Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2025 งานแต่งงานที่หมู่บ้านคานา
  สามวันต่อมามีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ท่านต้องการสิ่งใด เวลาของเรายังมาไม่ถึง” พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาคนรับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด” ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาคนรับใช้ว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม” เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า “จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด” เขาก็ตักไปให้ ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่คนรับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า “ใคร ๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้” พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ ครั้งแรกนี้ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์
(ยอห์น 2:1-11)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2025 งานแต่งงานที่หมู่บ้านคานา
  สามวันต่อมามีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ท่านต้องการสิ่งใด เวลาของเรายังมาไม่ถึง” พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาคนรับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด” ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาคนรับใช้ว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม” เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า “จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด” เขาก็ตักไปให้ ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่คนรับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า “ใคร ๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้” พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ ครั้งแรกนี้ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์
(ยอห์น 2:1-11)
วันพุธที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
วันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
แม่พระแห่งกัวดาลูเป (ตอนที่ 1)
พระเป็นเจ้าทรงประทานเครื่องหมายหลายอย่างให้แก่เรา เพื่อทำให้เราแน่ใจและมีความเชื่อที่มั่นคง เครื่องหมายเหล่านี้ อาทิเช่น
ผ้าห่อพระศพแห่งเมืองตูริน
พระธาตุร่างกายของนักบุญหลายองค์ที่ไม่เน่าเปื่อย
แผ่นศีลมหาสนิทที่กลายเป็นเนื้อและโลหิตแท้ๆ รอยแผลศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ ... อ่านทั้งหมด
วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557
สามเณรชาวโปแลนด์ที่ช่วยชีวิตหญิงชาวยิว
ระหว่างฤดูร้อนปี 1942
มีหญิงสองคนในกรุงคราคอฟ ของโปแลนด์
ถูกประกาศว่าเป็นชาวยิว และถูกนำตัวไปขังคุก........อ่านต่อ
วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับพระสันตะปาปา 10 พระองค์
VATICAN CITY (CNS) -- จาก น.เปโตรมาถึง
พระสันตปาปาฟรังซิส มีพระสันตะปาปาทั้งสิ้น
266 พระองค์ ในจำนวนนี้มีพระสันตะปาปา 78
พระองค์ที่ได้รับ "การสถาปนา" ( recognized หมายถึงพระศาสนจักรรับรู้ว่าเป็นนักบุญ)
เป็นนักบุญ ภายหลังวันที่ 27 เม.ย. 2014
ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก 2 พระองค์ คือพระสันตะปาปายอห์นที่ 23 และพระสันตะปาปายอห์นปอลที่
2
พระสันตะปาปาในยุคแรกเป็นมรณสักขีเพราะความเชื่อ เป็นเครื่องหมายชัดเจนที่พระศาสนจักรรับรองถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน และเมื่อยุคสมัยการเบียดเบียนสิ้นสุดลง จำนวนพระสันตะปาปาที่ได้ชื่อว่า “นักบุญ”
ก็มีน้อยลง
เป็นเวลานานเกือบ
701 ปี มาจนถึง 27 เม.ย. 2014 นี้ มีพระสันตะปาปาเพียง
4 พระองค์เท่านั้นที่ถูกประกาศให้เป็นนักบุญ
เรื่องที่น่าสนใจ 10 เรื่องเกี่ยวกับพระสันตะปาปาที่ได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญในยุคแรกๆมีดังนี้
เรื่องที่น่าสนใจ 10 เรื่องเกี่ยวกับพระสันตะปาปาที่ได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญในยุคแรกๆมีดังนี้
1. น.เปโตร พระนามเดิมคือ
ซีโมน เป็นพระสันตะปาปาองค์แรก ท่านเป็นคนแรกที่บอกว่า พระเยซูเจ้าคือพระคริสต์
(พระผู้ไถ่)
และเป็นบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต
ภารกิจพิเศษของท่านที่กล่าวในพระวรสารคือ “การดูแลฝูงแกะ”
ของพระคริสต์ นั่นคือ
ภารกิจในการประกาศข่าวดีของพระคริสตเจ้า
ปกป้องและเพิ่มพูนความเชื่อในพระคริสต์
ท่านถูกตรึงกางเขนที่เชิงเนินเขาของวาติกัน เมื่อมีอายุ 60 ปี เวลานั้นเป็นสมัยของจักรพรรดิเนโร
ท่านจึงเป็นมรณสักขีเพราะความเชื่อและการเทศนาสั่งสอน หลุมฝังศพของท่านถูกค้นพบอยู่ใต้อาสนวิหารนักบุญเปโตร
2. น. โซเตอร์ (St. Soter) เป็นพระสันตะปาปาแห่งโรมประมาณปี
ค.ศ. 167 ท่านเสียชีวิตในอีก 7
ปีต่อมา เชื่อว่า
น.โซเตอร์เป็นคนแรกที่เริ่มต้นให้มีการฉลองวันอิสเตอร์ที่โรมทุกปี
3. น.ฟาเบียน St.
