พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2025 ปีศาจมาประจญพระเยซูเจ้า

           พระเยซูเจ้าทรงได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยมทรงพระดำเนินจากแม่น้ำจอร์แดน พระจิตเจ้าทรงนำพระองค์ไปยังถิ่นทุรกันดาร ทรงถูกปีศาจผจญเป็นเวลาสี่สิบวัน ตลอดเวลานั้นพระองค์มิได้เสวยสิ่งใดเลย ในที่สุด ทรงหิว ปีศาจจึงทูลพระองค์ว่า “ถ้าท่านเป็นบุตรพระเจ้า จงสั่งให้หินก้อนนี้กลายเป็นขนมปังเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่ามนุษย์มิได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารเท่านั้น” ปีศาจจึงนำพระองค์ไปยังที่สูงแห่งหนึ่ง แสดงให้พระองค์ทอดพระเนตรอาณาจักรต่าง ๆ ของโลกทั้งหมดในคราวเดียว และทูลพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าจะให้อำนาจและความรุ่งเรืองของอาณาจักรเหล่านี้ทั้งหมดแก่ท่าน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะให้ผู้ใดก็ได้ตามความปรารถนา ดังนั้น ถ้าท่านกราบนมัสการข้าพเจ้า ทุกสิ่งจะเป็นของท่าน” พระเยซูเจ้าตรัสตอบปีศาจว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า
           ‘จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์แต่ผู้เดียวเท่านั้น’”
           ปีศาจนำพระองค์ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม วางพระองค์ลงที่ยอดพระวิหาร แล้วทูลว่า “ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้า จงกระโจนลงไปเบื้องล่างเถิด เพราะมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ‘พระเจ้าจะทรงสั่งทูตสวรรค์ให้พิทักษ์รักษาท่าน’ และยังมีเขียนอีกว่า ‘ทูตสวรรค์จะคอยพยุงท่านไว้มิให้เท้ากระทบหิน’” แต่พระเยซูเจ้าตรัสตอบปีศาจว่า มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “อย่าทดลององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเลย” เมื่อปีศาจทดลองพระองค์ทุกวิถีทางแล้ว จึงแยกจากไป
(ลูกา 4:1-13)








วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อย่ากลัวที่จะไปสารภาพบาป



พระสันตปาปาฟรังซิสตรัสเกี่ยวกับพระคุณการุณย์แห่งอัสซีซี และทรงขอให้คาทอลิกทุกคนไปสารภาพบาป
พระสันตปาปาฟรังซิส
“วันนี้เราระลึกถึงพระคุณการุณย์แห่งอัสซีซี  เป็นการเรียกให้เราเข้าไปใกล้ชิดพระเยซูเจ้าในศีลแห่งพระเมตตาเพื่อจะรับศีลมหาสนิทได้ด้วย  บางคนกลัวที่จะเข้าไปยังที่สารภาพบาป  พวกเขาลืมคิดว่าศีลนี้จะทำให้เขาไม่ต้องรับการพิพากษาอันเคร่งครัด  แต่จะได้รับพระเมตตาเหลือล้นจากพระบิดาแทน”
พระคุณการุณย์แห่งอัสซีซีคืออะไร?  พระคุณนี้เป็นพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์  เราสามารถรับพระคุณนี้ได้ภายในสองวันแรกของเดือนสิงหาคม
จากธรรมประเพณีซึ่งย้อนหลังไปยังปี 1216  ในวันที่ 1 สิงหาคม  แม่พระพร้อมด้วยเหล่านิกรเทวดาได้ปรากฏต่อนักบุญ ฟรังซิส อัสซีซี ที่โบสถ์น้อย แม่พระแหงปวงเทวา ที่อัสซีซี ในเวลานั้น นักบุญฟรังซิสได้วอนขอพระคุณการุณย์จากพระเป็นเจ้าประทานแก่ทุกคนที่มาแสวงบุญในโบสถ์ที่ถวายแด่แม่พระ  และพระเป็นเจ้าก็ทรงประทานให้
ในวันรุ่งขึ้น  น.ฟรังซิสได้ขอต่อพระสันตะปาปาโฮโนเรียสที่ 3 ให้ทรงอนุมัติในเรื่องนี้  และพระองค์ก็ทรงอนุมัติ
เป็นเวลานานหลายศตวรรษที่พระคุณการุณย์นี้สามารถรับได้เฉพาะที่โบสถ์น้อย แม่พระแห่งปวงเทวา เท่านั้น  แต่ปัจจุบันนี้เราสามารถรับพระคุณนี้ได้ในโบสถ์ทุกโบสถ์ของคณะฟรังซิสกัน  และโบสถ์ทุกโบสถ์ในอัสซีซี  และต้องทำตามเงื่อนไขคือ  สารภาพบาป  รับศีลมหาสนิทและสวดภาวนาตามพระประสงค์ของพระสันตปาปา
 
