พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงปรากฏพระองค์แก่บรรดาศิษย์

           ศิษย์ทั้งสองคนจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตามทางและเล่าว่าตนจำพระองค์ได้เมื่อทรงบิขนมปัง
           ขณะที่บรรดาศิษย์สนทนากันอยู่นั้น พระเยซูเจ้าทรงยืนอยู่ในหมู่เขา ตรัสว่า ‘สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด’ เขาต่างตกใจกลัว คิดว่าได้เห็นผี แต่พระองค์ตรัสว่า ‘ท่านวุ่นวายใจทำไม เพราะเหตุใดท่านจึงมีความสงสัยในใจ จงดูมือและเท้าของเราซิ เป็นเราเองจริง ๆ จงคลำตัวเราดูเถิด ผีไม่มีเนื้อ ไม่มีกระดูกอย่างที่ท่านเห็นว่าเรามี’ ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงให้เขาดูพระหัตถ์และพระบาท เขายินดีและแปลกใจจนไม่อยากเชื่อ พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า ‘ท่านมีอะไรกินบ้าง’ เขาถวายปลาย่างชิ้นหนึ่งแด่พระองค์ พระองค์ทรงรับมาเสวยต่อหน้าเขา
           หลังจากนั้นพระองค์ตรัสกับเขาว่า ‘นี่คือความหมายของถ้อยคำที่เรากล่าวไว้ขณะที่ยังอยู่กับท่าน ทุกสิ่งที่เขียนไว้เกี่ยวกับเราในธรรมบัญญัติของโมเสส บรรดาประกาศกและเพลงสดุดีจะต้องเป็นความจริง’ แล้วพระองค์ทรงทำให้เขาเกิดปัญญาเข้าใจพระคัมภีร์ ตรัสว่า ‘มีเขียนไว้ดังนี้ว่า พระคริสตเจ้าจะต้องรับทนทรมานและจะกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายในวันที่สาม จะต้องประกาศในพระนามของพระองค์ให้นานาชาติกลับใจเพื่อรับอภัยบาปโดยเริ่มจากกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายเป็นพยานถึงเรื่องทั้งหมดนี้‘
(ลูกา 24:35-48)








วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2565

คำพูดของนักบุญ


'ตามที่นักปราชญ์ของพระศาสนจักรกล่าวไว้ สำหรับบาปหนักทุกประการ,มนุษย์ผู้ทำบาปจำเป็นต้องรับโทษเป็นเวลาเจ็ดปีในโลกนี้,หรือเป็นเวลาที่เทียบเท่ากันในไฟชำระ เหตุผลก็คือบาปหนักทุกประการเป็นความผิดต่อพระพรเจ็ดประการของพระจิตเจ้า แต่การทำกิจใช้โทษบาปนั้นไม่ได้ระบุไว้เป็นการตายตัว พระคริสต์จึงทรงประสงค์จะคงอยู่ในอียิปต์เป็นเวลาเจ็ดปี โดยทรงประทับอยู่ในที่คับแคบ เพื่อแสดงว่าสิ่งนั้นเป็นการอยู่ในที่แคบแห่งการสำนึกผิดเป็นเวลาเจ็ดปี 
หลังจากนั้น,มนุษย์ผู้นั้นก็เป็นอิสระจากโทษที่กำหนดไว้'  

- นักบุญวินเซนต์ เฟอร์เรอร์ ,บทเทศน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น