พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2024 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าสัปดาห์ที่ 4

           หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”
(ลูกา 1:39-45)








วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

คน 6-7 ล้านคนร่วมพิธีมิสซา



มิสซาวันอาทิตย์ 18/1/2015 ที่มะนิลา มีชาวฟิลิปปินส์ประมาณ 6-7 ล้านคนร่วมพิธี  ฝนตกลงมาใน Rizal Park in Manila สถานที่ประกอบพิธีมิสซา  พระองค์ยังทรงพบกับชายที่เป็นบิดาของผู้เสียชีวิตจากพายุเมขลาที่ Tacloban เมื่อวานนี้ด้วย
ในคำเทศน์พระสันตะปาปาตรัสว่า “ปีศาจมันซ่อนตัวในสิ่งล่อลวงของ “ความทันสมัย”
“พระเป็นเจ้าทรงสร้างโลกให้สวยงามเหมือนสวนสวรรค์  แต่มนุษย์ทำให้ธรรมชาติสูญเสียคงามสวยงามไปด้วยการสร้างโครงสร้างทางสังคมที่ทำให้เกิดความยากจน  การกดขี่และการคอร์รัปชั่น” 
“บางครั้งเมื่อเราได้รับความทุกข์ยากลำบาก  มีสิ่งล่อลวงมากมายอยู่รอบๆเรา  ทำให้เราท้อใจ  ดูคล้ายกับว่าพระสัญญาของพระเป็นเจ้าในพระวรสารไม่เป็นจริง  แต่พระคัมภีร์บอกเราว่า  สิ่งที่คุกคามต่อแผนการณ์อันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้าที่ทรงมีสำหรับเราก็คือ  “การโกหก”  ปีศาจเป็นบิดาแห่งการโกหก  บ่อยครั้งมันซ่อนหลุมพรางของมันไว้เบื้องหลังความซับซ้อนของความดึงดูดใจของ “ความทันสมัย” และ “เหมือนมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง”  มันหันเหจิตใจของเราด้วยคำสัญญาของความสุขอันไม่จิรังยั่งยืน  และดังนั้นเราจึงใช้พระพรที่พระเป็นเจ้าทรงประทานแก่เราอย่างไม่อินังขังขอบ  เราใช้เงินในการเล่นการพนันและดื่มเหล้า  เราสนใจแต่ตนเอง  เราลืมที่จะมุ่งไปสู่สิ่งที่แท้จริง  เราลืมไปที่จะดำรงอยู่ในฐานะบุตรของพระเป็นเจ้า  นั่นคือบาป  ของการลืมที่จะเป็นบุตรของพระเป็นเจ้า” 

วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

วันสุดท้ายของการเสด็จเยื่อนฟิลิปปินส์



วันอาทิตย์ที่ 18/1/2015 พระสันตะปาปาประกอบพิธีมิสซาที่ Rizal Park  ในมะนิลา เป็นมิสซาสุดท้ายและสิ้นสุดการเสด็จเยือนฟิลิปปินส์

วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558

วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2558

พระสันตปาปาที่ Tacloban



วันที่ 17 /1/2015 พระสันตะปาปาประกอบพิธีมิสซาที่ Tacloban  ซึ่งอยู่ใกล้กับสนามบิน Tacloban International Airport  บริเวณนี้เคยถูกพายุไต้ฝุ่นไห่เอี้ยนพัดถล่มมาเมื่อปีที่แล้ว  ทำให้ประชาชนเสียชีวิต 6,300 คนและมีผู้ได้รับความยากลำบากมาก  ก่อนมิสซานี้ประชาชนมารอตั้งแต่เช้ามืดและมีฝนตกตลอดเวลา  พระสันตะปาปาทรงสวมเสื้อคลุมฝนด้วย  ก่อนหน้านี้ทางกรมอุตุฯมีคำเตือนว่าจะมีพายุไต้ฝุ่นพัดมาบริเวณนี้ (สองสัปดาห์ก่อน Tropical Storm Jiangmi, renamed Seniang in the Philippines ได้พัดที่นี่ทำให้คนเสียชีวิต 54 คนเนื่องจากน้ำท่วมและแผ่นดินถล่ม)