Fabian เป็นพระสันตะปาปาในปี
236-250 ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นพระสันตะปาปาอย่างน่าประหลาดใจ
ในเวลาที่มีการเลือกผู้ที่จะเป็นพระสันตะปาปา
มีนกพิราบมาเกาะบนศีรษะของท่าน ผู้คนที่นั่นต่างระลึกถึงการที่พระจิตเจ้าเสด็จมาเหนือพระเยซูเจ้า จึงเชื่อว่าพระจิตเจ้าทรงเลือกท่านให้เป็นพระสันตะปาปาองค์ต่อไป
4. น. ดามาซุส St. Damasus
ท่านเกิดที่โรมและเป็นพระสันตะปาปาในปี 366-384
เป็นยุคที่คริสตศาสนาได้รับการประกาศให้เป็นศาสนาประจำชาติของอาณาจักรโรมันในปี
380
และพระองค์ได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันให้เป็นพระสังฆราชแห่งโรมในฐานะผู้สืบทอดจาก
น.เปโตร โดยตรง พระองค์เป็นผู้นำภาษาลาติน
มาใช้ในพิธีกรรมและเป็นมาตรฐานต่อมา
5. น. เลโอ ผู้ยิ่งใหญ่ (St. Leo the Great )ท่านเกิดมาในชื่อว่า
เลโอ และใช้นามนี้เป็นชื่อพระสันตะปาปา พระองค์เป็นพระสันตะปาปาในปี 440-461 เป็นพระสันตะปาปาองค์แรกที่ได้รับสมญาว่า “ผู้ยิ่งใหญ่
the great” และยังเป็นนักปราชญ์ของพระศาสนจักรอีกด้วย พระองค์ประกาศจุดยืนที่แน่ชัดในเรื่องการบังเกิดของพระคริสตเจ้า นั่นคือ พระคริสต์ทรงบังเกิดมีสภาวะพระเจ้าและมนุษย์ในเวลาเดียวกัน พระองค์ยังเป็นที่รู้จักดีในเรื่องที่ได้พบกับ
อัตติลา กษัตริย์ชาวฮั่น ในปี 452
และได้เกลี้ยกล่อมอัตติลาให้ยกเลิกการรุกรานอิตาลีและยกทัพกลับไปได้สำเร็จ
6. น.เกรโกรี่ผู้ยิ่งใหญ่ (St. Gregory the Great) เป็นพระสันตะปาปาในปี
590-604 เป็นพระสันตะปาปาองค์ที่สองที่ได้รับสมญาว่า
“ผู้ยิ่งใหญ่” ต่อจากพระสันตะปาปาเลโอ พระองค์เป็นญาติกับพระสันตะปาปาสองพระองค์ มารดาของพระองค์และป้าสองคนได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญด้วย พระองค์จึงได้ชื่อว่าเป็นนักบุญในท่ามกลางนักบุญ
พระองค์บวชเป็นนักพรตและไม่ประสงค์จะรับตำแหน่งพระสันตปาปาเมื่อถูกเลือก
พระองค์คร่ำครวญบ่อยๆถึงหน้าที่ใหม่ที่ได้รับในฐานะพระสันตปาปาเพราะต้อง “ทนต่อภารกิจและเรื่องราวทางโลก”
จนไม่มีเวลาที่จะรำพึงไตร่ตรองชีวิตในพระวินัยได้อย่างสงบ นอกจากนั้น พระองค์เน้นย้ำอย่างหนักแน่นในเรื่องความยากจนและความเมตตา พระองค์ได้ให้อาหารแก่คนยากจนในโรมและยังเชิญพวกเขาให้มารับประทานอาหารกับพระองค์ทุกวันอีกด้วย
