2. ประการที่สองนี้ น.โทมัสอธิบายยาวหน่อย
พระศาสนจักรได้กำหนดกฏเกณฑ์ในเรื่องการอดเนื้อในวันศุกร์ตลอดปี และ ในวันพุธและวันศุกร์ในระหว่างมหาพรต เพื่อระงับความพึงพอใจในเรื่องอาหารและเรื่องทางเพศ และเนื้อเป็นอาหารที่ให้ความพึงพอใจมากที่สุดและชักนำให้เกิดความลุ่มหลงมากที่สุด
เนื้อของสัตว์ทุกชนิดที่หายใจในอากาศบนพื้นพิภพรวมทั้งผลิตภัณฑ์ของมัน อันได้แก่ นมของสัตว์บก ไข่ของนก ร่างกายของสัตว์เหล่านี้มีความคล้ายคลึงกับร่างกายของมนุษย์มากกว่าสัตว์ประเภทอื่น และให้ความพึงพอใจเมื่อถูกทำเป็นอาหาร ช่วยบำรุงร่างกายมนุษย์ได้ดีที่สุด มันจึงเป็นสิ่งที่ตอบสนองต่อตัณหาของมนุษย์มากที่สุด ดังนั้นพระศาสนจักรจึงห้ามทานอาหารที่ทำมาจากสัตว์บก
ดังนั้นอาหารที่ทำจากสัตว์เลือดอุ่นจึงให้ความพึงพอใจมากกว่าสัตว์ที่ทำจากสัตว์เลือดเย็น น.โทมัส ได้เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของความพึงพอใจที่รับจากอาหารไปสู่ความความพึงพอใจจากเรื่องทางเพศ
น.โทมัสให้เหตุผลว่า อาหารของเรามีผลต่อราคะตัณหาของเรา
และหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ก็สนับสนุนคำอธิบายนี้ ระดับของฮอร์โมนเทสโตสเตโรนที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้นด้วย ถ้าเราต้องการให้ฮอร์โมนนี้สูงขึ้น ก็ให้ทานเนื้อแดงและเนื้อติดมัน มหาวิทยาลัยฮารวาร์ดได้ทดลองและพบว่าผู้หญิงจะมีภาวะตอบสนองต่อการเจริญพันธุ์เมื่อดื่ม นมวัวที่มีไขมัน
แล้วจะลดระดับฮอร์โมนนี้ได้อย่างไร? ให้ทานผักสลัด ถั่วเหลือง น้ำตาล ผักต่างๆ และ ปลา และงดทานเนื้อและผลิตภัณฑ์จากนม
แล้วอาหารพวกกุ้งลอบสเตอร์หรือหอยนางรมล่ะ?
น.โทมัสกล่าวถึงปัญหานี้ว่า”ยิ่งกว่านั้น ปลาบางชนิดก็ให้ความอเร็ดอร่อยเช่นเดียวกับเนื้อสัตว์ และราคะตัณหาก็ปรารถนาความอเร็ดอร่อยเหมือนกับที่ได้กล่าวมาแล้ว (I-II, 30, 1).”
แล้วไวน์ล่ะ?
ไวน์ก็เช่นเดียวกัน แต่พระศาสนจักรไม่ได้ห้ามดื่มไวน์ราคาแพงในระหว่างเทศกาลมหาพรต แต่การดื่มก็ถือว่าขัดกับจิตตารมณ์ของมหาพรต พระศาสนจักรกำหนดกฎเกณฑ์ในระดับที่ต่ำที่สุด ความรักส่งเสริมให้เราทำการเสียสละบางสิ่งบางอย่างบ้างเพื่อเป็นการใช้โทษบาป แล้วพระคริสต์จะทรงมอบความชื่นชมยินดีและพระหรรษทานจากดวงพระทัยของพระองค์มาให้แก่จิตวิญญาณของเรา คนส่วนมากคงไม่ได้ทานกุ้งลอบสเตอร์ แต่อาจจะทานเนื้อ พระศาสนจักรปรารถนาให้เราทำการเสียสละบางอย่างบ้างในวันศุกร์ และใครจะรู้ การงดทานเนื้ออาจทำให้คุณผอมลงพอที่จะเข้าสู่ทางแคบๆได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น