Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2025 อุปมาเรื่องเศรษฐีโง่เขลาและความโลภ
ประชาชนคนหนึ่งทูลพระเยซูเจ้าว่า ‘พระอาจารย์ โปรดบอกพี่ชายข้าพเจ้าให้แบ่งมรดกให้ข้าพเจ้าเถิด’ พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า ‘มนุษย์เอ๋ย ใครตั้งเราเป็นผู้พิพากษาหรือเป็นผู้แบ่งมรดกของท่าน แล้วพระองค์ตรัสกับคนเหล่านั้นว่า ‘จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตของคนเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา แม้ว่าเขาจะมั่งมีมากเพียงใดก็ตาม’ พระองค์ยังตรัสอุปมาเรื่องหนึ่งให้เขาทั้งหลายฟังอีกว่า ‘เศรษฐีคนหนึ่งมีที่ดินที่เกิดผลดีอย่างมาก เขาจึงคิดว่า “ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันไม่มีที่พอจะเก็บพืชผลของฉัน” เขาคิดอีกว่า “ฉันจะทำอย่างนี้ จะรื้อยุ้งฉางเก่าแล้วสร้างใหม่ให้ใหญ่โตกว่าเดิม จะได้เก็บข้าวและสมบัติทั้งหมดไว้ แล้วฉันจะพูดกับตนเองว่า “ดีแล้ว เจ้ามีทรัพย์สมบัติมากมายเก็บไว้ใช้ได้หลายปี จงพักผ่อน กินดื่มและสนุกสนานเถิด” แต่พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “คนโง่เอ๋ย คืนนี้ เขาจะเรียกเอาชีวิตเจ้าไป แล้วสิ่งที่เจ้าได้เตรียมไว้จะเป็นของใครเล่า คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนเองแต่ไม่เป็นคนมั่งมีสำหรับพระเจ้า ก็จะเป็นเช่นนี้”
(ลูกา 12:13-21)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2025 อุปมาเรื่องเศรษฐีโง่เขลาและความโลภ
ประชาชนคนหนึ่งทูลพระเยซูเจ้าว่า ‘พระอาจารย์ โปรดบอกพี่ชายข้าพเจ้าให้แบ่งมรดกให้ข้าพเจ้าเถิด’ พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า ‘มนุษย์เอ๋ย ใครตั้งเราเป็นผู้พิพากษาหรือเป็นผู้แบ่งมรดกของท่าน แล้วพระองค์ตรัสกับคนเหล่านั้นว่า ‘จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตของคนเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา แม้ว่าเขาจะมั่งมีมากเพียงใดก็ตาม’ พระองค์ยังตรัสอุปมาเรื่องหนึ่งให้เขาทั้งหลายฟังอีกว่า ‘เศรษฐีคนหนึ่งมีที่ดินที่เกิดผลดีอย่างมาก เขาจึงคิดว่า “ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันไม่มีที่พอจะเก็บพืชผลของฉัน” เขาคิดอีกว่า “ฉันจะทำอย่างนี้ จะรื้อยุ้งฉางเก่าแล้วสร้างใหม่ให้ใหญ่โตกว่าเดิม จะได้เก็บข้าวและสมบัติทั้งหมดไว้ แล้วฉันจะพูดกับตนเองว่า “ดีแล้ว เจ้ามีทรัพย์สมบัติมากมายเก็บไว้ใช้ได้หลายปี จงพักผ่อน กินดื่มและสนุกสนานเถิด” แต่พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “คนโง่เอ๋ย คืนนี้ เขาจะเรียกเอาชีวิตเจ้าไป แล้วสิ่งที่เจ้าได้เตรียมไว้จะเป็นของใครเล่า คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนเองแต่ไม่เป็นคนมั่งมีสำหรับพระเจ้า ก็จะเป็นเช่นนี้”
(ลูกา 12:13-21)
วันพุธที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2566
วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2566
การบิดเบือนของปีศาจ
"ขอให้แสงสว่างแห่งพระจิตเจ้ามาอยู่เหนือเราทุกคนและแสดงให้เราเห็นพระองค์ผู้ทรงเป็นความจริง"
>>>อ่านต่อ
วันจันทร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2566
วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2566
วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2566
วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2566
การประจักษ์ของวิญญาณในไฟชำระ
บุญราศีสตีเฟนแห่งคณะนักพรตน้อยพบกับนักบวชที่เสียชีวิตไปแล้ว(BLESSED STEPHEN OF THE FRIARS MINORS ฉลองวันที่ 3 ก.พ. )
บุญราศีสตีเฟนมีความศรัทธาต่อศีลมหาสนิทเป็นพิเศษ ดังนั้นเขาจึงใช้เวลากลางคืนด้วยการเฝ้าศีลมหาสนิท ในโอกาสดังกล่าว,เขาจะอยู่ตามลำพังในโบสถ์น้อย,มีเพียงแสงริบหรี่ของตะเกียงดวงน้อย ทันใดนั้นเขาก็เห็นนักพรตคนหนึ่งอยู่บริเวณที่นั่ง สตีเฟ่นเข้าไปหาเขาและถามเขาว่าเขาได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องพักในชั่วโมงนั้นหรือไม่? “ผมเป็นผู้ที่เสียชีวิตแล้ว” นักพรตตอบ "ผมมาอยู่ที่นี่ ตามพระบัญชาแห่งพระยุติธรรมของพระเจ้า ผมต้องอยู่ในไฟชำระ เพราะในเวลาที่มีชีวิตอยู่,ในสถานที่นี้ผมได้ทำบาปจากการมีใจเย็นเฉยและประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่ พระเจ้าทรงอนุญาตให้ผมแจ้งสถานะของผมให้คุณทราบ เพื่อคุณจะช่วยผมด้วยการสวดภาวนาของคุณ " (เล่ม 4, ch 30; CF Rossignoli, Merveilles du Purgatoire)
ด้วยความรู้สึกสะเทือนใจต่อคำพูดเหล่านี้, สตีเฟนคุกเข่าลงทันทีเพื่อสวดภาวนาบท De Profundis _ Psalm 130 และบทภาวนาอื่นๆ และเขาสังเกตเห็นว่าในขณะที่เขาสวดภาวนา วิญญาณของผู้ตายมีสีหน้ายินดี หลายครั้งในคืนต่อๆมา,เขาได้เห็นการประจักษ์ในลักษณะเดิม,แต่ผู้ตายมีความสุขมากขึ้นในแต่ละครั้ง เมื่อใกล้ถึงเวลาแห่งการปลดปล่อย,หลังจากการสวดภาวนาของนักบุญสตีเฟนมรณะสักขี,ก็บังเกิดแสงสว่างบริเวณที่นั่ง นักพรตแสดงความขอบคุณต่อสตีเฟนผู้ปลดปล่อยเขา,และหายไปในความสว่างแห่งสิริโรจนา.
วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2566
เราถูกประจญตลอดเวลา
"น่าเสียดายที่สุดสำหรับตัวเราเองหากเราไม่รู้ว่าเราถูกล่อลวงในการกระทำเกือบทั้งหมดของเรา อาทิเช่น ด้วยความเย่อหยิ่ง,ความฟุ้งเฟ้อ,โดยความต้องการให้คนอื่นคิดในทางที่ดีกับเรา,ความอิจฉาริษยา, ความเกลียดชังและการแก้แค้น ในบางครั้ง,ปีศาจก็มาหาเราด้วยภาพลักษณ์ที่เลวร้ายและสกปรกที่สุด เราจะเห็นว่าแม้ในการสวดภาวนาของเรา,มันก็ยังทำให้เราเสียสมาธิและหันเหความคิดของเราไปทางนี้ไปทางนั้น ตั้งแต่สมัยอาดัมเป็นต้นมา,เราจะไม่พบนักบุญที่ไม่ถูกประจญล่อลวง,ในทางใดทางหนึ่ง และนักบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือผู้ที่ถูกประจญล่อลวงมากที่สุด ถ้าพระเยซูเจ้าทรงถูกประจญล่อลวง นั่นก็เพื่อแสดงให้เราเห็นว่าเราต้องถูกประจญล่อลวงด้วย ดังนั้น,เราจึงคาดหวังไว้ได้เลยว่าเราจะต้องถูกประจญล่อลวง ถ้าลูกถามว่าอะไรเป็นสาเหตุของการประจญล่อลวงของเรา? พ่อขอบอกลูกว่ามันเป็นเพราะความสวยงามและคุณค่าอันยิ่งใหญ่และความสำคัญของจิตวิญญาณของเราซึ่งปีศาจมองเห็นคุณค่าและปรารถนามันมากถึงขนาดยอมทนทุกข์ทรมานในนรกสองขุมหากจำเป็น ซึ่งถ้าหากมันทำเช่นนั้นแล้ว,มันจะสามารถลากวิญญาณของเราลงนรกได้
เราไม่ควรหยุดระมัดระวังเฝ้าดูแลตนเองตลอดเวลา ด้วยเกรงว่าปีศาจจะหลอกลวงเราในเวลาที่เราคาดไม่ถึง"
- นักบุญยอห์น เวียนเนย์
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)