7. น. นิโคลัสที่ 1 (St. Nicholas I the Great) ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นพระสันตะปาปาในปี 858-867 เป็นองค์ที่สามและเป็นองค์สุดท้ายที่ได้สมญาว่า “ผู้ยิ่งใหญ่” พระองค์เพิ่มอำนาจของพระสันตปาปาให้แข็งแกร่งขึ้นและไม่ยอมให้ใครมีสิทธิที่จะขับไล่พระสังฆราชโดยไม่ได้รับอนุมัติจากพระสันตปาปา พระองค์ตรากฎหมายการแต่งงานและกระตุ้นให้พระสังฆราชทำหน้าที่ในการบัพพาชนียกรรมคนในราชวงศ์ซึ่งเป็นคาทอลิก ที่ละทิ้งคู่แต่งงานเพื่อไปแต่งงานใหม่ พระองค์สนับสนุนให้มีเสรีภาพในการแต่งงานและไม่เห็นด้วยกับพระสังฆราชบางองค์ที่บัพพาชนียกรรมคนในราชวงศ์ที่แต่งงานโดยไม่ได้รับการยินยอมจากบิดา
7. น. นิโคลัสที่ 1 (St. Nicholas I the Great) ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นพระสันตะปาปาในปี 858-867 เป็นองค์ที่สามและเป็นองค์สุดท้ายที่ได้สมญาว่า “ผู้ยิ่งใหญ่” พระองค์เพิ่มอำนาจของพระสันตปาปาให้แข็งแกร่งขึ้นและไม่ยอมให้ใครมีสิทธิที่จะขับไล่พระสังฆราชโดยไม่ได้รับอนุมัติจากพระสันตปาปา พระองค์ตรากฎหมายการแต่งงานและกระตุ้นให้พระสังฆราชทำหน้าที่ในการบัพพาชนียกรรมคนในราชวงศ์ซึ่งเป็นคาทอลิก ที่ละทิ้งคู่แต่งงานเพื่อไปแต่งงานใหม่ พระองค์สนับสนุนให้มีเสรีภาพในการแต่งงานและไม่เห็นด้วยกับพระสังฆราชบางองค์ที่บัพพาชนียกรรมคนในราชวงศ์ที่แต่งงานโดยไม่ได้รับการยินยอมจากบิดา
8. น.เกรโกรี่ที่ 7 (St.
Gregory VII) เป็นพระสันตปาปในปี 1073-1085 พระองค์ทำการปฏิรูปหลายอย่าง อย่างเช่น การทำให้อำนาจของพระสันตปาปาครอบคลุมไปถึงพระศาสนจักรตะวันตก พระองค์แต่งตั้งพระสังฆราชและพระสงฆ์ที่น่านับถือหลายองค์ พระองค์ต่อสู้กับการหาเงินเข้าวัดด้วยการขายหรือซื้อกิจการบางอย่างของโบสถ์ พระองค์ให้ผ่านกฎหมายเกี่ยวกับการอยู่ในเพศพรหมจรรย์ของพระสงฆ์นักบวช
ทั้งๆที่มีการถกเถียงกันอยู่บ่อยๆ พระองค์ประกาศให้ประกอบพิธีกรรมแบบโรมเหมือนกันทั่วยุโรป และทรงตั้งให้วันที่ 1 พ.ย. ของทุกปีเป็นวันนักบุญทั้งหลาย พระองค์ทรงยกเลิกบัพพาชนียกรรมแก่กษัตริย์เฮนรี่ที่
4 ในปี 1077 หลังจากที่กษัตริย์เฮนรี่
ทรงทำการใช้โทษบาปด้วยการเดินเท้าเปล่าในหิมะ
9. น. ซีเลสทีนที่ 5 (St.
