พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง

          พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)








วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2564

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2564

หญิงใจศรัทธากับคุณพ่อปีโอ


สามีของหญิงคนหนึ่งกำลังป่วยหนัก ผู้หญิงคนนั้นวิ่งไปที่คอนแวนต์ แต่เธอถามตัวเองว่า “ฉันจะไปหาคุณพ่อปีโอได้อย่างไร” โดยปกติเธอต้องรออย่างน้อยสามวันถ้าเธอต้องการพบท่านเพื่อสารภาพบาป ดังนั้นในระหว่างพิธีมิสซา,เธอจึงยืนขึ้นและเดินจากด้านหนึ่งของโบสถ์ไปยังอีกด้านหนึ่งของโบสถ์ เธออธิษฐานในใจบอกแม่พระว่าปัญหาของเธอคืออะไร และวอนขอแม่พระในเวลาเดียวกันเพื่อให้เธอได้รับความช่วยเหลือจากคุณพ่อปีโอ... หลังจากพิธีมิสซา เธอเดินเข้าไปอยู่ในโบสถ์อีกครั้งเพื่อที่จะไปให้ถึงที่ซึ่งคุณพ่อปีโออยู่ ในที่สุดเธอก็ไปถึงทางเดินที่มีชื่อเสียงที่คุณพ่อปีโอต้องผ่านเป็นประจำ ทันทีที่คุณพ่อปิโอเห็นเธอ,ท่านก็พูดว่า: “ผู้หญิงที่มีความเชื่อน้อย,ในที่สุดลูกก็มาขอความช่วยเหลือจากพ่อ ลูกคิดว่าพ่อหูหนวกหรือ ลูกบอกพ่อห้าครั้งแล้ว,เมื่อลูกอยู่ต่อหน้าพ่อ ที่ด้านหลัง,ทางขวาและทางซ้ายของพ่อ พ่อเข้าใจ! พ่อเข้าใจแล้ว! ...กลับบ้านไปเถิด! ทุกอย่างจะเรียบร้อยดี" ผู้หญิงคนนั้นกลับบ้านและพบว่าสามีของเธอหายจากโรคแล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2564

นักบุญโฟสตินาไปไฟชำระ


“ดิฉันเห็นอารักขเทวดาของดิฉัน ท่านสั่งให้ดิฉันตามท่านไป และในชั่วขณะหนึ่ง,ดิฉันก็มาอยู่ในสถานที่ที่ปกคลุมไปด้วยไฟ ที่นั่นมีวิญญาณที่ทุกข์ทรมานอยู่มากมาย พวกเขากำลังสวดภาวนาอย่างสุดจิตใจสำหรับตัวพวกเขาเอง, แต่ก็เปล่าประโยชน์ มีเพียงพวกเราเท่านั้นที่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ เปลวไฟที่แผดเผาพวกเขาไม่ได้สัมผัสดิฉันเลย อารักขเทวดาของดิฉันไม่ได้ละทิ้งฉันไว้แม้เพียงวินาทีเดียว ฉันถามวิญญาณเหล่านี้ว่าความทุกข์ทรมานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาคืออะไร พวกเขาตอบดิฉันเป็นเสียงเดียวว่า “การทรมานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือการโหยหาพระเจ้า” ดิฉันเห็นพระแม่มารีย์เสด็จมาเยี่ยมดวงวิญญาณในไฟชำระ วิญญาณเหล่านั้นเรียกพระนางว่า "ดวงดาราแห่งท้องทะเล" พระนางทรงนำความสดชื่นมาให้พวกเขา ดิฉันอยากคุยกับพวกเขามากกว่านี้ แต่อารักขเทวดากวักมือเรียกให้ฉันไป เราออกจากเรือนจำแห่งทุกขเวทนาแห่งนั้นแล้ว ดิฉันได้ยินเสียงภายใน ซึ่งพูดว่า "ความเมตตาของเราไม่ต้องการสิ่งนี้ แต่ความยุติธรรมเรียกร้อง ตั้งแต่นั้นมา ดิฉันก็ใกล้ชิดกับวิญญาณที่ทุกข์ทรมานเหล่านี้มากขึ้น (ไดอารี่ของนักบุญโฟสตินา #20)  

วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2564

บิชอปแองกลิกันได้ลาออกเพื่อมาเป็นคาทอลิก


ผมขอให้ท่านทั้งหลายเชื่อว่าผมได้ตัดสินใจด้วยการตอบรับการเรียกและการเชื้อเชิญของพระเจ้า
>>>อ่านต่อ

วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2564

พระสันตปาปาเสด็จเยือนซโลวาเกีย


พระสันตปาปาฟรังซิสจะเสด็จเยี่ยมประเทศซโลวาเกียในวันที่ 13 – 15 กันยายน 2021 สภาพระสังฆราชแห่งซโลวาเกียได้ประกาศว่าประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้วเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมในพิธีต่างๆที่พระสันตปาปาจะทรงเป็นประธาน
มีประชาชนชาวซโลวาเกียมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และจำนวนของคนที่บอกว่าไม่ต้องการฉีดวัคซีนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
คุณพ่อมาร์ติน ครามาร่า โฆษกของสภาพระสังฆราชกล่าวว่า “เรารู้ว่าจะมีปัญหาเรื่องนี้เกิดขึ้น” การตัดสินใจประกาศของสภาพระสังฆราชในเรื่องนี้ทำโดยมีการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีสาธารณสุขแห่งซโลวาเกีย

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2564

Que Viva Cristo Rey!


นี่เป็นร่างที่ไม่เน่าเปื่อยของบุญราศีโจเซ่ ลุยส์ ซานเชส เดล ริโอ(Blessed Jose Luis Sanchez del Rio) มรณะสักขีในระหว่างสงคราม Cristero War(สงครามคริสตกษัตริย์)ในเม็กซิโก ปี 1928ขณะที่ท่านมีอายุ 14 ปี หลังจากที่เสียชีวิตไป 84 ปี ร่างกายของท่านไม่มีร่องรอยของการเน่าเปื่อย ท่านเป็นผู้หนึ่งในบรรดาคริสตชนคาทอลิก 90,000 คนที่ถูกฆ่าตายเพราะความเชื่อในสงครามนี้ ก่อนที่จะถูกทหารยิง,ท่านร้องตะโกนว่า "Que Viva Cristo Rey!" (พระคริสตกษัตริย์ จงทรงพระเจริญ)

วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2564

วีรกรรมของยาคุบ บารีลา


ในตอนแรกเขาก็ไม่คิดจะทำการต่อต้านผู้เดินขบวน เพราะเขาเองก็รู้สึกกลัว
>>>อ่านต่อ