ในบิกแมคหนึ่งชิ้นประกอบด้วย
พลังงาน 540 แคลอรี่ ไขมัน 29
กรัม และ โซเดียม 1040 มิลลิกรัม
ซี่งมากเกินความจำเป็นต่อร่างกายในแต่ละวัน ถ้ากินบิกแมคทุกวันคุณจะอ้วนแน่นอน
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2025 งานแต่งงานที่หมู่บ้านคานา
  สามวันต่อมามีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ท่านต้องการสิ่งใด เวลาของเรายังมาไม่ถึง” พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาคนรับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด” ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาคนรับใช้ว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม” เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า “จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด” เขาก็ตักไปให้ ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่คนรับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า “ใคร ๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้” พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ ครั้งแรกนี้ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์
(ยอห์น 2:1-11)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2025 งานแต่งงานที่หมู่บ้านคานา
  สามวันต่อมามีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ท่านต้องการสิ่งใด เวลาของเรายังมาไม่ถึง” พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาคนรับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด” ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาคนรับใช้ว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม” เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า “จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด” เขาก็ตักไปให้ ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่คนรับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า “ใคร ๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้” พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ ครั้งแรกนี้ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์
(ยอห์น 2:1-11)
วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557
วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557
จดหมายของเจ้าฟ้าชายชาร์ล
เจ้าฟ้าชายชาร์ลทรงส่งจดหมายถึงพระอัครสังฆราช Louis
Sako, Baghdad-based Patriarch of the Chaldean Catholic Church
....อ่านต่อ
....อ่านต่อ
วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2557
พระสันตปาปาตรัสขำขัน
เพื่อคลายอารมณ์เล็กน้อยพระสันตะปาปาจึงตรัสขำขันในการเทศน์
http://www.youtube.com/embed/VIPTdtEvr40?rel=0
วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557
วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557
สถานการณ์ในค่ายผู้ลี้ภัยอิรัก
พระสันตปาปาฟรังซิสทรงโทรศัพท์คุยกับคุณพ่อ Fr Behnam Benoka เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2014
(หนึ่งวันหลังจากที่ทรงกลับจากเกาหลีใต้) ท่านเป็นพระสงฆ์ที่กำลังทำงานที่ค่ายผู้ลี้ภัยจากอิรัก พระสันตปาปาทรงแสดงความใกล้ชิดต่อคริสตชนที่ถูกเบียดเบียนและทรงสัญญาที่จะส่งความช่วยเหลือไปให้อย่างต่อเนื่อง
Fr Behnam Benoka เป็นพระสงฆ์จากเมือง Bartella เป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ใกล้กับโมซุล ท่านเป็นอดีตผู้อำนวยการสามเณราลัยในอันคาวา ท่านกำลังช่วยเหลือคริสตชนที่อพยพหนีความรุนแรงจากผู้ก่อการร้ายอิสลามิก
Fr Behnam Benoka เป็นพระสงฆ์จากเมือง Bartella เป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ใกล้กับโมซุล ท่านเป็นอดีตผู้อำนวยการสามเณราลัยในอันคาวา ท่านกำลังช่วยเหลือคริสตชนที่อพยพหนีความรุนแรงจากผู้ก่อการร้ายอิสลามิก
