Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย  ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา  แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ  พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2025 สมโภชนักบุญทั้งหลาย
พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นประชาชนมากมาย จึงเสด็จขึ้นบนภูเขา เมื่อประทับแล้ว บรรดาศิษย์เข้ามาห้อมล้อมพระองค์ (2) พระองค์ทรงเริ่มตรัสสอนว่า
“ผู้มีใจยากจน ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา
(มัทธิว 5:1-12)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2025 สมโภชนักบุญทั้งหลาย
พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นประชาชนมากมาย จึงเสด็จขึ้นบนภูเขา เมื่อประทับแล้ว บรรดาศิษย์เข้ามาห้อมล้อมพระองค์ (2) พระองค์ทรงเริ่มตรัสสอนว่า
“ผู้มีใจยากจน ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา
(มัทธิว 5:1-12)
วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2559
วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2559
สาส์นจากบราซิล-เอดสัน
เรื่องราวของ เอดสัน เกลาเบอร์ ที่เมือง อิตาปิแรงกาซึ่งอยู่ริมแม่น้ำอะเมซอน ทางตะวันตกของบราซิล  เขาเห็นแม่พระตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. 1994 และได้รับการรับรองจาก Archbishop Carillo Gritti of Itacoatiara  พระสังฆราชของท้องถิ่นนั้น
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ปูตินวิจารณ์โลกตะวันตก
MOSCOW
— ในสงครามเย็นระหว่างอเมริกากับโซเวียตรัสเซีย  กลุ่มหัวอนุรักษ์นิยมชาวอเมริกันเรียกสหภาพโซเวียตว่าเป็น
“ประเทศที่ไม่มี พระเจ้า”
มากกว่าสองศตวรรษผ่านไป  ประวัติศาสตร์ก็กลับมาซ้ำรอยเดิม 
ขณะที่เครมลินได้ประสานร่วมมือกับศาสนจักรออร์โธดอกซ์  ทางฝากฝั่งตะวันตก
อันได้แก่ยุโรปและอเมริกาก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน
ประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า
“หลายประเทศใน ยูโร-แอตแลนติก (ประเทศยุโรปและอเมริกา)  ได้ละทิ้งรากฐานของตนเอง อันได้แก่  คุณค่าของคริสตศาสนา”
“นโยบายหลายอย่างมุ่งไปที่การมีครอบครัวที่รับลูกมาเลี้ยงหลายคนจากเชื้อชาติต่างๆกัน  และการอยู่กินของเพศเดียวกัน  ไม่เชื่อในพระเจ้าแต่เชื่อในซาตาน  สิ่งเหล่านี้เป็นหนทางแห่งความเสื่อมถอย”
ปูตินได้กล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าวต่อคนในประเทศเมื่อกลางเดือนธันวาคม  ปูตินยังกล่าวว่า  รัสเซียเป็นประเทศที่ปกป้อง “คุณค่าของวัฒนธรรม”
และต่อต้านสิ่งที่ทางตะวันตกได้ทรยศต่อการอนุรักษ์สังคมและศาสนา 
เขายืนยันว่าสิ่งที่รัสเซียทำอยู่นี้เป็นหนทางเดียวที่จะปกป้องโลกจากการตกไปสู่
“ความมืดมนอลเวง”
                ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในการปกป้อง “คุณค่าของคริสตศาสนา”  รัสเซียได้ออกกฏหมายต่อต้าน “การโฆษณาชวนเชื่อของพวกรักร่วมเพศ”  และกฎหมายอื่นๆที่เป็นการดูหมิ่นศาสนาของผู้มีความเชื่อทั้งหลาย
                กฏหมายเกี่ยวกับความอ่อนไหวของศาสนาถูกบัญญัติขึ้นเนื่องมาจากมีการเดินขบวนประท้วงในอาสนวิหารที่ใหญ่ที่สุดในกรุงมอสโคว 
นำโดยกลุ่มพังก์ร็อคสตรีที่ต่อต้านศาสนจักรออร์โธดอกซ์ซี่งปูตินให้การสนับสนุนอยู่  ทางเครมลินได้ออกรายการโทรทัศน์กล่าวหาว่ากลุ่ม
“ลัทธิปีศาจ”นี้ ได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก “ชาวอเมริกันบางคน”  Patriarch Kirill I