Celestine V) มาจากคณะเบเนดิกติน
พระองค์ทรงลาจากตำแหน่งพระสันตะปาปาภายหลังจากที่รับตำแหน่งเพียงไม่กี่เดือน
ในปี 1294 เพราะพระองค์ประสงค์ที่จะกลับไปใช้ชีวิตที่ถ่อมตนในอาราม พระองค์ออกกฎอนุญาตให้พระสันตะปาปาสามารถลาออกหรือสละตำแหน่งได้
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 เป็นพระสันตะปาปาองค์ต่อมาที่ทรงสละตำแหน่งในปี
2013
พระองค์ทรงวางผ้าคลุมไหล่ที่ได้รับในวันที่ถูกเลือกเป็นพระสันตปาปาในปี
2005 ไว้บนที่ฝังพระศพของพระสันตะปาปาซีเลสทีนที่ 5 ซึ่งอยู่ที่ L'Aquila, Italy ในปี 2009
และทิ้งไว้ที่นั่นเหมือนเป็นของขวัญ
10 น. ปีโอที่ 10 (St.
Pius X) ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาในปี 1903 สิ้นพระชนม์ในปี 1914
พระองค์ส่งเสริมให้สัตบุรุษรับศีลอภัยบาปและศีลมหาสนิทบ่อยๆ และให้พระสงฆ์ประกอบพิธีบูชามิสซาอย่างสง่า โดยเน้นในเรื่องการร้องเพลงเกรโกเรี่ยนในพิธีให้เหมาะสมและสวยงาม ระมัดระวังไมให้มีการนำเพลงสไตล์สมัยใหม่มาใช้ในพิธี และส่งเสริมให้สัตบุรุษขับร้องเพลงด้วย
พระองค์ทรงตั้งโรมันคูเรียและการประชุมของพระคาร์ดินัลเพื่อออกกฏเกณท์ พระองค์ให้การสนับสนุนข้อสงสัยทางวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตาม
แม้พระองค์จะได้รับรถยนต์ในปี 1909
จากพระอัครสังฆราชแห่งนิวยอร์ก John M. Farley พระองค์ก็ไม่เคยใช้เลย พระองค์ยังคงใช้รถม้าเหมือนเดิม
วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2557
วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2557
สาระสำคัญในพิธีสถาปนานักบุญพระสันตปาปาสองพระองค์
2. การประกาศ -
พระสันตปาปาฟรังซิสจะตรัสว่า “เพื่อเป็นเกียรติแด่พระตรีเอกภาพศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง
ด้วยความยินดีแห่งความเชื่อคาทอลิกและเป็นการเพิ่มพูนชีวิตคริสตชน โดยอาศัยอำนาจแห่งพระเยซูคริสตเจ้า พระเจ้าของเรา
และอำนาจของอัครสาวกเปโตรและเปาโล
และอำนาจของเราเอง
หลังจากได้สวดภาวนาไตร่ตรองโดยอาศัยความช่วยเหลือจากสวรรค์ และได้ปรึกษากับบรรดาพี่น้องพระสังฆราชหลายองค์ เราขอประกาศให้บุญราศีพระสันตะปาปายอห์นที่ 23
และพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 เป็นนักบุญ
ขอให้ท่านได้อยู่ในหมู่นักบุญทั้งหลาย
และได้รับการเคารพจากพระศาสนจักรทั่วโลก
ทั้งนี้ในนามของพระบิดา พระบุตร
และพระจิต”
