เนื่องจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองและมนุษยธรรม ประเทศเวเนซูเอลาซึ่งมีผู้ที่ศรัทธาในศาสนาน้อยกำลังเปลี่ยนเป็นประเทศที่มีความศรัทธาความเชื่อในพระคริสต์ ในขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองมีความชะงักงัน จากการปะทะกันระหว่างประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร Nicolás Maduro และผู้นำฝ่ายค้านนาย ฮวน กัวโด Juan Guaidó ฝ่ายมาดูโร พยายามทุกวิถีทางที่จะบดขยี้นายกัวโด เป็นเวลานานนับเดือน ทำให้เกิดการขาดแคลนไฟฟ้า, อาหารและน้ำ ประชาชนหลายพันคนต้องเสียชีวิต ผู้ป่วยในโรงพยาบาลขาดยารักษา เด็กที่เพิ่งเกิดต้องตายเพราะไม่มีนมและไฟฟ้าสำหรับใช้ในการฟื้นตัว ประชาชนทุกคนต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดไปวันๆ ในวิกฤตการณ์เช่นนี้ประชาชนไม่มีที่ไหนจะพึ่งพาได้ พวกเขาค้นหาความบรรเทาใจและแสวงหาคำตอบของชีวิตที่ทุกข์ยากนี้
Rev. Jesús Godoyพระสงฆ์คาทอลิกประจำโบสถ์ Good Shepherd ในเขต Chacao ของคารากัสกล่าวว่า “พิธีมิสซาในโบสถ์ของพ่อ มีผู้มาร่วมพิธีจนเต็มซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ท่านบอกว่าท่านเห็นคนมากกว่า 2,000 คนในแต่ละอาทิตย์สุดสัปดาห์ “ พวกเขามาสวดภาวนาขอความช่วยเหลือ” คุณพ่อ Godoy กล่าว “พวกเขาต้องการให้พระเจ้าประทานสิ่งที่ช่วยพวกเขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในภาวะวิกฤติ”
คุณพ่อ Godoy พยายามช่วยเหลือผู้คนที่อยู่ตามท้องถนนทางด้าน การงาน, อาหาร, ที่พัก, และการปลอบบรรเทาใจ เท่าที่จะทำได้
นาง Leidy Villegas บอกว่าความเชื่อคาทอลิกทำให้เธอสามารถเผชิญหน้ากับความเป็นจริงได้ เธอหาอาหารสำหรับครอบครัวได้บ้าง เธอหาน้ำได้ในบางวัน แต่ในท่ามกลางความทุกข์ยากนี้ เธอได้พบกับบางอย่างที่ใหญ่และทรงอำนาจมากกว่าวิกฤตการณ์ของประเทศ เธอสามารถร้องเพลงในโบสถ์ของเมืองปาตาเร
“เราได้พบกับความบรรเทาใจเพียงไม่กี่ชั่วโมงและกลับบ้านอย่างมีความสุข เราลืมแม้กระทั่งความทุกข์ที่ประสบอยู่” เธอกล่าว Leidy อายุ 34ปี และมีลูก 4 คน
“เรารู้ว่าเรากำลังเดินอยู่บนหนทางแห่งความยากลำบากในวันนี้ แต่เราก็ทำเหมือนในวันก่อน เราหลบภัยมาพึ่งพาพระเจ้า”
Rev. Manuel Zapata พระสงฆ์เยซูอิต กล่าวว่า “เป็นเรื่องใหม่สำหรับผม ที่เห็นประชาชนมากมายออกจากบ้านมาที่โบสถ์ในวันอาทิตย์ ประชาชนมีความต้องการฝ่ายจิตใจอย่างมากมายในปีนี้”
Rev. Alfredo Infante พระสงฆ์เยซูอิตในคาราคัส รู้สึกดีใจที่ประชาชนได้ค้นพบความเชื่อของเขาใหม่อีกครั้ง “แต่ผมรู้สึกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศ เวลานี้พวกเด็กๆกลัวว่าจะไม่มีอะไรกินและต้องลี้ภัยไปยังประเทศอื่น เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายมากที่เด็กๆกำลังสูญเสียความเป็นเด็กไป”
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2025 งานแต่งงานที่หมู่บ้านคานา
  สามวันต่อมามีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ท่านต้องการสิ่งใด เวลาของเรายังมาไม่ถึง” พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาคนรับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด” ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาคนรับใช้ว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม” เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า “จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด” เขาก็ตักไปให้ ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่คนรับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า “ใคร ๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้” พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ ครั้งแรกนี้ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์
(ยอห์น 2:1-11)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2025 งานแต่งงานที่หมู่บ้านคานา
  สามวันต่อมามีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ท่านต้องการสิ่งใด เวลาของเรายังมาไม่ถึง” พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาคนรับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด” ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาคนรับใช้ว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม” เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า “จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด” เขาก็ตักไปให้ ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่คนรับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า “ใคร ๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้” พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ ครั้งแรกนี้ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์
(ยอห์น 2:1-11)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น