พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง

          พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)








วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

พระสันตปาปาเลโอที่ 14 กับลูเทอร์


พระสันตปาปาลีโอที่ 14 เป็นบุคคลที่มีความเป็นคนแรกในหลายๆ ด้าน ไม่เพียงแค่เป็นพระสันตปาปาที่เกิดในอเมริกาพระองค์แรกเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงเป็นพระสันตปาปาพระองค์แรกจากคณะนักบุญออกัสติน (OSA) อีกด้วย ความเชื่อมโยงกับคณะนักบุญออกัสตินนี้มีความหมายทางประวัติศาสตร์อย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าพระสันตปาปาเลโอที่ 10 ซึ่งพระองค์ถือเป็นจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์พระศาสนจักร ทรงเป็นผู้ขับไล่(บัพชะนียกรรม)มาร์ติน ลูเทอร์ พระสงฆ์จากคณะนักบุญออกัสติน ออกจากพระศาสนจักร การกระทำของลูเทอร์ส่งผลให้เกิดการปฏิรูปศาสนาของนิกายโปรเตสแตนต์ ในอีกแง่หนึ่ง,พระสันตปาปาเลโอที่ 14 ทำให้วงจรกลับมาบรรจบอีกครั้งจากสมัยของพระสันตปาปาเลโอที่ 10 ทรงเป็นตัวแทนของความต่อเนื่องและการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งภายในพระศาสนจักร

พระสันตปาปาเลโอที่ 10 ทรงบัพขนียกรรมมาร์ติน ลูเทอร์ ผู้ซึ่งอยู่ในคณะออกัสติน และอีก 504 ปีต่อมา พระสันตปาปาเลโอที่ 14 ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะออกัสตินเช่นกัน ทรงพยายามเยียวยาความขัดแย้งและแก้ไขผลกระทบระยะยาวจากการกระทำของลูเทอร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น