3. พระธาตุ - ของนักบุญจะถูกนำมาวางไว้บนพระแท่น ในกรณีของพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 จะเป็นโลหิต ซึ่งใช้ในพิธีสถาปนาเป็นบุญราศี ปี 2011 สำหรับพระสันตะปาปายอห์นที่ 23 จะเป็นผิวหนังที่นำมาจากร่างกายของพระองค์ พิธีจบลงด้วยเพลง “Gloria” แล้วพิธีมิสซาดำเนินต่อไปตามปกติ
4. ตัวเลข - ผู้แทนอย่างเป็นทางการจำนวน 93 คน จะมาร่วมในพิธี 24 คนเป็นระดับหัวหน้าแห่งรัฐ กษัตริย์และพระราชินีแห่งเบลเยี่ยม และ สเปน ก็คาดว่าจะมาร่วมด้วย ในฐานะราชวงศ์จากกลุ่มแอนดอร่า บริเทนและลักเซมเบิร์ก ประเทศโปแลนด์ได้ส่งผู้แทนระดับสูงสุดคือ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันและอดีตประธานาธิบดี 2 คน ซึ่งรวมทั้งนาย เล็ค วาเลซ่า ผู้ก่อตั้งกลุ่มโซลิดาลิตี้ที่โค่นล้มระบอบคอมมิวนิสต์ในโปแลนด์ โดยมีพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ทรงสนับสนุน
3. พระธาตุ - ของนักบุญจะถูกนำมาวางไว้บนพระแท่น ในกรณีของพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 จะเป็นโลหิต ซึ่งใช้ในพิธีสถาปนาเป็นบุญราศี ปี 2011 สำหรับพระสันตะปาปายอห์นที่ 23 จะเป็นผิวหนังที่นำมาจากร่างกายของพระองค์ พิธีจบลงด้วยเพลง “Gloria” แล้วพิธีมิสซาดำเนินต่อไปตามปกติ
4. ตัวเลข - ผู้แทนอย่างเป็นทางการจำนวน 93 คน จะมาร่วมในพิธี 24 คนเป็นระดับหัวหน้าแห่งรัฐ กษัตริย์และพระราชินีแห่งเบลเยี่ยม และ สเปน ก็คาดว่าจะมาร่วมด้วย ในฐานะราชวงศ์จากกลุ่มแอนดอร่า บริเทนและลักเซมเบิร์ก ประเทศโปแลนด์ได้ส่งผู้แทนระดับสูงสุดคือ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันและอดีตประธานาธิบดี 2 คน ซึ่งรวมทั้งนาย เล็ค วาเลซ่า ผู้ก่อตั้งกลุ่มโซลิดาลิตี้ที่โค่นล้มระบอบคอมมิวนิสต์ในโปแลนด์ โดยมีพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ทรงสนับสนุน
- พระคาร์ดินัล 130-150 องค์ และ พระสังฆราช 1,000 องค์
จะร่วมประกอบพิธีมิสซาพร้อมกับพระสันตปาปาฟรังซิส
พระสงฆ์ 6,000 องค์ จะร่วมในพิธีโดยนั่งอยู่ด้านหน้าของพระแท่น และพระสันตะปาปากิติคุณ เบเนดิกต์ที่ 16
จะเข้าร่วมในพิธีครั้งนี้
- พระสงฆ์ 600 องค์จะเป็นผู้แจกจ่ายศีลมหาสนิท และสังฆานุกร 210 องค์จะคอยช่วยเหลือ
5. การถ่ายทอดสด
- หนังสือพิธีกรรมอย่างเป็นทางการในรูปแบบไฟล์
pdf สามารถรับได้ทาง
http://www.vatican.va/news_services/liturgy/libretti/2014/20140427-libretto-canonizzazione.pdf
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)