พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2024 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าสัปดาห์ที่ 4

           หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”
(ลูกา 1:39-45)








วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2557

อาสนวิหารแห่งโลเรตโตในอิตาลี



บทแปล
           ระฆังของโลเรตโต มีเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบสองเมตรและหนักมากกว่า 7,000 กก. ส่งเสียงเชื้อเชิญให้ผู้คนเข้ามาในอาสนวิหารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป  อาสนวิหารนี้ไม่เหมือนกับแห่งอื่น  เป็นอาสนวิหารแห่งแรกที่สร้างอุทิศแด่พระแม่มารีย์  เป็นสถานที่ซึ่งได้พบบ้านเดิมของพระนาง  โดยถูกย้ายจากแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์มายังอิตาลีอย่างอัศจรรย์  อาสนวิหารแห่งโลเรตโตอยู่ที่จังหวัด แอนโคนา ในอิตาลี  การก่อสร้างอาสนวิหารเริ่มต้นในเดือนมีนาคม รูปแบบสถาปัตย์โกธิคของศตวรรษที่ 15 สิ้นสุดการก่อสร้างในศตวรรษที่ 16  เมืองโลเรตโตในปัจจุบันมีประชากรเพียง 11,000 คน อาศัยอยู่รอบๆอาสนวิหาร  ตามความเชื่อของท้องถิ่น  ในวันที่ 10 ปี 1294 บ้านของแม่พระแห่งนาซาเร็ธถูกเคลื่อนย้ายโดยเหล่าเทวดามายังสถานที่ตั้งในปัจจุบันนี้  แต่การวิจัยเมื่อไม่นานนี้  กล่าวว่าบ้านถูกเคลื่อนย้ายมาทางเรือโดยครอบครัวแองเจลิส( Angelis family) เพื่อปกป้องให้พ้นจากการถูกทำลายจากพวกซาราเซ็นในสงครามครูเสด  อาสนวิหารถูกสร้างขึ้นครอบบ้านของแม่พระ  เหนือพระแท่นบูชามีพระรูปแม่พระแห่งโลเรตโตประดิษฐานอยู่  พระรูปทำด้วยไม้ถูกแกะสลักตามคำสั่งของพระสันตะปาปาปีโอที่ 11 โดยใช้ไม้ซีดาร์เลบานอนซึ่งขึ้นในสวนของวาติกัน  มีผ้าคลุมสีทองคลุมพระรูปอยู่ด้วย
          ในปี 1922 มีการสวมมงกุฎให้แก่พระรูปแม่พระนี้และนำไปประดิษฐานไว้ในอาสนวิหาร ในศตวรรษที่ 16 ผู้แสวงบุญเริ่มสวดบทเร้าวิงวอนแม่พระที่เรียกว่า “บทเร้าวิงวอนแห่งโลเรตโต”  ในไม่ช้าอาสนวิหารก็กลายเป็นที่แสวงบุญที่สำคัญแห่งหนึ่งของคริสตชนทั่วโลก  พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 เคยเสด็จมาเยี่ยมที่นี่หลายครั้ง และทรงพบปะกับเยาวชนในปี 1995 และ 2004  ในเดือนกันยายน 2007 พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงเสด็จมาที่อาสนวิหารเพื่อพบกับเยาวชนอิตาเลียนที่อาโกรา  ในระหว่างการเสด็จเยี่ยมพระองค์ทรงอธิบายว่าบ้านแท้ของแม่พระนั้นมีกำแพงเพียงสามด้านเท่านั้น  ไม่ใช่สี่ด้าน  ดังนั้นบ้านจึงเปิดสำหรับทุกคนให้เข้ามา ไม้กางเขนที่ถูกพบปักอยู่ในหินในบ้านศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นแบบเดียวกับไม้กางเขนที่ใช้กันอยู่ในที่นาซาเร็ธในศตวรรษที่ 2
          เรื่องเล่าเกี่ยวกับบ้านศักดิ์สิทธิ์ซึ่งถูกเคลื่อนย้ายโดยเหล่าเทวดา กลายเป็นเรื่องที่บรรดานักบินชื่นชอบจึงได้ขอให้แม่พระแห่งโลเรตโตเป็นองค์อุปถัมภ์ของพวกเขา  และมีบทสวดเพื่อขอการปกป้องในการบินของนักบินด้วย
         “ข้าแต่พระมารดาแห่งโลเรตโต  พระแม่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง  เราวางใจมาพึ่งท่าน โปรดฟังคำภาวนาของเราด้วยความถ่อมตนด้วยเถิด  ศัตรูของความสุภาพถ่อมตนต้องการทำลายคุณธรรมนี้  รวมทั้งสันติภาพ,ความยุติธรรม, ความจริงและความรัก มันต้องการให้เราอยู่ห่างไกลจากองค์พระบุตรของท่าน  โอพระมารดาผู้ทรงรับองค์พระผู้ไถ่ไว้ในพระครรภ์อันนิรมลทินของท่านและทรงอาศัยอยู่กับพระองค์ในบ้านศักดิ์สิทธิ์นี้  ซึ่งได้มาประทับอยู่ที่เนินเขาโลเรตโต  โปรดประทานพระหรรษทานแก่เราเพื่อให้เราแสวงหาและทำตามพระฉบับแบบของพระองค์  ผู้ทรงนำเราไปสู่ความรอดด้วยเถิด”

