พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2024 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าสัปดาห์ที่ 4

           หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”
(ลูกา 1:39-45)








วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2565

คำพูดของนักบุญ


ยุคสมัยใหม่ในปัจจุบันถูกครอบครองโดยซาตานและจะถูกครอบครองมากขึ้นในอนาคต ความขัดแย้งกับนรกนี้มนุษย์ไม่อาจเอาชนะได้,แม้แต่คนที่ฉลาดที่สุด มีเพียงพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมลผู้เดียวเท่านั้น,ผู้ทรงได้รับพระสัญญาจากพระเจ้าให้สามารถได้รับชัยชนะเหนือซาตาน อย่างไรก็ตาม,พระนางมารีย์,พระมารดาของพระเจ้าผู้ทรงได้รับการยกขึ้นสู่สวรรค์,ทรงประสงค์จะได้รับความร่วมมือจากเรา พระนางทรงแสวงหาวิญญาณที่จะอุทิศตนทั้งครบให้กับพระนาง,พวกเขาจะกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพในพระหัตถ์ของพระนาง เครื่องมือในการปราบซาตานและเป็นผู้แพร่กระจายอาณาจักรของพระเจ้าบนโลก”  

นักบุญแม็กซิมิเลียน โคลเบ 

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ดำเนินชีวิตในน้ำพระทัยของพระเจ้า(3)


ข้าแต่พระเจ้า,โปรดทรงรักษาข้าพเจ้าให้พ้นจากความใจแคบ,โปรดให้ข้าพเจ้าใจกว้างในความคิด,ในคำพูด,ในการกระทำ
>>>อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ดำเนินชีวิตในน้ำพระทัยของพระเจ้า(2)


พระเยซูเจ้าข้า,ขอพระองค์ทรงทำให้จิตวิญญาณของข้าพเจ้ามั่นคง,ไม่คลอนแคลน,และพากเพียร
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ความเชื่อของพระศาสนจักรกำลังถูกทดสอบ


การเปลี่ยนแปลงหลักคำสอนทางศีลธรรมของพระศาสนจักรคาทอลิกจะเกิดขึ้นโดยผ่านการประชุมไซนอดและนั่นจะทำให้เกิดความแตกแยก
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2565

