พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง

          พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)








วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

การล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์4

             ในปี ค.ศ. 1955 หลังการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศมหาอำนาจเหลือเพียง 2 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา  และ สหภาพโซเวียต โลกแบ่งเป็นสองขั้วอย่างชัดเจนคือ เสรีประชาธิปไตย และคอมมิวนิสต์  ทั้งสองขั้วไม่มีความไว้วางใจกันเลย  หลังสงครามโลกสหรัฐถอนทหารออกจากประเทศในยุโรปตะวันออก  ส่วนโซเวียตยังคงทหารเอาไว้และยังเพิ่มทหารเข้าไปในกรีกและตุรกี ทำให้โซเวียตยึดครองประเทศในยุโรปตะวันออกได้จำนวนมาก 

ยังเกิดเหตุการณ์ที่อาจจะนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์ขึ้น  ในสมัย ประธานาธิบดีเคนเนดี อเมริกาพยายามแทรกแซงการเมืองภายในของคิวบาด้วยการพยายามโค่นล้มอำนาจของคาสโตรในการยกพลขึ้นบกที่อ่าวหมู ซึ่งล้มเหลว เป็นช่องทางให้โซเวียต โดยครุสชอฟ ใช้ความอ่อนแอของอเมริกาในการไม่ตัดสินใจเด็ดขาดด้วยการ สร้างฐานยิงขีปนาวุธที่คิวบา และขนส่งขีปนาวุธมาจากโซเวียตทางเรือ เนื่องจากเชื่อว่า อเมริกาจะต้องขอเจรจา แต่เมื่อ ประธานาธิบดีเคนเนดี ออกแถลงการณ์ให้โซเวียตถอนเรือกลับโซเวียตและถอนฐานยิงขีปนาวุธออก ไม่อย่างนั้นอเมริกาจะทำสงครามเต็มรูปแบบกับโซเวียต ท่ามกลางความตึงเครียดนี้โซเวียตตัดสินใจถอยออกจากการปฏิบัติภารกิจและกลับโซเวียต  โลกจึงรอดพ้นจากวิกฤตการณ์ไปได้
เกิดสงครามภายในประเทศต่างๆ เช่น เกาหลี เวียตนาม ลาว กัมพูชา วิกฤตการณ์คลองสุเอส  ลัทธิคอมมิวนิสต์แพร่หลายไปในหลายประเทศ
กลับมาที่โปแลนด์

 รัฐบาลโปแลนด์ออกนโยบายให้ประชาชนใช้คูปองสำหรับการปันส่วน
เศรษฐกิจ
เศรษฐกิจที่วางแผนไว้ที่ส่วนกลางได้รับการแนะนำโดย รัฐบาลคอมมิวนิสต์ซึ่งไม่ยอมให้มีการครอบครองทรัพย์สินส่วนบุคคลในอุตสาหกรรมหรือในส่วนงานบริการ  นโยบายของรัฐบาลทำให้ความสามารถในการทำกำไรและความคิดริเริ่มในอุตสาหกรรมต้องสูญเสียไป ระดับการบริการลดต่ำลง และมีการปันส่วนอาหาร

 
 
คิวที่ด้านหน้าของร้านขายของชำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น