พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง

          พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)








วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

นายชุมพาบาลที่ดี


ก่อนที่จะมาเป็นพระสันตปาปาเลโอที่ 14 พระองค์ได้ทำสิ่งดีดีสามสิ่งที่ไม่อาจลืมได้

1. ขณะที่เป็นพระสังฆราช,พระองค์ได้ขายบ้านพักพระสังฆราชของพระองค์ในชิคาโก เพื่อนำเงินไปสร้างที่พักให้แก่ผู้ลี้ภัยหลังจากสงครามอิรัก พระองค์ได้รับเงินจากการขายจำนวน 1.8 ล้านดอลลาร์และนำไปช่วยเหลือบรรดาผู้ลี้ภัย เงินจำนวนนี้ได้สร้างที่พักมากกว่า 120 หลังในจอร์แดนและเลบานอน พระองค์บอกว่าหลังคาโบสถ์ควรอยู่สูงกว่าที่พักของผู้ลี้ภัย

2. พระองค์ไปเยี่ยมนักโทษและช่วยเหลือเยาวชนที่ต้องขังให้ได้ไปโรงเรียน ตั้งแต่ปี 2012 พระองค์ได้ไปเยี่ยมเรือนจำทุกวันคริสต์มาส นำของขวัญและใช้เวลากับผู้ต้องขัง พระองค์ได้ริเริ่มกองทุนที่เรียกว่า HOPE TUITION ได้ให้ทุนการศึกษาแก่เยาวชนมากกว่า 200 คนในแต่ละปี เงินบริจาคทั้งหมดมีมากกว่า 500,000 ดอลลาร์

3. พระองค์บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างลับๆและช่วยชีวิตของคนจำนวนมาก เมื่อโรคระบาดโควิดเริ่มขึ้นในปี 2020 โรงพยาบาลในลาตินอเมริกาต้องรับคนไข้จำนวนมากมาย พระองค์ได้ให้เครื่องมือช่วยหายใจจำนวนมากกว่า 300 เครื่องอย่างลับๆซึ่งมีมูลค่าถึง 2.7 ล้านดอลลาร์ เครื่องมือเหล่านี้ไปที่โรงพยาบาลในเปรู เอกวาดอร์ และโบลีเวีย

ไม่มีใครรู้เรื่องราวเหล่านี้จนกระทั่งพระองค์ได้เป็นพระสันตะปาปาแล้วจึงได้มีการเปิดเผย บรรดาผู้นำต่างเรียกพระองค์ว่า “Visible Angel in White” (ทูตสวรรค์ที่มองเห็นได้ในชุดขาว)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น