อัศจรรย์ดวงอาทิตย์ที่ฟาติมา


หนังสือพิมพ์ของโปรตุเกส Ilustração Portuguesa,ฉบับวันที่ 29 ตุลาคม 1917 แสดงรูปภาพของประชาชนที่ไปรวมกันที่ฟาติมาในวันที่ 13 ตุลาคม 1917,ประชาชนกำลังแหงนหน้าดูอัศจรรย์ดวงอาทิตย์ ในระหว่างการประจักษ์มาของแม่พระแก่เด็กสามคนแห่งฟาติมา ประมาณว่ามีประชาชนประมาณ 70,000 คนในวันนั้น
ประมาณเที่ยงวัน ประชาชนมารวมกันที่โควาดาอีเรีย เด็กสามคนมาถึงแล้ว
ทันใดนั้นลูซีอาก็ร้องขึ้นว่า "เงียบ,เงียบ, แม่พระกำลังมา" เพราะเธอเห็นแสงสว่างวาบขึ้นบนท้องฟ้าเหนือต้นโอ๊ค ประชาขนต่างเงียบกริบ ลูซีอาถามแม่พระว่า "ท่านต้องการอะไรคะ?" แม่พระตรัสตอบ "แม่อยากบอกลูกว่า แม่ต้องการให้สร้างโบสถ์น้อยขึ้นที่นี่เพื่อเป็นเกียรติแด่แม่ แม่คือแม่พระแห่งสายประคำ  จงสวดสายประคำทุกวัน สงคราม(โลกครั้งที่1)กำลังสิ้นสุดลง และทหารจะได้กลับบ้านในไม่ช้า"........
แล้วแม่พระทรงกางพระหัตถ์ออก มีแสงรัศมีเจิดจ้าส่องออกมารอบๆซึ่งเชื่อมโยงกันแสงจากดวงอาทิตย์
ลูซีอาตะโกนว่า "ดูที่ดวงอาทิตย์"
แม่พระทรงหายไป เด็กๆได้เห็นภาพของพระธรรมล้ำลึกของสายประคำภาคชื่นชมยินดี,มหาทรมาน,และพระสิริรุ่งโรจน์ ลูซีอาเห็นทั้งสามภาคนี้ แต่ฟรังซิสโกและยาชินทาเห็นเพียงภาคแรก
นักบุญโยเซฟประจักษ์มาอยู่ข้างดวงอาทิตย์พร้อมทั้งพระกุมารเยซูและแม่พระแห่งสายประคำ นักบุญโยเซฟอวยพรประชาชนด้วยเครื่องหมายกางเขน และพระกุมารก็ทรงกระทำด้วย
ในที่สุดแม่พระแห่งภูเขาคาร์เมลประจักษ์มาพร้อมทั้งพระกุมารเยซู
ขณะที่ภาพเหล่านี้ปรากฏอยู่ ประชาชนได้เห็นอัศจรรย์แห่งดวงอาทิตย์ ฝนยังคงตกอยู่ระหว่างที่มีการประจักษ์
เมื่อลูซีอาร้องว่า "ดูที่ดวงอาทิตย์" ประชาชนยืนขึ้น จ้องมองท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ส่องแสงรัศมีกระจายออกโดยรอบ ดวงอาทิตย์เหมือนเป็นจานสีเงิน แล้วก็เริ่มเต้น หมุนติ้วเหมือนลูกบอลแห่งไฟ หยุดในบางครั้ง และเริ่มหมุนอีก ส่งรังสีไปโดยรอบและเปลี่ยนสี สีส่องกระทบกับต้นไม้และทุกสิ่งทำให้สิ่งเหล่านั้นมีสีตามไปด้วย ต่อมาดวงอาทิตย์ก็หยุดหมุนและกระตุกและตกลงมาเป็นทางซิกแซกมายังฝูงขน
ประชาชนมีความกลัวเป็นอย่างมาก,คิดว่านี่เป็นอวสานของโลกแล้ว,ต่างคุกเข่าลง,ร้องไห้และสวดภาวนาวอนขอต่อพระเจ้าให้ทรงเมตตาต่อพวกเขา
ในที่สุดดวงอาทิตย์ก็หยุดและกลับไปอยู่ที่ตำแหน่งเดิมของมัน
ประชาชนสังเกตุว่าเสื้อผ้าที่เปียกของพวกเขาแห่งสนิท
อัศจรรย์เห็นได้แม้แต่ในบริเวณที่อยู่ห่างไกลไป ถึง 25 ไมล์ 
 

วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2565

คำพูดของนักบุญ


วิญญาณหัวเราะเยาะตัวเองเมื่อนึกถึงเวลาที่วิญญาณคิดถึงเงิน,และปรารถนาจะครอบครองมัน แม้ว่าในเรื่องนี้,ดิฉันเชื่ออย่างแท้จริงว่าดิฉันไม่เคยต้องสารภาพความผิดเช่นนั้น มันเป็นความผิดพอแล้วที่จะคิดถึงแต่เรื่องเงินเท่านั้น ถ้าหาก,ดิฉันสามารถใช้เงินซื้อพระพรต่างๆที่ฉันมีได้ ฉันควรจะใช้เงินให้มาก แต่ปรากฏชัดว่าพระพรเหล่านี้ได้มาจากการละทิ้งสิ่งสารพัด มีอะไรที่สามารถหาได้ด้วยเงินที่เราปรารถนา? มันเป็นสิ่งที่มีค่าและเป็นสิ่งที่ยั่งยืนหรือ? แล้วทำไมเราถึงปรารถนามัน? มันให้แต่ความสุขสบายที่น่าสลดใจซึ่งต้องจ่ายไปมาก! บ่อยครั้งมันนำนรกมาสู่เรา,ไฟนิรันดร,และความทุกข์ทรมานไม่รู้จบ โอ้,  
 
ถ้ามนุษย์ทุกคนมองว่ามันเป็นขยะที่ไร้ประโยชน์,โลกจะสงบสุขสักเพียงไร!โดยไม่ต้องต่อรอง! มนุษย์ทุกคนจะเป็นมิตรกันสักเพียงไร,ถ้าไม่คำนึงถึงเกียรติและเงินทอง! ดิฉันเชื่อว่ามันจะเยียวยาทุกสิ่ง 
นักบุญเทเรซาแห่งพระเยซู  
 

วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2565