พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2025 งานแต่งงานที่หมู่บ้านคานา

           สามวันต่อมามีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ท่านต้องการสิ่งใด เวลาของเรายังมาไม่ถึง” พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาคนรับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด” ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาคนรับใช้ว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม” เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า “จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด” เขาก็ตักไปให้ ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่คนรับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า “ใคร ๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้” พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ ครั้งแรกนี้ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์
(ยอห์น 2:1-11)








วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2557

อาสนวิหารแห่งโลเรตโตในอิตาลี



บทแปล
           ระฆังของโลเรตโต มีเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบสองเมตรและหนักมากกว่า 7,000 กก. ส่งเสียงเชื้อเชิญให้ผู้คนเข้ามาในอาสนวิหารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป  อาสนวิหารนี้ไม่เหมือนกับแห่งอื่น  เป็นอาสนวิหารแห่งแรกที่สร้างอุทิศแด่พระแม่มารีย์  เป็นสถานที่ซึ่งได้พบบ้านเดิมของพระนาง  โดยถูกย้ายจากแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์มายังอิตาลีอย่างอัศจรรย์  อาสนวิหารแห่งโลเรตโตอยู่ที่จังหวัด แอนโคนา ในอิตาลี  การก่อสร้างอาสนวิหารเริ่มต้นในเดือนมีนาคม รูปแบบสถาปัตย์โกธิคของศตวรรษที่ 15 สิ้นสุดการก่อสร้างในศตวรรษที่ 16  เมืองโลเรตโตในปัจจุบันมีประชากรเพียง 11,000 คน อาศัยอยู่รอบๆอาสนวิหาร  ตามความเชื่อของท้องถิ่น  ในวันที่ 10 ปี 1294 บ้านของแม่พระแห่งนาซาเร็ธถูกเคลื่อนย้ายโดยเหล่าเทวดามายังสถานที่ตั้งในปัจจุบันนี้  แต่การวิจัยเมื่อไม่นานนี้  กล่าวว่าบ้านถูกเคลื่อนย้ายมาทางเรือโดยครอบครัวแองเจลิส( Angelis family) เพื่อปกป้องให้พ้นจากการถูกทำลายจากพวกซาราเซ็นในสงครามครูเสด  อาสนวิหารถูกสร้างขึ้นครอบบ้านของแม่พระ  เหนือพระแท่นบูชามีพระรูปแม่พระแห่งโลเรตโตประดิษฐานอยู่  พระรูปทำด้วยไม้ถูกแกะสลักตามคำสั่งของพระสันตะปาปาปีโอที่ 11 โดยใช้ไม้ซีดาร์เลบานอนซึ่งขึ้นในสวนของวาติกัน  มีผ้าคลุมสีทองคลุมพระรูปอยู่ด้วย
          ในปี 1922 มีการสวมมงกุฎให้แก่พระรูปแม่พระนี้และนำไปประดิษฐานไว้ในอาสนวิหาร ในศตวรรษที่ 16 ผู้แสวงบุญเริ่มสวดบทเร้าวิงวอนแม่พระที่เรียกว่า “บทเร้าวิงวอนแห่งโลเรตโต”  ในไม่ช้าอาสนวิหารก็กลายเป็นที่แสวงบุญที่สำคัญแห่งหนึ่งของคริสตชนทั่วโลก  พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 เคยเสด็จมาเยี่ยมที่นี่หลายครั้ง และทรงพบปะกับเยาวชนในปี 1995 และ 2004  ในเดือนกันยายน 2007 พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงเสด็จมาที่อาสนวิหารเพื่อพบกับเยาวชนอิตาเลียนที่อาโกรา  ในระหว่างการเสด็จเยี่ยมพระองค์ทรงอธิบายว่าบ้านแท้ของแม่พระนั้นมีกำแพงเพียงสามด้านเท่านั้น  ไม่ใช่สี่ด้าน  ดังนั้นบ้านจึงเปิดสำหรับทุกคนให้เข้ามา ไม้กางเขนที่ถูกพบปักอยู่ในหินในบ้านศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นแบบเดียวกับไม้กางเขนที่ใช้กันอยู่ในที่นาซาเร็ธในศตวรรษที่ 2
          เรื่องเล่าเกี่ยวกับบ้านศักดิ์สิทธิ์ซึ่งถูกเคลื่อนย้ายโดยเหล่าเทวดา กลายเป็นเรื่องที่บรรดานักบินชื่นชอบจึงได้ขอให้แม่พระแห่งโลเรตโตเป็นองค์อุปถัมภ์ของพวกเขา  และมีบทสวดเพื่อขอการปกป้องในการบินของนักบินด้วย
         “ข้าแต่พระมารดาแห่งโลเรตโต  พระแม่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง  เราวางใจมาพึ่งท่าน โปรดฟังคำภาวนาของเราด้วยความถ่อมตนด้วยเถิด  ศัตรูของความสุภาพถ่อมตนต้องการทำลายคุณธรรมนี้  รวมทั้งสันติภาพ,ความยุติธรรม, ความจริงและความรัก มันต้องการให้เราอยู่ห่างไกลจากองค์พระบุตรของท่าน  โอพระมารดาผู้ทรงรับองค์พระผู้ไถ่ไว้ในพระครรภ์อันนิรมลทินของท่านและทรงอาศัยอยู่กับพระองค์ในบ้านศักดิ์สิทธิ์นี้  ซึ่งได้มาประทับอยู่ที่เนินเขาโลเรตโต  โปรดประทานพระหรรษทานแก่เราเพื่อให้เราแสวงหาและทำตามพระฉบับแบบของพระองค์  ผู้ทรงนำเราไปสู่ความรอดด้วยเถิด”

หมายเหตุ  บ้านแม่พระแห่งโลเรตโตเป็นบ้านที่อยู่ที่นาซาเร็ธ  คนละที่กับบ้านที่เอเฟซุสซึ่งเป็นบ้านที่แม่พระทรงอยู่หลังจากพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น