พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม 2025 เทศกาลเตรียมรับเสด็จ 2

          (1)ในครั้งนั้น ยอห์น ผู้ทำพิธีล้างมาประกาศสอนในถิ่นทุรกันดารแห่งยูเดีย (2)ยอห์น กล่าวว่า “จงกลับใจเถิดอาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว” (3) ยอห์นผู้นี้คือผู้ที่ประกาศกอิสยาห์ได้กล่าวถึงว่า
(มัทธิว.3:1-12)








วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ข้อคิดฝ่ายจิตจากคุณพ่อปีโอ


ชีวิตของคริสตชนเป็นเพียงการต่อสู้กับตนเองอย่างไม่หยุดพัก จิตวิญญาณจะไม่เบ่งบานเพื่อไปสู่ความสมบูรณ์ครบครัน เว้นแต่ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด

เมื่อพูดถึงการประจญล่อลวง คุณพ่อปีโอกล่าวว่า “หากคุณเอาชนะการประจญล่อลวงได้สำเร็จ นั่นจะมีผลเหมือนกับการซักเสื้อผ้าที่สกปรก”

ครั้งหนึ่งคุณพ่อปีโอพูดว่า “ผู้ใดที่ไม่ทำการพิจารณาไตร่ตรองชีวิต(meditate) เขาก็เหมือนกับคนที่ไม่เคยส่องหน้าในกระจกเงาก่อนออกไปข้างนอก โดยไม่สนใจที่จะดูว่าตัวเองสะอาดหรือไม่ และเขาอาจออกไปข้างนอกในสภาพสกปรกโดยไม่รู้ตัว”

“ผู้ที่ทำการพิจารณาไตร่ตรองชีวิตตนเองและหันจิตใจของเขาไปหาพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นกระจกเงาของจิตวิญญาณของเขา เพื่อช่วยให้เขาแสวงหาที่จะรู้ข้อบกพร่องของตนเอง, พยายามแก้ไข, ระงับแรงกระตุ้นของตนเอง และจัดระเบียบจิตสำนึกของตนเอง”

วันหนึ่ง มีคนถามคุณพ่อปีโอว่า “เราจะแยกแยะระหว่างการประจญและบาปได้อย่างไร? และเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าไม่ได้ตกอยู่ในบาป?” คุณพ่อปีโอยิ้มและตอบว่า “เราจะแยกแยะระหว่างลากับมนุษย์ที่รู้จักเหตุผลได้อย่างไร”

“ลาปล่อยให้ตัวมันเองถูกนำทางไป แต่มนุษย์ที่รู้จักเหตุผลเป็นผู้นำทาง”

“ถูกต้อง” คุณพ่อปีโอตอบ

“แต่ทำไมเมื่อการประจญผ่านไปแล้วจึงยังมีความรู้สึกเป็นทุกข์อยู่ล่ะครับ?”

คุณพ่อปีโอตอบว่า “ฟังนะ พ่อจะขอยกตัวอย่างให้คุณฟัง คุณเคยรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวหรือไม่ ขณะที่ทุกอย่างสั่นสะเทือน คุณก็สั่นไหวเช่นกัน แต่คุณไม่ได้ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง”

ที่มา: Padre Pio The stigmatist

วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ทางที่จะไปสวรรค์มีเพียงทางเดียว


ทางที่จะไปสวรรค์ไม่ได้มีมากมายนัก มีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่จะไปสวรรค์ได้ นั่นคือผ่านทางความเชื่อในพระคริสต์และปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ ผมรู้ว่านั่นเป็นคำพูดที่ไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน หลายคนคิดว่ายังมีเส้นทางอื่นที่จะไปสวรรค์ได้ มหาเศรษฐีวอร์เรน บัฟเฟตต์บริจาคทรัพย์สินสุทธิร้อยละ 85 ให้กับการกุศล โดยกล่าวว่า “มีมากกว่าหนึ่งวิธีที่จะไปสู่สวรรค์ได้ แต่สิ่งที่ผมทำนี้เป็นหนทางที่ดี” ผมขอชื่นชมบัฟเฟตต์สำหรับความเอื้อเฟื้อของเขา แต่เขาจะต้องประหลาดใจเมื่อเขาค้นพบว่าเขาไม่สามารถใช้การบริจาคเป็นหนทางไปสู่สวรรค์ได้ มีทางเดียวเท่านั้นที่จะไปสู่สวรรค์ได้ นั่นคือผ่านทางความเชื่อในพระเยซูคริสต์และปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์เท่านั้น

วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ภารกิจของทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์


คำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิกในข้อ 336 สอนว่า “ตั้งแต่วัยทารกจนกระทั่งตาย ชีวิตของมนุษย์ถูกล้อมรอบด้วยการดูแลเอาใจใส่และการวิงวอนของทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์”

เราได้รับการคุ้มครองและเฝ้าระวังจากทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์ของเราแม้ในขณะที่เราเสียชีวิต ทูตสวรรค์เหล่านี้ไม่ได้อยู่กับเราเพียงในชีวิตบนโลกนี้เท่านั้น แต่พวกเขายังดูแลเอาใจใส่เราถึงในชีวิตหน้าด้วย