พระสันตปาปาบนเครื่องบิน


15/1/2015 บนเครื่องบินที่กำลังนำพระสันตะปาปาไปยังฟิลิปปินส์  พระองค์เปิดโอกาสให้นักหนังสือพิมพ์ที่เดินทางไปด้วยได้ซักถาม  ผู้สื่อข่าวชาวฝรั่งเศสถามพระองค์เกี่ยวกับอิสรภาพทางศาสนากับอิสรภาพในการแสดงออก (เกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อการร้ายในฝรั่งเศสที่มีคนตายไป 12 คน)  พระองค์ตอบว่า  ทั้งสองอย่างเป็น “สิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์”  และทรงย้ำว่าการฆ่าคนในนามของพระเจ้าเป็น “ความวิปลาส”  แต่พระองค์ก็บอกว่าต้องมีขึดจำกัดในอิสรภาพในการแสดงออกด้วย (หนังสือพิมพ์แอปโด) พระองค์ยกตัวอย่าง  นาย อัลเบอร์โต แกสปาร์รี ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการในการเดินทางของพระสันตปาปาครั้งนี้และกำลังยืนอยู่ข้างๆพระองค์บนเครื่องบิน  พระสันตะปาปาตรัสว่า “ดร. แกสปาร์รี่เป็นมิตรที่ดีของพระองค์”  ถ้าหากเขาพูดจาดูหมิ่นมารดาของพระองค์  เขาต้องถูกชกแน่นอน  แล้วพระองค์ก็ทรงแสดงท่าทางชกไปที่เขาและตรัสว่า “เป็นธรรมดา  คุณไม่สามารถดูหมิ่นความเชื่อของคนอื่น  คุณไม่สามารถเล่นตลกในความเชื่อของผู้อื่น”
พระสันตะปาปาตรัสเกี่ยวกับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงว่า  พระองค์ไม่แน่ใจว่ากิจกรรมของมนุษย์เป็นสาเหตุแต่เพียงอย่างเดียวหรือไม่  “มนุษย์ได้ทำร้ายธรรมชาติมากเกินไปแล้ว”  พระองค์หวังว่าสมณลิขิตในเรื่องระบบนิเวศน์ของพระองค์ จะทำให้เกิดความกล้าที่จะตัดสินใจพิทักษ์สิ่งสร้างของพระเป็นเจ้า
พระองค์ยังทรงบอกด้วยว่าพระองค์จะสถาปนาคุณพ่อ เซอร์ร่า เป็นนักบุญ (พระสงฆ์ชาวสเปน)  เมื่อพระองค์เสด็จไปเยือนสหรัฐอเมริกาในเดือนกันยายน

 

วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2558

พระสันตปาปาถึงฟิลิปปินส์



      เครื่องบินมาถึงสนามบินก่อนกำหนด 10 นาที  ฝูงชนมองเห็นพระองค์ทางหน้าต่าง  ได้โห่ร้องต้อนรับพระองค์
กลุ่มผู้ต้อนรับกำลังยืนรอพระองค์อยู่  มีทั้งทหาร  นักการเมือง  ผู้นำศาสนจักรของฟิลิปปินส์  สิ่งที่พระสันตปาปาจะรู้สึกในวินาทีแรกที่ลงมาจากเครื่องบินก็คือ ลมที่พัดแรงจนทำให้หมวกที่สวมอยู่ปลิว
      นายนอยนอย อคิวโน ประธานาธิบดีเป็นบุคคลแรกที่ต้อนรับพระองค์  กลุ่มเยาวชนได้ร้องเพลงประกอบท่าทางเป็นการต้อนรับด้วย
      พระคาร์ดินัล ลุยส์ อันโตนิโอ พระอัครสังฆราชแห่งมานิลา ต้อนรับพระสันตะปาปา  เป็นเวลาที่น่าประทับใจ  เพราะเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว  ทั้งสองได้สวมกอดกันแต่ในบรรยากาศที่แตกต่างออกไป  ประเทศฟิลิปปินส์ถูดพายุได้ฝุ่นถล่มจนราบเรียบ  ผู้คนนับพันที่ได้รับผลกระทบ
       หลังจากนั้นพระองค์เสด็จไปที่ประทับ  ตามทางมีประชาชนมากมายมายืนส่งเสียงต้อนรับเป็นระยะๆ
         นี่เป็นครั้งที่สามที่มีพระสันตะปาปาเสด็จเยือนประเทศนี้  พระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 เสด็จมาในปี 1970  พระสันตปาปายอห์นปอลที่ 2 เสด็จมาสองครั้งในปี 1981 และ 1995

วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

ใครคือนักบุญองค์แรกของศรีลังกา



เขาเกิดที่อินเดียในปี 1651 หลังจากได้รับศีลบรรพชาเป็นพระสงฆ์แล้ว  เขาเดินทางมาที่ศรีลังกาในราวศตวรรษที่ 17 – 18  ซึ่งเป็นเวลาที่ชาวดัทช์กำลังปกครองเกาะอยู่และบังคับให้ชาวคาทอลิกที่นั่นเปลี่ยนเป็นคาลวินนิสม  ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้  ท่านโจเซฟ วาส  Joseph Vaz  ได้เทศน์สอนบรรดาคาทอลิกที่กำลังถูกเบียดเบียนอย่างหนัก
Fr,Prasad Harshan : เขาเป็นคนที่น่ามหัศจรรย์มาก  เต็มเปี่ยมด้วยความรัก  ความประนีประนอมและสันติภาพ  พระเป็นเจ้าทรงประทานให้ท่านกลับมาสู่เราอีกครั้งในฐานะนักบุญองค์แรกของศรีลังกา  พระสันตปาปาฟรังซิสทรงประทานท่านแก่เราในแผ่นดินของเราเอง