 
 

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2558

คาทอลิกในประเทศจีน



ต่อจากคิวบา...ก็คือประเทศจีน  มีคำถามว่าประเทศจีนจะเป็นอย่างไรต่อไป? ประเทศคอมมิวนิสต์นี้จะสานสัมพันธ์กับวาติกันหรือพระศาสนจักรคาทอลิกอย่างเต็มตัวหรือไม่?
พระสันตปาปาฟรังซิสพยายามผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในเรื่องนี้  แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่า   จะไม่มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญๆเกิดขึ้น..อย่างน้อยก็ในตอนนี้
FR. BERNARDO CERVELLERA ผู้อำนวยการของเอเชียนิวส์
“ปัจจุบัน ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก  และดูเหมือนมีอำนาจมากที่สุดในการเมืองระดับโลก  ไม่เหมือนกับคิวบา  จีนไม่จำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือจากวาติกันหรือประเทศอื่นๆเพื่อให้มีความมั่นคง”
Fr. Bernardo Cervellera เป็นผู้ก่อตั้งเอเชียนิวส์  ท่านเคยเป็นมิชชันนารีในประเทศจีนอยู่หลายปี จนกระทั่งท่านถูกเชิญให้ออกนอกประเทศไป
ด้วยความตื่นตัวในคริสตศาสนาของแถบเอเชีย  จะทำให้ในปี ค.ศ. 2050 ประเทศจีนจะกลายเป็นประเทศที่มีคริสตชนมากที่สุดในโลก
มีสิ่งท้าทายสำคัญประการหนึ่งระหว่างวาติกันกับประเทศจีน  ประเทศคอมมิวนิสต์ประเทศนี้ประกาศว่า  - รัฐบาลจะเป็นผู้ดูแลศาสนจักรของตนเอง  และกำลังกำจัดอิทธิพลของวาติกัน  รัฐบาลแต่งตั้งพระสังฆราชของตนเองและมักประกาศความเป็นอิสระของตนอยู่บ่อยๆ
FR. BERNARDO CERVELLERA 
 “สำนักงานศาสนาของจีนส่งสาส์นออกมาอย่างต่อเนื่องว่าต้องการแยกตัวออกจากพระศาสนจักร  พวกเขาแต่งตั้งและบวชพระสังฆราชใหม่ของตนเอง 15 องค์ต่อปี  พวกเขาบอกว่าเขามีสิทธิที่จะดูแลศาสนจักรอิสระได้โดยปราศจากอิทธิพลของต่างประเทศซึ่งหมายถึงวาติกัน”
ในความเป็นจริง  พระสังฆราชจีนที่ได้รับการรับรองจากวาติกันหลายคนที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในประเทศจีน  มีพระสังฆราชบางองค์ที่ถูกบังคับใช้แรงงานในค่ายกักกัน
อย่างไรก็ตาม  มีข่าวดีอยู่บ้างในพื้นที่ส่วนใหญ่  ผู้มีความเชื่อยังสามารถแสดงความเชื่อของพวกเขาได้อย่างเปิดเผยในประเทศจีน  แต่การควบคุมอย่างเข้มงวดยังมีอยู่สำหรับพระสงฆ์ที่ดูแลโบสถ์  รวมทั้งในด้านการประกอบพิธีมิสซา
FR. BERNARDO CERVELLERA 
 “นี่หมายความว่า พระสงฆ์ไม่มีอิสระในการออกไปอภิบาลในชุมชนของพวกท่าน  ท่านต้องทำตามแนวทางที่รัฐบาลจัดทำขึ้น”
Fr. Cervellera ไม่คิดว่าจะมีความก้าวหน้าที่สำคัญเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ระหว่างพระศาสนจักรและประเทศจีน  ท่านคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ต้องใช้เวลาสิบปีเป็นอย่างน้อย

วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2558

คาตาลินา รีวาส

คาตาลีนา ริวาส คือใคร?  หลายคนอาจเคยรู้จักและได้ยินชื่อของเธอบ้างแล้ว  เธอเป็นผู้ได้รับพระพรพิเศษชาวโบลิเวีย  ปัจจุบันนี้เธออาศัยอยู่ที่เมกซิโก .....อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Sister Briege Mckenna


