พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง

          พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)








วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ความทุกข์ทรมาน


พระเจ้าทรงส่งความทุกข์ทรมานให้กับคนบาปเพื่อนำเขากลับคืนสู่วิถีที่ถูกต้องและช่วยให้เขารอดพ้นจากความตายนิรันดร์

ความทุกข์สอนให้เรารู้จักตัวเองและความบาปของเรา

ต้นไม้ออกดอกและออกผลหลังฤดูหนาวฉันใด มนุษย์ก็กระทำสิ่งที่พอพระทัยพระเจ้าหลังจากทนทุกข์ทรมานฉันนั้น

นักบุญเทเรซากล่าวว่า “ความทุกข์แม้จะยากที่จะทน แต่เป็นหนทางที่แน่นอนที่สุดที่จะไปถึงพระเจ้าได้”

พระเจ้ามักจะส่งความเจ็บป่วยทางร่างกายไปให้คนบาปเพื่อรักษาความเจ็บป่วยของจิตวิญญาณของเขา

ผู้มีปัญญากล่าวว่า “ความเจ็บป่วยร้ายแรงทำให้จิตใจสงบ” เมื่อเจ็บป่วย พระเจ้าทรงเคาะประตูหัวใจและขอให้เข้ามา

นักบุญอิกเนเชียสกล่าวว่า “ข้าพเจ้ามีความยินดีเสมอเมื่อข้าพเจ้าเห็นคนบาปล้มป่วย เพราะความเจ็บป่วยนำเขากลับคืนสู่พระเจ้า”

เป็นเรื่องโง่เขลาเพียงใดที่จะมองความเจ็บป่วยเป็นเครื่องหมายแห่งพระพิโรธของพระเจ้า ในขณะที่จริง ๆ แล้วมันเป็นเครื่องหมายแห่งพระเมตตาของพระองค์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น