เรามีพลังที่จะช่วยเหลือเพื่อนที่กำลังทุกข์ทรมานและนำความบรรเทาทุกข์มาให้พวกเขาได้ การทำเช่นนั้นคือการแสดงความเมตตาและความรักที่เสียสละตนเอง การเสียสละที่เราต้องทำนั้นน้อยมาก แต่ผลตอบแทนนั้นยิ่งใหญ่ ในวันระลึกถึงวิญญาณในไฟชำระนี้ ขอให้เรามุ่งมั่นอีกครั้งในการอธิษฐานภาวนาเพื่อพี่น้องชายหญิงของเราที่ทุกข์ทรมานในความรักอันบริสุทธิ์ของพระเจ้า
คำกล่าวต่อไปนี้เชื่อกันว่าเป็นของนักบุญแคทเธอรีนแห่งเจนัว ผู้เปี่ยมด้วยศรัทธาในศตวรรษที่ 15 ผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับไฟชำระ เธออธิบายว่าไฟชำระคือสภาวะแห่งการชำระล้างที่วิญญาณต้องทนทุกข์ทรมานจาก “สนิม” แห่งบาปอันเจ็บปวดเพื่อชำระล้างให้หมดจด แต่ความทุกข์ทรมานนี้เป็นรูปแบบหนึ่งของพระเมตตาจากพระเจ้า และพวกเขาชื่นชมยินดีในความรอดพ้น ทำให้ความเจ็บปวดของพวกเขาดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับความยินดีที่ได้พบพระเจ้าในที่สุด
ความเจ็บปวดในไฟชำระ: แคทเธอรีนกล่าวว่าความเจ็บปวดในไฟชำระนั้นรุนแรงพอๆ กับในนรก แต่ไม่ใช่การลงโทษจากพระพิโรธของพระเจ้า ไฟแห่งความรักของพระเจ้าต่างหากที่ชำระวิญญาณให้บริสุทธิ์จากความไม่สมบูรณ์ทั้งปวงก่อนที่จะได้ขึ้นสวรรค์
ความทุกข์ทรมานโดยเต็มใจ: วิญญาณในไฟชำระยอมรับการชำระล้างอันเจ็บปวดนี้ด้วยความยินดี เพราะพวกเขามั่นใจในความรอดพ้นและปรารถนาที่จะเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์
พลังแห่งการอธิษฐานภาวนา: งานเขียนของแคทเธอรีนเน้นย้ำถึงความสำคัญของการอธิษฐานภาวนาและการพลีกรรมเสียสละเพื่อวิญญาณในไฟชำระ ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการชำระล้างและเร่งการเข้าสู่สวรรค์
พระเมตตาของพระเจ้า: ประสบการณ์ในไฟชำระคือการกระทำแห่งพระเมตตาจากพระเจ้าอย่างแท้จริง เพราะช่วยให้วิญญาณได้รับการชำระล้างจากสิ่งตกค้างสุดท้ายของบาป