พระสันตะปาปาทรงสะเทือนพระทัยมากเมื่อได้อ่านจดหมายที่ Fr Benoka
ส่งมาให้โดยผ่านทางผู้สื่อข่าวคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนของท่าน
พระองค์ได้รับจดหมายนั้นบนเครื่องบินที่บินจากเกาหลีใต้
ในจดหมายตอนหนึ่งเขียนไว้ว่า “สถานการณ์ของลูกแกะของพระองค์นั้นลำบากมาก พวกเขาตายและกระหายน้ำ บรรดาผู้น้อยของพระองค์กำลังหวาดกลัวและไม่สามารถทำอะไรได้เลย พวกเราที่เป็นพระสงฆ์ นักบวช
มีเพียงจำนวนน้อยและไม่หวาดกลัวสิ่งใด
แต่ก็ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือฝ่ายร่างกายและจิตใจที่จำเป็นแก่บรรดาลูกๆของพระองค์และของเราได้”
“องค์สันตบิดรที่เคารพ
ผมรู้สึกกลัวที่จะสูญเสียบรรดาลูกๆของพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาเด็กทารก
ทุกๆวันพวกเขาอ่อนแอและต้องดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตรอด ผมกลัวว่าพวกเด็กๆจะตาย โปรดส่งความช่วยเหลือของพระองค์มาให้ด้วยเพื่อที่พวกเราจะได้มีกำลังที่จะอยู่ต่อและสามารถยืนหยัดอยู่ได้”
วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557
กษัตริย์อับดุลลาห์แห่งซาอุดิอาราเบียเตือนชาติตะวันตก
Jeddah: กษัตริย์
อับดุลลาห์ แห่งซาอุดิอาราเบีย
ได้เตือนชาติตะวันตกว่าจะเป็นเป้าหมายต่อไปของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่กำลังปฏิบัติการอยู่ในซีเรียและอิรัก ถ้าหากไม่ทำอะไรที่จะป้องกันอย่างทันการ
“ถ้าเราไม่ใส่ใจพวกเขา
ผมแน่ใจว่าพวกเขาจะเข้าสู่ยุโรปภายในหนึ่งเดือนและเข้าอเมริกาอีกหนี่งเดือนต่อมา”
หนังสือพิมพ์ Asharq
al-Awsat daily ได้ลงความคิดเห็นของกษัตริย์อับดุลลา
“ผู้ก่อการร้ายมันไม่รู้เรื่องพรมแดนหรอก
เพราะฉะนั้นอันตรายจะเกิดขึ้นกับหลายประเทศที่อยู่นอกตะวันออกกลาง”
พระองค์ตรัสกับเอกอัครราชฑูตที่มารับหน้าที่ใหม่ในพิธีต้อนรับที่จัดขึ้นซึ่งมีบรรดาข้าหลวงของซาอุดิอาราเบียและสหรัฐร่วมด้วย
การไม่มีปฏิกิริยาใดๆเลย
เป็นเรื่องที่ "ยอมรับไม่ได้” กษัตริย์อับดุลลาตรัส
“พวกคุณก็เห็นแล้วพวกมันตัดหัวเหยื่อและให้เด็กๆชูหัวไปตามท้องถนน”
พระองค์ตำหนิความโหดร้ายของการกระทำนี้"
“มันไม่ได้เป็นความลับต่อพวกคุณ สิ่งที่พวกมันทำไปแล้วและกำลังทำ
ผมขอร้องให้พวกคุณนำสาส์นของผมไปยังผู้นำของพวกคุณด้วยว่า จงต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายด้วยกำลัง ด้วยเหตุผลและด้วยความรวดเร็ว"
มุสลิมอพยพเป็นภัยต่อคริสตชนในประเทศตะวันตก
พระอัครสังฆราชอิรักซึ่งหลบภัยออกมาจากโมซุลได้ออกมาเตือนคริสตชนชาวยุโรป
พระอัครสังฆราช
อาเมล ชิโมน โนนา
(Archbishop Amel Shimoun Nona) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว Corriere della Sera
“ความทุกข์ยากลำบากของพวกเราในวันนี้เป็นการเตือนพวกคุณ – คริสตชนชาวยุโรปและชาติตะวันตก
ว่าพวกคุณก็จะได้รับความทุกข์แบบเดียวกันนี้ในอนาคตอันใกล้ ผมได้สูญเสียสังฆมณฑลของผมไป พวกหัวรุนแรงชาวอิสลามได้มายึดไป
พวกเขาต้องการให้พวกเราเลือกว่าจะยอมเปลี่ยนศาสนาหรือไม่ก็ตาย แต่ชุมชนของผมยังคงอยู่”
“ได้โปรดเถิด พยายามเข้าใจพวกเราด้วย
หลักการในเรื่องเสรีภาพและประชาธิปไตยของพวกคุณไม่ได้มีค่าอะไรเลยที่นี่
พวกคุณต้องพิจารณาให้ดีถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง เพราะพวกคุณได้ต้อนรับชาวมุสลิมให้เข้าไปอยู่ในประเทศของคุณและพวกเขาก็เจริญเติบโตเพิ่มจำนวนขึ้นมากมาย พวกคุณก็กำลังอยู่ในอันตรายเช่นเดียวกัน
พวกคุณต้องตัดสินใจอย่างเข้มแข็งและเด็ดขาด
ถึงแม้ว่ามันอาจจะต้องขัดแย้งกับหลักการของพวกคุณบ้างก็ตาม พวกคุณคิดว่ามนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน แต่นั่นไม่เป็นความจริง อิสลามไม่ได้บอกว่ามนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน ค่านิยมของพวกคุณไม่ใช่ค่านิยมของพวกเขา ถ้าคุณยังไม่เข้าใจในเรื่องนี้ในเวลานี้
พวกคุณจะกลายเป็นเหยื่อของศัตรูที่พวกคุณได้ต้อนรับให้เข้ามาในบ้านของพวกคุณ”
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)