เราต้องเข้าใจว่าทูตสวรรค์ “พระองค์ทรงส่งมารับใช้ผู้ที่จะต้องได้รับความรอดพ้น” (ฮีบรู 1:14) ในทำนองเดียวกัน นักบุญบาซิลสอนว่าไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า “มีทูตสวรรค์คอยปกป้องและเลี้ยงดูผู้มีความเชื่อทุกคนเพื่อนำเขาไปสู่ชีวิต” (CCC 336)

ดังนั้นภารกิจหลักของทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์คือการช่วยมนุษยชาติให้รอดพ้น นั่นคือ นำเราทุกคนเข้าสู่ชีวิตแห่งการรวมเป็นหนึ่งกับพระเจ้า ภารกิจนี้รวมถึงความช่วยเหลือขณะที่วิญญาณไปปรากฏตัวต่อหน้าพระเจ้าด้วย

บรรดาปิตาจารย์แห่งพระศาสนจักรพูดถึงภารกิจนี้ว่าทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์อยู่กับวิญญาณในช่วงเวลาแห่งความตาย และปกป้องวิญญาณจากการโจมตีครั้งสุดท้ายของปีศาจ

นักบุญอาลอยซีอุส กอนซากา (1568–1591) กล่าวว่าในช่วงเวลาที่วิญญาณออกจากร่างกาย วิญญาณจะได้รับการติดตามและปลอบโยนจากทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์เพื่อให้วิญญาณสามารถปรากฏตัวต่อหน้าบัลลังก์พิพากษาของพระเจ้าได้อย่างมั่นใจ ตามคำกล่าวของนักบุญนี้ ทูตสวรรค์จะพูดถึงพระเมตตาของพระคริสต์เพื่อให้วิญญาณได้รับความบรรเทาในช่วงเวลาแห่งการพิพากษา, เมื่อผู้พิพากษาทรงตัดสินให้วิญญาณถูกส่งไปยังไฟชำระ

วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ปรีชาญาณจากนักบุญเทเรซาแห่งอาวีลา



“. . . มันจะเป็นการอวดดีและทะนงตนที่จะเลือกเส้นทางของตนเอง เพราะดิฉันไม่สามารถบอกได้ว่าเส้นทางใดดีที่สุดสำหรับดิฉัน ดิฉันต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพระเจ้าผู้ทรงรู้จักดิฉัน ทรงนำดิฉันไปในเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับดิฉัน เพื่อว่าในทุกสิ่ง, พระประสงค์ของพระองค์จะได้สำเร็จ”

“บ่อยครั้งที่ปีศาจจะทำให้เราคิดถึงเรื่องใหญ่ๆ เพื่อว่าแทนที่เราจะลงมือทำอะไรก็ตามที่สามารถทำได้เพื่อรับใช้พระเจ้า, เรากลับจะพอใจและปรารถนาที่จะทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้สำเร็จ”

“ผู้เป็นที่รักของเราพระองค์นี้ทรงมีพระเมตตาและทรงความดี นอกจากนี้ พระองค์ยังปรารถนาความรักของเราอย่างที่สุดจนเรียกเราให้เข้ามาใกล้พระองค์ เสียงของพระองค์ช่างไพเราะจนวิญญาณที่น่าสงสารต้องแตกสลายเมื่อเผชิญกับความไม่สามารถของตนเองในการทำทุกอย่างที่พระองค์ขอให้เธอทำได้ทันที ดังนั้นคุณจะเห็นได้ว่าการได้ยินพระองค์เจ็บปวดมากกว่าการไม่ได้ยินพระองค์เสียอีก... ในตอนนี้ เสียงของพระองค์มาถึงเราผ่านถ้อยคำที่คนดีพูด ผ่านการฟังคำเทศน์สอนฝ่ายจิต และการอ่านหนังสือศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้าทรงเรียกเราด้วยวิธีเล็กๆน้อยๆมากมายตลอดเวลา ผ่านความเจ็บป่วย ความทุกข์ และความเศร้าโศก พระองค์ทรงเรียกเราผ่านความจริงที่แวบเข้ามาในเวลาที่เราสวดภาวนา ไม่ว่าความเข้าใจดังกล่าวจะจริงใจเพียงใดก็ตาม พระเจ้าจะทรงชื่นชมยินดีทุกครั้งที่เราเรียนรู้สิ่งที่พระองค์พยายามสอนเรา”  

วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2567

นักบุญเทเรซาเห็นพระเยซูเจ้า


มันเป็นแสงที่ไม่มีวันจืดจาง, เป็นความจริงใจที่เต็มไปด้วยความอ่อนหวาน
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

นักบุญยอห์น บอสโก พูดถึงสวรรค์


“พระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าส่องแสงเหนือนครนี้ และตะเกียงของเมืองนี้คือลูกแกะ”
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

แม่พระเหรียญอัศจรรย์


“ใครก็ตามที่สวมเหรียญนี้หรือมีเหรียญนี้ติดตัว,จะได้รับพระหรรษทานที่ยิ่งใหญ่”
>>>อ่านต่อ