พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน 2025 เทศกาลเตรียมรับเสด็จ

          “สมัยของโนอาห์เป็นเช่นไร เมื่อบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นเช่นนั้น ในสมัยก่อนน้ำวินาศนั้น ผู้คนกิน ดื่ม แต่งงานกันจนถึงวันที่โนอาห์เข้าไปในเรือ ไม่มีใครนึกระแวงว่าอะไรจะเกิดขึ้นจนกระทั่งน้ำวินาศมากวาดพวกเขาไปหมดสิ้น เมื่อบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นเช่นนั้นด้วย เวลานั้น คนสองคนอยู่ในทุ่งนา คนหนึ่งจะถูกรับไป อีกคนหนึ่งจะถูกทิ้งไว้ หญิงสองคนที่กำลังโม่แป้งอยู่ คนหนึ่งจะถูกรับไป อีกคนหนึ่งจะถูกทิ้งไว้ “จงตื่นเฝ้าระวังเถิด เพราะท่านไม่รู้ว่านายของท่านจะมาเมื่อไร พึงรู้ไว้เถิด ถ้าเจ้าบ้านรู้ว่าขโมยจะมาในยามใด เขาคงจะตื่นเฝ้าไม่ปล่อยให้ขโมยงัดแงะบ้านของตนได้ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน จงเตรียมพร้อมไว้ เพราะว่าบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในเวลาที่ท่านมิได้คาดหมาย
(มัทธิว.24:37-44)








วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2559

การเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของแม่พระ


จักรพรรดิเมาริเชียส (Mauritius ค.ศ.582-602) ได้จัดวันฉลองการหลับของพระนางมารีย์ในวันที่ 15 ส.ค. ของทุกปีสำหรับศาสนจักรตะวันออก (นักประวัติศาสตร์บางคนกล่าวว่างานฉลองนี้เคยแพร่หลายมานานแล้วตั้งแต่ก่อนสังคายนาเอเฟซัสในปี 431)  และตอนปลายศตวรรษที่ 6 ทางฝั่งตะวันตกก็จัดให้มีวันฉลองการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของแม่พระขึ้น
วันฉลองแม่พระเสด็จสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณนี้ให้ความหวังแก่เราเป็นอย่างยิ่ง  แม่พระทรงงดงามในความเชื่อยิ่งนัก  ทรงประทานแก่เราทั้งแบบอย่างในการดำรงชีวิตกับพระเป็นเจ้าและการสวดภาวนาซึ่งจะทำให้เราเจริญเติบโตในพระหรรษทานของพระเป็นเจ้า  เพื่อที่เราจะได้ทำตามน้ำพระทัยของพระองค์  และให้เรารู้จักที่จะเสียสละตนเอง ทำกิจใช้โทษบาปและแสวงหาอาณาจักรสวรรค์นิรันดร

การเผยแพร่พระคัมภีร์

The Livets Ord (Word of Life) church ในเมือง Uppsala ของสวีเดน

From Christian Today(6 ส.ค. 20163) :มูลนิธิเผยแพร่พระคัมภีร์ในสวีเดนกำลังเตรียมที่จะจัดส่งพระคัมภีร์ไบเบิลนับพันเล่มไปยังอิรัก  ที่เมืองในความครอบครองของกลุ่ม ISIS ด้วยการใช้โดรน
The Livets Ord (Word of Life) church ในเมือง Uppsala ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของสวีเดนได้เล่าว่า  พวกเขาจะใช้โดรนบินในความสูงและโปรยพระคัมภีร์ไบเบิลอิเลคโทรนิคขนาดเล็กลงในอิรัก  ในเมืองของกลุ่มกบฏอิสลาม

วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ทำไมยูดาสจึงทรยศพระเยซูเจ้า

ยูดาสผู้ทรยศต่อพระองค์ ทูลถามว่า เป็นข้าพเจ้าหรือ พระอาจารย์พระองค์ตรัสตอบว่า ใช่แล้ว
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2559

แม่พระองค์อุปถัมภ์ของคริสตชนในจีน

บทความนี้มาจากการสัมภาษณ์พระคาร์ดินัลเซน  ท่านเล่าถึงแม่พระและการประจักษ์ของพระนางในประเทศจีน
ในปี 1900 มีรายงานว่ามีการประจักษ์ของแม่พระ 3 ครั้ง>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ความเสียหายในซีเรีย


ภาพถ่ายจากโดรนบริเวณปราสาทของนักรบครูเสตชื่อ castle Krak Des Chevaliers ในซีเรียมีสภาพถูกทำลายเสียหายมากมาย

วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559

พระเยซูเจ้าบนไม้กางเขนเปิดและปิดตา



เวลานี้มีวีดีโอเผยแพร่ในยูทูป  เป็นวีดีโอที่จับภาพพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขนของโบสถ์แห่งหนึ่งในเม็กซิโก church in Mexico's state of Coahuila de Zaragoza  ภาพถ่ายในวีดีโอจะเห็นรูปพระเยซูเจ้าเปิดและปิดตาในทันทีทันใด

