พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2024 พระเยซูจะเสด็จมาในวาระสุดท้าย

           “ในวันเหล่านั้นเมื่อทุกขเวทนาผ่านไปแล้ว ดวงอาทิตย์จะมืดไป ดวงจันทร์จะไม่ทอแสง ดวงดาวจะตกจากท้องฟ้า และอานุภาพบนท้องฟ้าจะสั่นสะเทือน เมื่อนั้นประชาชนทั้งหลายจะเห็นบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาในก้อนเมฆ ทรงพระอานุภาพและพระสิริรุ่งโรจน์ยิ่งใหญ่ เมื่อนั้น พระองค์จะทรงใช้ทูตสวรรค์ไปรวบรวมผู้ที่ทรงเลือกสรรจากทั้งสี่ทิศ จากปลายแผ่นดินจนสุดขอบฟ้า
           “จงเรียนคำอุปมาเรื่องต้นมะเดื่อเทศเถิด เมื่อมันแตกกิ่งอ่อนและผลิใบ ท่านทั้งหลายย่อมรู้ว่าฤดูร้อนใกล้เข้ามาแล้ว ท่านก็เช่นเดียวกัน เมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ก็จงรู้เถิดว่าพระองค์ทรงใกล้เข้ามา อยู่ที่ประตูแล้ว เราบอกความจริงแก่ท่านว่า คนในชั่วอายุนี้จะไม่ล่วงพ้นไปก่อนที่เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้น ฟ้าดินจะสูญสิ้นไป แต่วาจาของเราจะไม่สูญสิ้นไปเลย “ส่วนเรื่องวันและเวลานั้น ไม่มีใครรู้เลย ทั้งบรรดาทูตสวรรค์ และแม้แต่พระบุตร นอกจากพระบิดาเพียงพระองค์เดียว
(มาระโก 13:24-32)








วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2566

อัศจรรย์จากนักบุญเบเนดิกต์


วันหนึ่ง,นักบุญเบเนดิกต์, เจ้าอาวาสผู้ยิ่งใหญ่ ( ค.ศ. 480-ค.ศ. 547) ซึ่งกำลังกลับมาที่โบสถ์จากการทำงานในไร่นา,ได้พบกับชาวนาผู้หนึ่งที่กำลังได้รับความทุกข์อย่างหนัก “เอาลูกชายฉันคืนมา! เอาลูกชายฉันคืนมา!” เขาร้องไห้. 
เบเนดิกต์หยุดชะงัก “แต่เราไม่ได้พรากลูกชายไปจากท่านนะ?” 
"เขาตายแล้ว มาเถิด มาช่วยชุบชีวิตเขาขึ้นมา!" ชายผู้นั้นร้อง 
สหายบางคนของเบเนดิกต์เริ่มเดินไปข้างหน้าอย่างกระตือรือร้น ราวกับตั้งใจจะไปพร้อมกับบิดาที่กำลังเป็นทุกข์ผู้นี้ แต่เบเนดิกต์รู้สึกไม่พอใจกับคำพูดที่ร้องขอเป็นนัยของบิดา ท่านพูดขึ้นว่า: "หยุดก่อนพี่น้อง! ถอยไป! อัศจรรย์เช่นนี้อยู่นอกเหนืออำนาจของเรา มีแต่อัครสาวกผู้ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่สามารถชุบชีวิตคนตายได้ ทำไมพวกท่านถึงเป็นเช่นนั้น กระตือรือร้นที่จะยอมรับในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเรา” นักบุญพูดด้วยความถ่อมตน 
แต่ชายคนนั้นขอร้องต่อไป เขาสาบานด้วยว่าเขาจะไม่ยอมจากเบเนดิกต์ไปจนกว่านักบุญจะคืนชีวิตให้กับลูกชายของเขา เบเนดิกต์อาจมีปัญหากับคำสาบานของชายผู้นี้ ท่านถามชายคนนั้นว่าศพอยู่ที่ไหน ผู้เป็นบิดาบอกนักบุญว่าเขาทิ้งศพไว้ที่ประตูอารามและมาตามหาเบเนดิกต์หลังจากได้รับแจ้งว่าท่านไม่อยู่ 
เมื่อทุกคนมาถึงประตูอาราม นักบุญคุกเข่าลงข้างๆร่างที่ไร้ชีวิตแล้วโน้มตัวลงเหนือร่างนั้น แล้วท่านก็ยืนยกมือขึ้นสวดภาวนาว่า “ข้าแต่พระเจ้า, ขออย่าทรงพิจารณาถึงบาปของข้าพระองค์ แต่โปรดทอดพระเนตรความเชื่อของชายผู้นี้ซึ่งขอให้เห็นบุตรของเขามีชีวิตอีกครั้ง และโปรดทรงนำวิญญาณที่พระองค์ทรงพรากไปจากร่างนี้กลับคืนสู่ร่างนี้ด้วยเทอญ” คำอธิษฐานภาวนาของเบเนดิกต์จบลง,และร่างกายของเด็กก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีก ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้ต่างก็ให้การอัศจรรย์ว่าเป็นการช่วยเหลือจากสวรรค์ เป็นอีกครั้งที่นักบุญได้ชุบชีวิตเด็กให้กลับมามีชีวิตและมีความสุขในอ้อมแขนของบิดาที่เปี่ยมล้นด้วยความยินดี
 
- Source: Raised from the Death
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น