Sister Briege Mckenna
เธอได้รับพระพรการรักษา...แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ซิสเตอร์บริกต้องการพูดถึง
เรื่องราวของซิสเตอร์บริก ( Sister Briege Mckenna has )ถูกกล่าวขานมากมาย  ครั้งหนึ่งนายแพทย์เคยบอกกับเธอว่า  เธอจะต้องนั่งอยู่บนรถเข็นไปตลอดชีวิต  แต่วันหนึ่งเธอก็หายจากโรคอย่างอัศจรรย์
แต่เรื่องนั้นก็เป็นเพียงเหตุการณ์ครั้งหนึ่งของการเดินทางฝ่ายจิตของเธอ
             ในปี 1971 ขณะที่เธอสวดภาวนาเบื้องหน้าศีลมหาสนิท  เธอเล่าว่า พระเยซูเจ้าได้มอบหมายภารกิจแก่เธอเกี่ยวกับพระสงฆ์
SISTER BRIEGE MCKENNA 
ซิสเตอร์บริก แห่งคณะนักบุญคลารา(St. Clara Sisters Retreat Ministry )
“พระเยซูตรัสกับดิฉันว่า จงบอกพระสงฆ์เกี่ยวกับ  สิ่งที่เราบอกกับลูกและบอกกับพวกเขา  เราจะใช้ลูก”  ดิฉันจะอยู่ในสัมพันธญาณเป็นเวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง  และดิฉันได้เห็นภาพกระบวนการในการบวชพระสงฆ์  ทำให้ดิฉันร้องไห้”
ซิสเตอร์จำวันนั้นได้เหมือนเกิดขึ้นเมื่อวานนี้  เธอเล่าว่าพระเยซูตรัสกับเธอว่า จะเกิดวิกฤตการณ์และการขาดแคลนพระสงฆ์ขึ้น  และพระองค์ขอให้ดิฉัน  ดูแลพระสงฆ์และทำให้พวกท่านเข้มแข็งในกระแสเรียกของพวกท่าน  นั่นเป็นการสนทนาระหว่างเธอกับพระเยซูเจ้า  เธอถามพระองค์และพระองค์ทรงตอบเธอ 
 “ดิฉันพูดกับพระองค์ว่า  พระเจ้าข้ามีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับการเป็นพระสงฆ์หรือคะ?  ดิฉันได้ยินพระองค์ตรัสอย่างชัดเจนในหัวใจของดิฉันว่า  อะไรที่ผิดปกติน่ะหรือ?  การเป็นพระสงฆ์เป็นของประทานจากเรา  และเราเคยประทานสิ่งใดที่ไม่สมบูรณ์แบบกระนั้นหรือ?
ในการปฏิบัติตามกระแสเรียกนั้นเป็นเวลาหลายปี  ซิสเตอร์บริกได้ช่วยเหลือพระสงฆ์นับพันท่านในทั่วทุกมุมโลก  ซิสเตอร์พูดให้พระสงฆ์มีความมั่นใจ  ให้กำลังใจ  เตือนและท้าทายพวกท่าน  ซิสเตอร์แบกรับภารกิจนี้โดยคิดถึงพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ตรัสกับเธอว่า
 “กระแสเรียกมากมายที่เราประทานให้นั้น  จะไม่กลับมาโดยไม่บังเกิดผล  เราต้องการให้ลูกเดินทางไปทั่วโลกและเราต้องการให้ลูกพูดกับครอบครัวทั้งหลายถึงความหมายของการเป็นพระสงฆ์และพระพรของสถานะนี้”
มีนิมิตเกิดขึ้นอีกมากมายตามมารวมทั้งประสบการณ์ที่เหนือธรรมชาติ  ได้แก่พระพรในการรักษา  ซิสเตอร์บอกว่า  นั่นไม่ใช้การกระทำของเธอ  แต่เป็นพระเยซูเจ้าที่ทรงใช้เธอเป็นเครื่องมือ  ในเรื่องนี้ เธอพูดอย่างติดตลก
 “ผู้คนมาหาดิฉันและพูดกับดิฉันว่า  ดิฉันสามารถทำนายอนาคตได้หรือไม่?  ดิฉันจะเป็นพระสังฆราชไหม?  ดิฉันตอบว่า  พระเป็นเจ้าไม่ได้บอกดิฉันในเรื่องเหล่านี้”
หลายสิบปีที่ผ่านมา  พระศาสนจักรต้องเผชิญกับสิ่งท้าทายหลายประการ  รวมทั้งการถูกดูหมิ่นดูแคลน  แต่ซิสเตอร์บอกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งดี  เพราะเกิดความสนใจมากขึ้นในการพัฒนาปรับปรุงทำให้พระสงฆ์กลับมาสู่กระแสเรียกที่แท้จริง
ศักดิ์ศรีของพระสงฆ์ ไม่ใช่ศักดิ์ศรีของโลก  ซิสเตอร์บริกกล่าว