ต่อจากคิวบา...ก็คือประเทศจีน มีคำถามว่าประเทศจีนจะเป็นอย่างไรต่อไป?
ประเทศคอมมิวนิสต์นี้จะสานสัมพันธ์กับวาติกันหรือพระศาสนจักรคาทอลิกอย่างเต็มตัวหรือไม่?
พระสันตปาปาฟรังซิสพยายามผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในเรื่องนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่า จะไม่มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญๆเกิดขึ้น..อย่างน้อยก็ในตอนนี้
FR. BERNARDO CERVELLERA ผู้อำนวยการของเอเชียนิวส์
“ปัจจุบัน ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก
และดูเหมือนมีอำนาจมากที่สุดในการเมืองระดับโลก ไม่เหมือนกับคิวบา จีนไม่จำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือจากวาติกันหรือประเทศอื่นๆเพื่อให้มีความมั่นคง”
Fr. Bernardo Cervellera เป็นผู้ก่อตั้งเอเชียนิวส์ ท่านเคยเป็นมิชชันนารีในประเทศจีนอยู่หลายปี
จนกระทั่งท่านถูกเชิญให้ออกนอกประเทศไป
ด้วยความตื่นตัวในคริสตศาสนาของแถบเอเชีย จะทำให้ในปี ค.ศ. 2050 ประเทศจีนจะกลายเป็นประเทศที่มีคริสตชนมากที่สุดในโลก
มีสิ่งท้าทายสำคัญประการหนึ่งระหว่างวาติกันกับประเทศจีน ประเทศคอมมิวนิสต์ประเทศนี้ประกาศว่า - รัฐบาลจะเป็นผู้ดูแลศาสนจักรของตนเอง และกำลังกำจัดอิทธิพลของวาติกัน
รัฐบาลแต่งตั้งพระสังฆราชของตนเองและมักประกาศความเป็นอิสระของตนอยู่บ่อยๆ
FR. BERNARDO CERVELLERA
“สำนักงานศาสนาของจีนส่งสาส์นออกมาอย่างต่อเนื่องว่าต้องการแยกตัวออกจากพระศาสนจักร พวกเขาแต่งตั้งและบวชพระสังฆราชใหม่ของตนเอง 15
องค์ต่อปี พวกเขาบอกว่าเขามีสิทธิที่จะดูแลศาสนจักรอิสระได้โดยปราศจากอิทธิพลของต่างประเทศซึ่งหมายถึงวาติกัน”
ในความเป็นจริง
พระสังฆราชจีนที่ได้รับการรับรองจากวาติกันหลายคนที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในประเทศจีน
มีพระสังฆราชบางองค์ที่ถูกบังคับใช้แรงงานในค่ายกักกัน
อย่างไรก็ตาม มีข่าวดีอยู่บ้างในพื้นที่ส่วนใหญ่
ผู้มีความเชื่อยังสามารถแสดงความเชื่อของพวกเขาได้อย่างเปิดเผยในประเทศจีน
แต่การควบคุมอย่างเข้มงวดยังมีอยู่สำหรับพระสงฆ์ที่ดูแลโบสถ์ รวมทั้งในด้านการประกอบพิธีมิสซา
FR. BERNARDO CERVELLERA
“นี่หมายความว่า
พระสงฆ์ไม่มีอิสระในการออกไปอภิบาลในชุมชนของพวกท่าน ท่านต้องทำตามแนวทางที่รัฐบาลจัดทำขึ้น”
Fr. Cervellera ไม่คิดว่าจะมีความก้าวหน้าที่สำคัญเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ระหว่างพระศาสนจักรและประเทศจีน ท่านคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ต้องใช้เวลาสิบปีเป็นอย่างน้อย