แห่งมอสโคว ผู้เป็นผู้นำของศาสนจักรออร์โธดอกซ์ ได้กล่าวหาประเทศตะวันตกที่มายุ่งกับ
“การปลดเปลื้องทางจิตวิญญาณ” ของประชาชนของท่าน
Patriarch
Kirill ได้วิจารณ์กฎหมายของประเทศยุโรปหลายประเทศที่ไม่ยอมให้ผู้มีความเชื่อแสดงสัญลักษณ์ทางศาสนาในที่สาธารณะซึ่งได้แก่ไม้กางเขนและสร้อยคอศาสนภัณฑ์ต่างๆ
เป็นต้น
 “ทิศทางทางการเมืองโดยทั่วไปของทางฝั่งตะวันตกนั้น  เป็นปฏิปักษ์ต่อคริสต์ศาสนาโดยไม่ต้องสงสัย และแอนตี้คุณลักษณะต่างๆของศาสนา”
“เราเคยผ่านเหตุการณ์ของการไม่มีความเชื่อในพระเป็นเจ้ามาก่อน  และเรารู้ว่าเป็นเช่นไรในการมีชีวิตอยู่โดยปราศจากพระเป็นเจ้า”
“เราต้องการร้องตะโกนบอกโลกทั้งมวลว่า
‘จงหยุด’”
มีการวิพากษ์วิจารณ์ตะวันตกจากทางศาสนจักรออร์โธดอกซ์อีก  อย่างเช่น พระสงฆ์ที่ชื่อ Vsevolod
Chaplin ผู้เป็นประชาสัมพันธ์ของศาสนจักร  ท่านเหน็บแนมว่า โลกตะวันตกสมัยใหม่นั้นก็ไม่ดีไปกว่าสหภาพโซเวียตในสมัยก่อนในเรื่องที่เกี่ยวกับคริสตชนผู้มีความเชื่อ”
ในสมัยโซเวียต
ได้มีการประหารชีวิตพระสงฆ์นักบวชและผู้มีความเชื่อไปประมาณ 200,000 คนตั้งแต่ปี
1917 ถึง 1937 
ตัวเลขนี้นำมาจากรายงานการประชุมต่อประธานาธิบดีในปี 1995  มีโบสถ์นับพันแห่งที่ถูกทำลาย  โบสถ์ที่ไม่ถูกทำลายก็ถูกเปลี่ยนเป็นโกดังเก็บสินค้า  โรงรถ 
หรือพิพิทธภัณฑ์ของลัทธิไม่นับถือพระเจ้า
พระสงฆ์ท่านนี้กล่าวว่า
“การแยกศาสนจักรออกจากอาณาจักรเป็นความผิดพลาดของทางตะวันตก 
มันเป็นปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่ที่เกิดกับทางตะวันตกที่เจริญแล้วเท่านั้นและมันจะฆ่าตะวันตกทั้งในด้านการเมืองและศีลธรรม”
นโยบายส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมของทางเครมลินทำให้เกิดความตื่นตัวของออร์โธดอกซ์
และทำให้เกิดกลุ่ม Union of Orthodox Banner Bearers  ซึ่งเป็นกลุ่มอนุรักษ์นิยมสุดขีดที่มีสโลแกนว่า
“ออร์โธดอกซ์หรือไม่ก็ความตาย”
Patriarch
Kirill ได้กล่าวสรรเสริญผู้นำกลุ่มนี้  ที่ได้รับใช้พระศาสนจักรออร์โธดอกซ์  กลุ่มนี้แต่งกายด้วยชุดดำมีรูปโครงกระดูกประดับที่ชุด 
พวกเขาจะเผชิญหน้ากับกลุ่มเกย์และกลุ่มเสรีนิยมตามท้องถนนในกรุงมอสโคว
นาย Yevgeny
Bazhanov
ผู้เป็นอธิบดีว่าการกระทรวงต่างประเทศได้เขียนบทความเมื่อไม่นานมานี้ว่า “คุณค่าของฝั่งตะวันตก  จากลัทธิเสรีนิยมที่ยอมรับสิทธิทางเพศของคนกลุ่มน้อย  และจากความต้องการของคาทอลิกและโปรแตสแตนท์ให้ลดหย่อนการลงโทษต่อนักโทษประหารซึ่งเป็นฆาตกร 
ได้สร้างความประหลาดใจให้แก่พวกเราเป็นอย่างยิ่ง”
ในการทำโพลล์ระบุว่า  ชาวรัสเซีย 70 เปอร์เซ็นต์บอกว่าเขาเป็นคริสตชนออร์โธดอกซ์  และผู้ที่เห็นต่างในอดีตได้เรียกร้องให้ทางศาสนจักรแสดงบทบาทในการเป็นคนกลางระหว่างเครมลินกับผู้ประท้วง
“เพราะปูตินได้กลายมาเป็นอนุรักษ์นิยม  จึงทำให้ทางศาสนจักรมีความกล้ามากขึ้น  ปูตินไม่ได้เข้าข้างทางศาสนจักรมากเกินไป  แต่จะพูดเน้นถึงคุณค่าของวัฒนธรรม  เขาจึงได้รับความนิยมและการสนับสนุนจากทางศาสนจักร”
วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559
วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2559
วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ซี่โครงของอาดัม
คุณรู้ไหมว่าเรื่องในพระคัมภีร์ตอนนี้สอดคล้องกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์อย่างเหลือเชื่อ?  เป็นเรื่องประจวบเหมาะหรือที่พระคัมภีร์กล่าวถึงซี่โครง  ไม่ใช่ฟันหรือนิ้วมือ?