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เสียงร้องขอความช่วยเหลือจากซิสเตอร์ในซีเรีย

5 ส.ค. 2016 : “สถานการณ์ซับซ้อนมากและเราได้ยินเรื่องราวมากมาย  แต่ความจริงที่เรารู้ก็คือประชาชนที่นี่กำลังเดือดร้อนและกำลังจะตาย”
นี่เป็นคำพูดของซิสเตอร์ Anne-Françoise ชาวฝรั่งเศสที่อยู่ในอารามคาร์เมลแห่งเมืองอะเลปโป ประเทศซีเรีย  ท่านได้กล่าวในโทรศัพท์กับมูลนิธิคาทอลิกการกุศลเพื่อช่วยเหลือโบสถ์ที่ขัดสนและเดือดร้อนในอะเลปโป  อันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดอันดับสอง  และมีกำลังมีการสู้รบอย่างหนักระหว่างรัฐบาลซีเรียกับกลุ่มกบฏ
คอนแวนต์ของซิสเตอร์เหล่านี้อยู่บริเวณชานเมืองอะเลปโป  เป็นบริเวณที่ได้รับผลจากสู้รบโดยตรง  ซิสเตอร์ได้รายงานว่า “เมื่อกองทัพซีเรียพยายามป้องกันที่มั่นจากกลุ่มกบฏ  มีการทิ้งระเบิดใกล้กับคอนแวนต์ของเรา  ขอบพระคุณพระเจ้า  ที่มันไม่ถูกเรา  แต่เราก็ยังคงได้ยินเสียงกระสุนระเบิดผ่านหัวของเราไป”
ซิสเตอร์คาร์เมลไลท์ สี่คนเป็นชาวซีเรีย  และสองคนเป็นชาวฝรั่งเศส  ได้รวบรวมผู้ลี้ภัยจำนวนหนี่งมาอยู่ในอาคารที่ติดกับคอนแวนต์  และได้เลี้ยงดูพวกเขาเท่าที่ทำได้  “ในเวลานี้มีแต่เพียงคนยากจนที่สุดเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในอะเลปโป  คริสตชนหลายคนได้ทิ้งเมืองไปแล้วตั้งแต่เกิดสงคราม  เราไม่มีน้ำ  ไม่มีไฟฟ้า  และการสู้รบก็ยังดำเนินอยู่ต่อไป ใครจะกลับมาในสถานการณ์เช่นนี้ได้เล่า” ซิสเตอร์กล่าว
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าซิสเตอร์ทั้งหกคนมีความกลัวเช่นเดียวกัน  แต่พวกท่านตัดสินใจที่จะอยู่กับประชาชน  ซิสเตอร์ Anne-Françoise กล่าวว่า “เราจะละทิ้งพวกเขาไปได้อย่างไรเล่า?  การที่พวกเราอยู่กับเขาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขามาก  เราได้รับพลังใจและความกล้าจากการสวดภาวนา  นี่เป็นสิ่งปกป้องพวกเรา  การเจรจาไม่ประสบผลสำเร็จ  เราได้แต่สวดภาวนาขอให้พระเป็นเจ้าทรงทำให้สงครามสงบลง”
            สงครามเกิดขึ้นมาหลายปี  ทำให้คริสตชนต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ  ซิสเตอร์ Anne-Françoise กลัวว่าจะมีอีกหลายครอบครัวที่ละทิ้งอะเลปโป ไป  เมืองนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของคริสต์ศาสนาในซีเรีย  ตั้งแต่ปี 2011 เมื่อเริ่มเกิดสงคราม  ประชากรคริสตชนมีอยู่ 160,000 คนในเมืองนี้  บัดนี้เหลืออยู่ไม่ถึง 40,000 คน
“ตะวันออกกลาง  เคยเป็นดินแดนของพระคริสต์  บัดนี้มันเสียงต่อการไม่มีคริสตชนเหลืออยู่เลย  เป็นความจริงที่เจ็บปวด  วิกฤตการณ์ยังไม่ยุติ  ผู้ลี้ภัยต้องออกจากบ้านเกิดเมืองนอนของตนและบางทีก็สูญเสียรากฐานทางด้านจิตใจของพวกเขาด้วย”  ซิสเตอร์กล่าว
ซิสเตอร์วิงวอนต่อนานาชาติและคริสตชนทุกคนทั่วโลกว่า “โปรดสงสารประชาชนนับพันคนซึ่งอยู่ที่นี่ด้วยที่ถูกแบ่งแยกด้วยสงคราม  โปรดอย่าลืมพวกเรา  เราต้องการคำภาวนาของพวกท่านและความช่วยเหลือต่างๆจากพวกท่าน”