พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม 2025 เทศกาลเตรียมรับเสด็จ อาทิตย์ที่ 3

          ขณะที่ยอห์นถูกจองจำอยู่ในคุก เขาได้ยินข่าวกิจการของพระเยซูเจ้า จึงใช้ศิษย์ไปทูลถามพระองค์ว่า “ท่านคือผู้ที่จะมาหรือเราจะต้องรอคอยใครอีก” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “จงไปบอกยอห์นถึงสิ่งที่ท่านได้ยินและได้เห็น คนตาบอดกลับแลเห็น คนง่อยเดินได้ คนโรคเรื้อนหายจากโรค คนหูหนวกได้ยิน คนตายกลับคืนชีพ คนยากจนได้รับการประกาศข่าวดี ผู้ที่ไม่แคลงใจในเราย่อมเป็นสุข”
(มัทธิว.11:2-11)








วันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2568

พระนางมารีย์ทรงเป็นแม่ของเราทุกคน


พระนางมารีย์ทรงเป็นแม่ของเรานั้นเป็นอย่างไร? ลองพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นกับซิสเตอร์เดนิส หนึ่งในซิสเตอร์ในชุมชนของฉัน เธอเล่าให้ฉันฟังว่า:

“เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม่ของฉันเสียชีวิตกะทันหัน นับเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับฉัน เพราะเราสนิทกันมาก และไม่มีเวลาที่จะกล่าวคำอำลาเลย ในวันต่อมา ฉันรู้สึกไม่เพียงแต่โศกเศร้าอย่างสุดซึ้งเท่านั้น แต่ยังรู้สึกว่างเปล่าอีกด้วย แม่ของฉันจากไปแล้ว และฉันรู้สึกโดดเดี่ยวมาก วันหนึ่ง ขณะที่ฉันกำลังช่วยทำความสะอาดอพาร์ตเมนต์ของแม่ ฉันพบสายประคำของแม่ซุกไว้ในกระเป๋าข้างของเก้าอี้ปรับเอน ในคืนนั้น ขณะที่ฉันสวดสายประคำ ฉันถือสายประคำของแม่ไว้ในมือ ทันใดนั้น ฉันก็รู้สึกถึงการประทับอยู่ของพระแม่มารีย์อย่างแรงกล้า และรู้สึกเหมือนเป็นเด็กที่ถูกอุ้มอยู่ในอ้อมแขนของแม่ และที่นั่น เมื่อพระแม่มารีย์ทรงโอบกอดฉัน ฉันรู้สึกถึงพระแม่มารีย์ สิ่งนี้ทำให้ฉันน้ำตาซึม จิตใจสงบ และหัวใจสบายขึ้น ราวกับว่าพระแม่มารีย์กำลังบอกฉันว่าพระแม่อยู่กับฉัน และแม่ของฉันก็ยังอยู่กับฉันด้วย ทุกครั้งที่สวดสายประคำ ฉันจะนึกถึงช่วงเวลานั้น และจำได้ว่าพระแม่มารีย์ทรงอยู่ใกล้ฉันมาก และแม่ของฉันก็อยู่ใกล้ฉันเช่นกัน สายประคำทำให้ฉันเข้มแข็งและกล้าหาญ และเตือนฉันทุกวันว่าพระแม่มารีย์จะไม่มีวันทิ้งฉัน และแม่ของฉันก็เช่นกัน”

วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2568

นักบุญนีโน


ความเชื่อของเธอนำไปสู่การเปลี่ยนศาสนาของทั้งประเทศ และทำให้คริสต์ศาสนาฝังรากลึกอยู่ในสังคมจอร์เจีย
>>>อ่านต่อ






วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2568

ความผิดพลาดที่ยิงใหญ้่ที่สุด


“ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราก็คือการที่เราคิดจะรับใช้พระเจ้าตามวิธีของเราเอง,ไม่ใช่ตามวิธีของพระองค์ ตามความต้องการของเรา,ไม่ใช่ตามพระประสงค์ของพระองค์”

- นักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์

วันอังคารที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2568

การดูแลสั่งสอนเยาวชน


ลูกทั้งหลายของพ่อ, จากประสบการณ์อันยาวนานของพ่อ, บ่อยครั้งที่มีเหตุทำให้พ่อเชื่อมั่นในความจริงอันยิ่งใหญ่นี้

การโกรธนั้นง่ายกว่าการยับยั้งใจของตัวเอง และการขู่เด็กนั้นง่ายกว่าการโน้มน้าวใจเขา

ใช่แล้ว, เป็นการเหมาะสมกว่าที่จะลงโทษความไม่อดทน,และความเย่อหยิ่งของเราเอง มากกว่าการตักเตือนแก้ไขเด็กๆ

เราต้องมั่นคงแต่ใจดี และอดทนกับพวกเขา

ระวังอย่าให้ใครพบว่าลูกถูกกระตุ้นให้เกิดความหุนหันพลันแล่นหรือความดื้อรั้น

~จดหมายจากนักบุญยอห์น บอสโก 
 ถึงชาวซาเลเซียนที่ดูแลเยาวชน

วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2568

ตัวอักษร I กลายเป็น J ได้อย่างไร


ในปี ค.ศ. 1524 นักเขียนชาวอิตาลี Gian Giorgio Trissino ได้สร้างกระแสด้วยการเสนอให้พิจารณาตัวอักษร I และ J ให้เป็นตัวอักษรที่แยกกัน แต่หลังจากการเสียชีวิตของเชกสเปียร์ในปี ค.ศ. 1616 ภาษาอังกฤษจึงยอมรับตัวอักษร J ที่เรารู้จักในปัจจุบันอย่างเต็มที่

ลองคิดดูสิ - พระคัมภีร์ฉบับคิงเจมส์ซึ่งเป็นฉบับดั้งเดิมในปี ค.ศ. 1611 เขียนพระนามพระเยซูว่า "Iesus" และชื่อนักบุญโยเซฟเป็น "Ioseph" แม้แต่ในหนังสือโรเมโอและจูเลียต(Romeo and Juliet) ของเชกสเปียร์ก็ยังพิมพ์ครั้งแรกเป็น "Romeo and Iuliet" 📚

ตัวอักษร J เริ่มต้นจากการประดับตัวเลขโรมัน I ให้มีหางข้างบนและม้วนข้างล่าง สิ่งที่เริ่มต้นจากการเขียนให้ดูสวยงามในลักษณะอักษรวิจิตรในที่สุดก็พัฒนาจนมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง ต้องใช้เวลาร่วมศตวรรษหลังจากที่ Trissino เสนอ ก่อนที่ J จะได้รับการยอมรับอย่างสมบูรณ์ว่าเป็นตัวอักษรลำดับที่ 10 ของตัวอักษรภาษาอังกฤษ

ตัวอักษรที่ปีลาตเขียนบนป้ายประกาศบนไม้กางเขนคือ - INRI - Iesus Nazarenus Rex Iudeorum..

ผู้พูดภาษาอังกฤษยุคใหม่อาจพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่า Julius Caesar เขียนว่า "Iulius Caesar" แต่ข้อความดังกล่าวปรากฏอยู่ในข้อความมานานหลายศตวรรษจริงๆ🖋️

ที่มา: King James Bible (ฉบับปี 1611 และ 1629), Lettere Nuovamente Aggiunte ของ Trissino (1524), แฟ้มสะสมผลงานของเช็คสเปียร์ยุคแรก