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ทะเลสาปสองแห่งในปาเลสไตน์
มีทะเลสาปสองแห่งในปาเลสไตน์  ทะเลสาบแห่งแรกเป็นน้ำจืดบริสุทธิ์  มีปลาและสัตว์น้ำอาศัยอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ 
ริมฝั่งทะเลมีพืชพันธ์ต่างๆขึ้นงอกงามประดับทะเลให้ดูสวยสดชื่น  น้ำจากทะเลคอยหล่อเลี้ยงสรรพชีวิตบนแผ่นดิน   ทะเลสาปอีกแห่งหนึ่งปราศจากชีวิต  ไม่มีพืชพันธ์หรือแม้แต่เสียงนกร้อง  มีแต่ความเงียบเหงาวังเวง...ทะเลสาปกาลิลีคือทะเลสาบแห่งแรก
 เป็นทะเลสาบที่หล่อเลี้ยงชีวิตของสรรพชีวิต
 ทะเลสาบแห่งที่สองเป็นทะเลสาบที่ปราศจากชีวิต
 เพราะเหตุนี้มันจึงได้ชื่อว่าทะเลตาย Dead Sea  ทะเลทั้งสองต่างได้รับน้ำมาจากแม่น้ำจอร์แดน  แล้วเหตุใดจึงทำให้ทะเลทั้งสองจึงแตกต่างกันอย่างสุดขั้วเช่นนี้  เป็นเพราะทะเลกาลิลีเมื่อได้รับน้ำแล้วก็ถ่ายเทน้ำไปสู่ที่ต่างๆ  ส่วนทะเลตายเป็นทะเลที่รับเอาน้ำเข้ามาอย่างเดียว  โดยไม่ยอมปล่อยน้ำไปที่อื่น  ดังนั้นน้ำทะเลจึงเค็มจัด  
มีคนสองประเภทในโลกนี้ คนแรกเปรียบเหมือนทะเลกาลิลี เขาแบ่งปันสิ่งที่ตนมีแก่ผู้อื่น จิตใจของเขาจึงสดชื่นร่าเริงอยู่เสมอ มีคนที่รักเขาและช่วยเหลือเขา ส่วนคนอีกประเภทหนึ่งเปรียบเหมือนทะเลตาย คือคนที่เห็นแก่ตัวไม่ยอมใช้จ่ายทรัพย์สินของตนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นบ้าง จิตใจของคนเช่นนี้ก็จะแห้งแล้ง เงียบเหงา ไม่มีชีวิตชีวาเช่นเดียวกัน
มีคนสองประเภทในโลกนี้ คนแรกเปรียบเหมือนทะเลกาลิลี เขาแบ่งปันสิ่งที่ตนมีแก่ผู้อื่น จิตใจของเขาจึงสดชื่นร่าเริงอยู่เสมอ มีคนที่รักเขาและช่วยเหลือเขา ส่วนคนอีกประเภทหนึ่งเปรียบเหมือนทะเลตาย คือคนที่เห็นแก่ตัวไม่ยอมใช้จ่ายทรัพย์สินของตนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นบ้าง จิตใจของคนเช่นนี้ก็จะแห้งแล้ง เงียบเหงา ไม่มีชีวิตชีวาเช่นเดียวกัน
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)


 

