พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง

          พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)








วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557

อาทิตย์ที่ 2 ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า


7 ธ.ค. 2014 อาทิตย์ที่ 2 ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

แสงของดวงจันทร์จะสว่างเหมือนแสงของดวงอาทิตย์  และแสงของดวงอาทิตย์จะสว่างเป็นเจ็ดเท่า (เหมือนความสว่างของเจ็ดวัน)  ในวันของพระเจ้า  พระองค์จะทรงรักษาบาดแผลของประชากรของพระองค์  พระองค์จะรักษารอยฟกช้ำให้หายด้วยลมหายใจของพระองค์ (อิสยาห์ 30:26)

ข้อคิด

หลายคนอาจเย้ยหยันและไม่เชื่อในอัศจรรย์  ไม่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าจะสามารถรักษาคนตาบอดให้กลับแลเห็นได้ในเวลาที่พระองค์ยังดำเนินอยู่ในโลก  พวกเขาไม่ต้องการเห็นอัศจรรย์ที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำในทุกวันนี้ด้วย  ถ้าเราเปิดใจยอมให้พระเป็นเจ้าทรงสัมผัสชีวิตของเรา  และพยายามค้นหาแผนการณ์ของพระองค์ที่ทรงมีต่อเรา  อัศจรรย์ก็จะบังเกิดขึ้น  อะไรหรือที่กีดขวางเราไม่ให้เป็นส่วนหนึ่งในแผนการณ์ของพระเป็นาเจ้า?  เราจะยังคงตาบอดอยู่อีกหรือ?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น