลูกด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ได้ แต่ลูกรักพระองค์ด้วยความรักเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

ในขณะนั้น พระเยซูทรงขัดจังหวะและตรัสว่า “เราได้ทำให้ลูกสามารถรักเราด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ได้” เธอประหลาดใจและถามพระองค์ทันทีว่าทำอย่างไร “เราได้ให้เพื่อนมนุษย์ของลูกอยู่ข้างๆใกล้ลูกแล้ว ไม่ว่าลูกจะทำอะไรกับพวกเขา เราจะถือว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ทำกับเรา” คัทเธอรีนเต็มไปด้วยความปิติยินดีและวิ่งไปดูแลคนเจ็บป่วยในโรงพยาบาล “ตอนนี้ลูกสามารถรักพระเยซูด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ได้แล้ว” 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น