หมายเหตุ  บ้านแม่พระแห่งโลเรตโตเป็นบ้านที่อยู่ที่นาซาเร็ธ  คนละที่กับบ้านที่เอเฟซุสซึ่งเป็นบ้านที่แม่พระทรงอยู่หลังจากพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์แล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ที่พึ่งที่แท้จริง

เราได้รับความทุกข์ในโลกนี้ไม่มากก็น้อย  เมื่อเรามีความวิตกกังวล  มีความเศร้าโศกในจิตใจ  หรือได้รับความเจ็บป่วยด้านร่างกาย ในเวลาเช่นนี้เราต้องการที่พึ่ง  และเราแสวงหาการปลอบประโลมใจ
...อ่านต่อ

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เค็ก Panettone



ชาวอิตาเลียนนิยมจะทำเค็กที่เรียกว่า Panettone ในวันคริสต์มาส และให้เป็นของขวัญ

วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ความป่าเถื่อนของกลุ่ม ISIS


ผู้แทนพระสันตะปาปาเล่าว่า กลุ่ม ISIS ตัดหัวเด็กคริสตชนสี่คนในอิรักเพราะปฏิเสธไม่ยอมเปลี่ยนศาสนา
Canon Andrew White ซึ่งรู้จักในฐานะผู้แทนพระสันตปาปาแห่งแบกแดด 'vicar of Baghdad'ได้ให้สัมภาษณ์กับ   Orthodox Christian Network ว่า การสังหารนี้เกิดขึ้นในบริเวณที่อยู่ของชาวคริสต์ใกล้กับกรุงแบกแดดซึ่งถูกพวก ISIS ยึดครอง
กลุ่ม ISIS ได้ตามล่าชาวคริสต์ทั่วอิรัก  และได้ฆ่าคนไปเป็นจำนวนมาก พวกมันตัดตัวเด็ก และตัดหัวเด็ก  พวกมันข้นไปทางตอนเหนือของอิรักและทำสิ่งที่ป่าเถื่อนน่าสยดสยองมากมาย”
 “วันหนึ่งพวกมันเดินไปหาคนของเราคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวคริสต์”
 “พวกมันพูดกับชายคนนั้นที่เป็นผู้ใหญ่ว่า แกจะยอมพูดคำที่แสดงถึงการเปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลามหรือจะให้เราฆ่าเด็กๆทุกคนของแก
“เขายอมทำตาม  เขาได้พูดคำๆนั้น  และเขาโทรศัพท์มาหาผม พูดว่า ‘Abouna (คุณพ่อ) ผมได้พูดคำๆนั้น  นั่นหมายถึงพระเยซูเจ้า (Yeshua) ไม่ทรงรักผมอีกต่อไปแล้วหรือครับ?  ผมตอบเขาว่า “พระเยซูเจ้ายังคงรักคุณอยู่  พระองค์ทรงรักคุณเสมอ”
ท่าน Canon White กล่าวว่า  เด็กๆที่ถูกฆ่าตัดหัวได้ปฏิเสธที่จะติดตามโมฮัมหมัด
ISIS พูดกับพวกเด็กว่า แกจงพูดว่า แกจะติดตามโมฮัมหมัด”
“เด็กๆเหล่านั้นซึ่งอายุต่ำกว่า 15  มีสี่คนที่พูดว่า “ไม่  เรารักพระเยซูเจ้า (Yeshua) เรารักพระองค์เสมอและเราจะติดตามพระเยซูตลอดไป  พระเยซูอยู่กับพวกเราเสมอ”
พวกมันพูดอีก “จงพูดเดี๋ยวนี้”  เด็กๆพูดว่า “ไม่ เราไม่ทำ”  แล้วพวกมันก็ตัดหัวเด็ก  คุณจะทำอย่างไรในเรื่องนี้?  คุณทำได้แต่เพียงร้องไห้”
ท่าน Canon White เล่าต่อไปว่า  พวกมันยังขู่จะฆ่าท่านด้วย  เวลานี้ท่านอยู่ที่อิสราเอลตามคำสั่งของพระอัครสังฆราชแห่งแคนเทอเบอรี่ให้ออกจากอิรัก  ท่านบอกว่าผู้ร่วมงานของท่านหลายคนยังคงอยู่ทางตอนเหนือของอิรักเพื่อช่วยเหลือคริสตชนที่ลี้ภัย

วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ชีวิตหลังความตาย

น.ออกัสติน เป็นปิตาจารย์ของพระศาสนจักร คนแรกที่เป็นผู้พิจารณาไตร่ตรองเรื่องการปรากฏตัวของวิญญาณ....อ่านต่อ