พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง

          พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)








วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ทำไมพระเป็นเจ้าไม่ทำลายปีศาจให้หมดไปเสียเลย?


คำถาม :  คุณพ่อฟอร์ทีคะ  ทำไมพระเป็นเจ้าไม่ทำลายปีศาจให้หมดไปเสียเลยล่ะคะ?

คุณพ่อฟอร์ที  : ด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า  พระองค์จึงไม่ประสงค์ที่จะทำลายสิ่งสร้างที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดซึ่งพระองค์ทรงสร้างมา  ซึ่งก็รวมทั้งปีศาจด้วย  การที่ปีศาจยังคงอยู่  จะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงพระยุติธรรมของพระเป็นเจ้า  เป็นการประกาศว่ากฎเกณฑ์ของพระเป็นเจ้านั้นจะล่วงละเมิดมิได้  ผู้ใดที่ล่วงละเมิดกฎของพระองค์จะเปลี่ยนแปลงสภาพของตนเอง  และถ้าเขายังคงเลือกที่จะไม่สำนึกผิดกลับใจในการทรยศนั้น  สภาพที่เปลี่ยนแปลงไปก็จะคงอยู่นิรันดร  เหมือนดังตัวอย่างของปีศาจ  พวกมันเป็นข้อพิสูจน์ที่น่าหวาดหวั่นของกฏระเบียบอันศักดิ์สิทธิ์นี้
ในอีกแง่หนึ่ง  แม้แต่ปีศาจซึ่งถูกสร้างให้สมบูรณ์เพียบพร้อม  ก็ไม่สามารถทำลายความงดงามในการสร้างสรรค์ของพระเป็นเจ้า  ด้วยความน่าเกลียดของพวกมันได้  แต่กลับทำให้เรามองเห็นความงดงามมากยิ่งขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับความน่าเกลียดของพวกมัน  อาสนวิหารคงจะไม่ดูสวยงามมากขึ้นถ้าเราเอารูปปั้นการ์กอย (รูปปั้นผีปีศาจ) ที่ประดับอยู่นั้นออกไป   ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว  ปีศาจแสดงให้เราเห็นถึงพระยุติธรรม, ความศักดิ์สิทธิ์และพระปรีชาญาณของพระเป็นเจ้าในการสร้างสรรค์สรรพสิ่งอย่างมีระเบียบเช่นนี้  จะเป็นการดีกว่าที่จะไม่มีบาปและความชั่วร้ายเข้ามาสู่สิ่งสร้างของพระองค์  อย่างไรก็ตามการมีอยู่ของปีศาจก็สามารถชี้ให้เห็นได้ว่า  อะไรที่เป็นความดี, ความจริง, ความสวยงามและความศักดิ์สิทธิ์  แม้แต่อาสนวิหารที่ยิ่งใหญ่ซึ่งมีหอคอยสูงลิ่วและสลักเสลาอย่างสวยงาม  ก็ยังมีบางมุมที่มืดทึบ  สำหรับปีศาจแล้ว  แม้กาลเวลาผ่านไปเป็นศตวรรษๆๆๆ  มันก็ไม่มีความหวัง  ไม่ต้องสงสัยเลย  ในความสิ้นหวังและเต็มไปด้วยความเศร้านี้  ถ้าหากมันสามารถทำลายตัวเองหรือฆ่าตัวตายได้  มันต้องทำอย่างแน่นอนเพื่อจะได้พ้นจากความทุกข์ของพวกมัน  แต่พวกมันเป็นจิตบริสุทธิ์  ชีวิตของปีศาจจึงไม่สามารถทำลายได้  จิตบริสุทธิ์ไม่มีอวัยวะ  ไม่สามารถใช้ยาพิษทำลาย  มันไม่หิวโหย  และไม่สามารถตายเพราะความโศกเศร้าได้  ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ตาม  มันก็ยังมีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร
อย่างไรก็ตาม  ดังที่กล่าวไว้  แม้ว่าปีศาจจะทนทุกข์ทรมานไปตลอดชั่วนิรันดร  แม้ว่าพวกมันจะไม่สำนึกและตระหนักว่า  การคงอยู่ของพวกมันเป็นพระพรของพระเป็นเจ้า  และแม้ว่ามันจะยังกระทำการด้วยความเกลียดชังซ้ำแล้วซ้ำเล่า และอยู่ห่างไกลจากพระเป็นเจ้า  สิ่งที่มันรับรู้และมีประสบการณ์ก็คือธรรมชาติของการดำรงอยู่ไม่สามารถตายได้นั้น  เป็นธรรมชาติที่พิเศษของพวกมัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น