พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง

          พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)








วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ธนาคารเวลา


ลองจินตนาการว่ามีธนาคารแห่งหนึ่ง นำเงินเข้าบัญชีให้คุณทุกเช้าเป็นจำนวนเงิน 86,400 บาท แต่ไม่มีการยกยอดคงเหลือไปวันรุ่งขึ้น ทุกสิ้นวันยอดเงินที่เหลืออยู่จะถูกลบจนหมด คุณจะทำอย่างไร? แน่นอนที่สุดคุณต้องถอนมาใช้ทุกบาททุกสตางค์ใช่ไหม!!!
เราทุกคนก็มีธนาคารอย่างนี้เหมือนกัน ธนาคารแห่งนี้ชื่อว่า เวลามันเข้าบัญชีให้คุณ 86,400 วินาที ทุกคืนมันจะถูกล้างบัญชีเหลือศูนย์ มันไม่สะสมยอดคงเหลือ ไม่ให้เบิกเกินบัญชี ถ้าคุณเสียโอกาสที่จะใช้มันให้เกิดประโยชน์ในระหว่างวัน ผลขาดทุนก็เป็นของคุณ ไม่สามารถถอยหลังกลับไปใช้ได้ ไม่มีการถอนของ วันพรุ่งนี้มาใช้ได้ คุณต้องมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันด้วยยอดเงินฝากของวันนี้ ให้ลงทุนจากเงินฝากเหล่านี้เพื่อได้ผลตอบแทนกลับมาดีที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ ความสุข และความสำเร็จ นาฬิกากำลังเดินไม่หยุด จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด และมีคุณค่าที่สุด
จงใช้เวลาที่มีให้มีคุณค่า และจำไว้เสมอว่า เวลาจะไม่คอยใครแม้สักคนเดียว เมื่อวานคืออดีต พรุ่งนี้ยังยากที่จะอธิบาย
ส่วนปัจจุบันเป็นของขวัญที่เรามี เราจึงเรียกมันว่า “Present”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น