พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2024 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าสัปดาห์ที่ 4

           หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”
(ลูกา 1:39-45)








วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ความรักตนเอง


วิญญาณที่ถูกความรักตัวเองบังตา….ไม่รู้จักแยกแยะว่าอะไรคือความดีที่แท้จริง ทั้งในเวลานี้; และในอดีต เรามองเห็นในสิ่งนี้ไหม…. 
ฉันได้บอกท่านแล้วว่าปีศาจพยายามเชิญมนุษย์ให้ไปสู่น้ำแห่งความตาย นั่นก็คือ การที่จิตใจจดจ่อแต่บรรดาทรัพย์สิ่งของที่พวกเขามี และปีศาจทำให้พวกเขาตาบอดด้วยความสุขจอมปลอมและความเป็นอยู่ของโลก มันจับพวกเขาด้วยเบ็ดแห่งความพีงพอใจ,ภายใต้ความหลงว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะปีศาจไม่สามารถจับพวกเขาด้วยวิธีอื่น เพราะพวกเขาจะไม่ยอมให้ตัวเองถูกจับได้ ถ้าหากพวกเขาเห็นว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดีหรือให้ความพอใจสำหรับตนเอง
สำหรับวิญญาณ,ตามธรรมชาติของมันแล้ว,จะพอใจในสิ่งที่ดี แม้ว่าในความเป็นจริง,วิญญาณมักจะถูกความรักตัวเองบังตาไว้, ไม่รู้จักแยกแยะ,และดูไม่ออกว่าอะไรคือความดีที่แท้จริงและมีประโยชน์ต่อวิญญาณและร่างกายของเขา 
~ นักบุญแคทเธอรีนแห่งเซียนนา (1347-1380) 
   นักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร  

วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ความพากเพียรในการสวดภาวนา


คุณไม่รู้หรอกว่าพระเจ้าทรงมีแผนการณ์อย่างไรสำหรับผู้ที่เราสวดภาวนาเพื่อเขา
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

บินออกไปจากโลก


หัวใจของมนุษย์อยู่ที่ไหน สมบัติของเขาก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

พระสันตปาปาสององค์พบกัน


 
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2023 พระสันตะปาปาฟรังซิสเสด็จร่วมกับพระสันตปาปาทาวาดรอสที่ 2(Pope Tawadros II) แห่งคอปติกออร์ทอดอกซ์ที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ในกรุงโรมในสัปดาห์นี้ ขณะที่ทั้งสองฉลองครบรอบ 50 ปีของการพบปะครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 และพระสันตะปาปาเชนูดาที่ 3 ในปี 1973 พระสันตะปาปาทั้งสองสวดภาวนาด้วยกันที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ต่อหน้าผู้แสวงบุญหลายร้อยคน 
 นอกจากนี้พระองค์ยังระลึกถึงชาวคริสต์นิกายคอปติก 21 คนที่ถูกกลุ่มไอเอสสังหารหมู่ในลิเบียในปี 2015 และขอให้ผู้แสวงบุญสวดภาวนาให้พระสันตะปาปาทาวาดรอสที่ 2 และขอให้คุ้มครองคริสตจักรออร์โธดอกซ์คอปติกทั้งหมด  

วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

พระเยซูตรัสกับนักบุญเกมมา


ลูกเอ๋ย เราต้องการผู้ยอมทนทุกข์ ผู้ยอมทนทุกข์ที่แข็งแกร่ง,เพื่อระงับพระพิโรธของพระบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเรา เราต้องการวิญญาณ,ผู้ซึ่งโดยผ่านทางความทุกข์,การทดลอง,และความเสียสละของพวกเขา,จะช่วยชดเชยความผิดของคนบาปและความอกตัญญูของพวกเขา โอ,ถ้าหากเราสามารถทำให้ทุกคนเข้าใจได้ว่าพระพิโรธของพระบิดาของเรานั้นมีมากมายสักเพียงไรต่อโลกที่ชั่วร้ายได้!”  
พระดำรัสของพระเยซูตรัสกับนักบุญเกมมา  

วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

นักบุญโดมินิกกับทูตสวรรค์


อีกเหตุการณ์หนึ่งในชีวิตของนักบุญโดมินิกเป็นเรื่องเกี่ยวกับการประจักษ์ของทูตสวรรค์ซึ่งเกิดขึ้นที่กรุงโรมเมื่อท่านไปเยี่ยมบรรดาซิสเตอร์ในคณะของท่าน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเวลาเย็นมากแล้ว  ต่อมา,เมื่อท่านเสร็จภารกิจการเยี่ยมและค่ำมืด, แต่ท่านก็ตัดสินใจที่จะไปซานตา ซาบินา,โบสถ์ที่อยู่ในความดูแลของคณะโดมินิกันตั้งแต่เวลานั้นมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อนร่วมทางของท่านที่มาด้วยกันกลัวว่าพวกเขาจะได้รับอันตรายในเวลาค่ำคืนดึกดื่น แต่ท่านนักบุญโดมินิกยืนยันว่าพระเจ้าผู้ทรงพระทัยดีจะส่งทูตสวรรค์มาคุ้มครองอารักขาพวกเขา และพระองค์ก็ทรงทำเช่นนั้น 
มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาแสดงตน,"เขามีรูปร่างงดงาม มีไม้เท้าอยู่ในมือ ท่าทางราวกับเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง" ชายหนุ่มเดินทางไปกับพวกเขาด้วย เมื่อพวกเขาไปถึงประตูโบสถ์ก็พบว่ามันปิดล็อกอยู่ แต่ชายหนุ่มยืนพิงประตูแล้วประตูก็เปิดออกทันที เขาเข้าไปก่อน ต่อจากนั้นก็เป็นบราเดอร์แล้วก็นักบุญโดมินิก แล้วชายหนุ่มก็เดินออกไปจากประตูที่ปิดอยู่ เมื่อบราเดอร์ Tancred ผู้เป็นสหายของนักบุญสอบถามถึงตัวตนของชายหนุ่มลึกลับ นักบุญตอบว่า "ลูกเอ๋ย นี่คือทูตสวรรค์ของพระเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงส่งมาคุ้มครองเรา"  
สหายของนักบุญมีเหตุผลที่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกเขา คืนหนึ่งนักบุญโดมินิกสวดภาวนาอยู่ที่ข้างเสาเตี้ยที่ด้านล่างของทางเดินใกล้กับประตูในโบสถ์ซานตา ซาบินา ในคืนนั้น หินสีดำทรงกลมถูกขว้างใส่นักบุญโดมินิกด้วยมือที่มองไม่เห็นจากส่วนบนของหลังคา มันโดนหัวของนักบุญ ฉีกเสื้อคลุมศีรษะของท่าน และกระเด็นไปฝังตัวอยู่ในดินข้างๆท่าน เสาต้นนี้ซึ่งมีหินสีดำอยู่บนยอดยังคงพบในตำแหน่งเดิมในโบสถ์ซานตา ซาบินา 
 Source: Angels and Devils  

ความทุกข์ของพระเยซูเจ้าในสวนเก็ธเซเมนี


เมื่อทูตสวรรค์ของพระเจ้าขับไล่อาดัมและเอวาออกจากสวนเอเดน,สถานที่แรกที่พวกเขาพบคือบริเวณสวนเก็ธเซเมนีในปัจจุบัน พวกเขาคุกเข่าลงตรงก้อนหินนั้นที่พระคริสต์ทรงหลั่งเหงื่อออกมาเป็นพระโลหิต พวกเขาอ้อนวอนขออภัยโทษจากพระเจ้า,พระบิดาของพวกเขา แต่ความทุกข์เสียใจในบาปของพวกเขามิอาจทำให้หลุดพ้นจากโทษบาปของพวกเขาได้ (จากนิมิตของอันนา คัทรีน อัมเมอริก -พระมหาทรมานของพระคริสต์)  
แต่พระเยซูคริสต์ทรงอ้อนวอนต่อพระบิดาด้วยความทุกข์โศกเศร้าอย่างมากที่สวนเก็ธเซเมนี พระองค์ต้องต่อสู้ภายในจิตวิญญาณของพระองค์จนเหงื่อไหลออกมาเป็นโลหิต และพระองค์ทรงยินยอมทุกอย่างต่อพระประสงค์ของพระบิดา สิ่งที่บิดามารดาเดิมของเราได้ทำให้สูญเสียไป,พระเยซูคริสต์ทรงนำกลับคืนมาให้แก่มนุษยชาติทั้งมวล มนุษย์ได้กลับมาเป็นลูกของพระเจ้า,พระบิดา, ทำให้เราได้รับพระหรรษทานที่เคยสูญเสียไป,และได้รับมากกว่าเดิมเสียอีก