พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี

           เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ผู้เลี้ยงแกะย่อมสละชีวิตเพื่อแกะของตน ลูกจ้างที่ไม่ใช่ผู้เลี้ยงแกะและไม่เป็นเจ้าของแกะ เมื่อเห็นสุนัขป่าเข้ามาก็ละทิ้งบรรดาแกะและหนีไป สุนัขป่าแย่งชิงแกะ และฝูงแกะก็กระจัดกระจายไป ลูกจ้างวิ่งหนีเพราะเขาเป็นเพียงลูกจ้าง ไม่มีความห่วงใยฝูงแกะเลย เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี เรารู้จักแกะของเรา และแกะของเราก็รู้จักเรา พระบิดาทรงรู้จักเราฉันใด เราก็รู้จักพระบิดาฉันนั้น เรายอมสละชีวิตเพื่อแกะของเรา เรายังมีแกะอื่น ๆ ซึ่งไม่อยู่ในคอกนี้ เราต้องนำหน้าแกะเหล่านี้ด้วย แกะจะฟังเสียงของเรา
           จะมีแกะเพียงฝูงเดียวและผู้เลี้ยงเพียงคนเดียว พระบิดาทรงรักเรา เพราะเราสละชีวิตของเราเพื่อจะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก ไม่มีใครเอาชีวิตไปจากเราได้ แต่เราเองสมัครใจสละชีวิตนั้น
           เรามีอำนาจที่จะสละชีวิตของเรา และมีอำนาจที่จะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก นี่คือพระบัญชาที่เราได้รับจากพระบิดาของเรา‘
(ยอห์น 10:11-18)








วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Sister Briege Mckenna


Sister Briege Mckenna
เธอได้รับพระพรการรักษา...แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ซิสเตอร์บริกต้องการพูดถึง
เรื่องราวของซิสเตอร์บริก ( Sister Briege Mckenna has )ถูกกล่าวขานมากมาย  ครั้งหนึ่งนายแพทย์เคยบอกกับเธอว่า  เธอจะต้องนั่งอยู่บนรถเข็นไปตลอดชีวิต  แต่วันหนึ่งเธอก็หายจากโรคอย่างอัศจรรย์
แต่เรื่องนั้นก็เป็นเพียงเหตุการณ์ครั้งหนึ่งของการเดินทางฝ่ายจิตของเธอ
             ในปี 1971 ขณะที่เธอสวดภาวนาเบื้องหน้าศีลมหาสนิท  เธอเล่าว่า พระเยซูเจ้าได้มอบหมายภารกิจแก่เธอเกี่ยวกับพระสงฆ์
SISTER BRIEGE MCKENNA 
ซิสเตอร์บริก แห่งคณะนักบุญคลารา(St. Clara Sisters Retreat Ministry )
“พระเยซูตรัสกับดิฉันว่า จงบอกพระสงฆ์เกี่ยวกับ  สิ่งที่เราบอกกับลูกและบอกกับพวกเขา  เราจะใช้ลูก”  ดิฉันจะอยู่ในสัมพันธญาณเป็นเวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง  และดิฉันได้เห็นภาพกระบวนการในการบวชพระสงฆ์  ทำให้ดิฉันร้องไห้”
ซิสเตอร์จำวันนั้นได้เหมือนเกิดขึ้นเมื่อวานนี้  เธอเล่าว่าพระเยซูตรัสกับเธอว่า จะเกิดวิกฤตการณ์และการขาดแคลนพระสงฆ์ขึ้น  และพระองค์ขอให้ดิฉัน  ดูแลพระสงฆ์และทำให้พวกท่านเข้มแข็งในกระแสเรียกของพวกท่าน  นั่นเป็นการสนทนาระหว่างเธอกับพระเยซูเจ้า  เธอถามพระองค์และพระองค์ทรงตอบเธอ 
 “ดิฉันพูดกับพระองค์ว่า  พระเจ้าข้ามีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับการเป็นพระสงฆ์หรือคะ?  ดิฉันได้ยินพระองค์ตรัสอย่างชัดเจนในหัวใจของดิฉันว่า  อะไรที่ผิดปกติน่ะหรือ?  การเป็นพระสงฆ์เป็นของประทานจากเรา  และเราเคยประทานสิ่งใดที่ไม่สมบูรณ์แบบกระนั้นหรือ?
ในการปฏิบัติตามกระแสเรียกนั้นเป็นเวลาหลายปี  ซิสเตอร์บริกได้ช่วยเหลือพระสงฆ์นับพันท่านในทั่วทุกมุมโลก  ซิสเตอร์พูดให้พระสงฆ์มีความมั่นใจ  ให้กำลังใจ  เตือนและท้าทายพวกท่าน  ซิสเตอร์แบกรับภารกิจนี้โดยคิดถึงพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ตรัสกับเธอว่า
 “กระแสเรียกมากมายที่เราประทานให้นั้น  จะไม่กลับมาโดยไม่บังเกิดผล  เราต้องการให้ลูกเดินทางไปทั่วโลกและเราต้องการให้ลูกพูดกับครอบครัวทั้งหลายถึงความหมายของการเป็นพระสงฆ์และพระพรของสถานะนี้”
มีนิมิตเกิดขึ้นอีกมากมายตามมารวมทั้งประสบการณ์ที่เหนือธรรมชาติ  ได้แก่พระพรในการรักษา  ซิสเตอร์บอกว่า  นั่นไม่ใช้การกระทำของเธอ  แต่เป็นพระเยซูเจ้าที่ทรงใช้เธอเป็นเครื่องมือ  ในเรื่องนี้ เธอพูดอย่างติดตลก
 “ผู้คนมาหาดิฉันและพูดกับดิฉันว่า  ดิฉันสามารถทำนายอนาคตได้หรือไม่?  ดิฉันจะเป็นพระสังฆราชไหม?  ดิฉันตอบว่า  พระเป็นเจ้าไม่ได้บอกดิฉันในเรื่องเหล่านี้”
หลายสิบปีที่ผ่านมา  พระศาสนจักรต้องเผชิญกับสิ่งท้าทายหลายประการ  รวมทั้งการถูกดูหมิ่นดูแคลน  แต่ซิสเตอร์บอกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งดี  เพราะเกิดความสนใจมากขึ้นในการพัฒนาปรับปรุงทำให้พระสงฆ์กลับมาสู่กระแสเรียกที่แท้จริง
ศักดิ์ศรีของพระสงฆ์ ไม่ใช่ศักดิ์ศรีของโลก  ซิสเตอร์บริกกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น