พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2024 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าสัปดาห์ที่ 4

           หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”
(ลูกา 1:39-45)








วันพุธที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2566

นักบุญโฟสตินา


นักบุญโฟสตินาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนักบุญในวันที่ 30 เมษายน 2000
>>>อ่านต่อ

วันอังคารที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ความรอดมาจากการทำสิ่งเล็กๆน้อยๆ


นักบุญโทมัสกล่าวว่าความเจ็บปวดหลักของคนเลวทรามคือการเห็นว่าพวกเขาถูกสาปแช่งเพราะการที่เขาไม่ได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ เพราะถ้าหากพวกเขาต้องการและใช้ความพยายาม,พวกเขาก็จะได้รับความรุ่งโรจน์แห่งสวรรค์สำหรับตนเองด้วยพระพรต่างๆที่มีอยู่มากมาย 
ความสำนึกผิดประการที่สองนั้นเกิดจากความคิดที่ว่า ถ้าเพียงแต่พวกเขาทำสิ่งเล็กๆน้อยๆที่จำเป็นเพื่อความรอดเท่านั้น วิญญาณที่ถูกสาปแช่งดวงหนึ่งได้ปรากฏต่อนักบุญฮัมเบิร์ต และบอกเขาว่าความเจ็บปวดแสนสาหัสที่เขาต้องทนทุกข์ในนรกนั้นมีสาเหตุมาจากการคิดถึงสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ทำให้เขาสูญเสียวิญญาณไป เป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เขาต้องทำเพื่อช่วยจิตวิญญาณของเขา 
วิญญาณที่ไม่มีความสุข(ในนรก)จะพูดว่า: ถ้าเพียงแต่ฉันยอมเสียสละโดยไม่มองสิ่งนั้น? ถ้าฉันจะเอาชนะการเยินยอของมนุษย์ในเวลานั้น? ถ้าฉันจะหลีกหนีจากบาปเช่นนั้น,สหายเช่นนั้น,การสนทนาเช่นนั้น ฉันก็จะไม่ถูกสาปแช่ง ถ้าฉันไปสารภาพบาปทุกสัปดาห์ ถ้าฉันได้ไปเยี่ยมศีลมหาสนิทบ่อยๆ ถ้าฉันอ่านหนังสือฝ่ายวิญญาณทุกวัน ถ้าฉันใกล้ชิดกับพระเยซูคริสต์และพระแม่มารีย์ ฉันก็จะไม่กลับไปทำบาปอีก ฉันคิดที่จะทำสิ่งเหล่านี้ แต่กลับละเลยความตั้งใจของตนเอง หรือเมื่อได้เริ่มต้นสิ่งเหล่านี้แล้ว แต่ก็ละทิ้งสิ่งเหล่านั้น ฉันจึงสูญเสียไป 
 #Catholic 4 Life

วันอาทิตย์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2566

การกลับมาของพระเยซู

>
เราเป็นจุดเริ่มต้นและอวสาน เราคือจุดเริ่มต้นของอาณาจักรใหม่และอวสานของโลกเก่า
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2566

วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2566

อัศจรรย์ดวงอาทิตย์ที่ฟาติมา


 
วันที่ 13 ต.ค. 1917 เกิดอัศจรรย์ดวงอาทิตย์ที่ฟาติมา วันนี้เป็นวันครบรอบ 106 ปีพอดีของเหตุการณ์นั้น นี่เป็น “อัศจรรย์ดวงอาทิตย์ที่ยิ่งใหญ่ของฟาติมา” มีประชาชนได้เห็นประมาณ 70,000 คน จากทุกชนชั้น ทุกฐานะ ทุกอาชีพ มีทั้งผู้ที่เชื่อในพระเจ้าและผู้ที่ไม่เชื่อ มีนักวิทยาศาสตร์ นายแพทย์ นักการเมือง ฯลฯ ดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าเปลี่ยนไปจากสถานะเดิมของมัน และวันก่อนหน้านี้ก็มีฝนตกหนักตลอดทั้งคืน แต่สภาพอากาศก็กลับมาเป็นปกติไม่นานก่อนจะเกิดอัศจรรย์ ดวงอาทิตย์หมุนรอบตัวเองอย่างรวดเร็ว สาดแสงเป็นสีต่างๆไปทั่วท้องฟ้า แล้วดวงอาทิตย์ก็เหมือนกับจะหลุดออกจากตำแหน่งของมันตกลงมายังโลก ประชาชนพากันตกใจร้องเสียงดัง บางคนสวดวอนขอพระเจ้าอภัยบาปของเขา" 

วันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2566

การช่วยเหลือกันและกัน


มีชาวไร่ข้าวโพดผู้หนึ่งปลูกข้าวโพดคุณภาพได้ดีเยี่ยม เขาได้รับรางวัลข้าวโพดที่ดีที่สุดทุกปี มีนักข่าวสัมภาษณ์เขาและได้เรียนรู้บางอย่างที่น่าสนใจว่าเขามีวิธีปลูกข้าวโพดอย่างไร นักข่าวค้นพบว่าชาวไร่ได้แบ่งปันเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดของเขาให้กับเพื่อนบ้านด้วย “คุณจะแบ่งปันข้าวโพดเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่สุดของคุณให้กับเพื่อนบ้านได้อย่างไร? ในเมื่อพวกเขาเข้ามาแข่งขันข้าวโพดกับคุณในแต่ละปี” นักข่าวถาม 
“ทำไมล่ะ” ชาวไร่พูด “คุณไม่รู้หรือ? ลมพัดเอาละอองเรณูจากข้าวโพดที่สุกแล้วจากทุ่งข้าวโพดทุ่งหนึ่งไปยังอีกทุ่งหนึ่ง หากเพื่อนบ้านของผมปลูกข้าวโพดด้อยคุณภาพ การผสมเกสรข้ามสายพันธ์จะทำให้คุณภาพข้าวโพดของผมเสื่อมลงเรื่อยๆ ถ้าผมจะปลูกข้าวโพดที่ดี ผมต้องช่วยเพื่อนบ้านปลูกข้าวโพดที่ดีด้วย” 
ชีวิตของเราก็เช่นกัน... ผู้ที่ต้องการมีชีวิตอยู่อย่างมีความหมายและเป็นคนดีต้องช่วยยกระดับชีวิตของผู้อื่น เพราะคุณค่าของชีวิตวัดได้จากชีวิตที่ได้สัมผัส และผู้ที่เลือกที่จะมีความสุขต้องช่วยให้ผู้อื่นมีความสุขด้วย เพราะความสุขของแต่ละคนผูกพันอยู่กับความผาสุกของทุกคน
#CATHOLIC4LIFE