พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี

           เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ผู้เลี้ยงแกะย่อมสละชีวิตเพื่อแกะของตน ลูกจ้างที่ไม่ใช่ผู้เลี้ยงแกะและไม่เป็นเจ้าของแกะ เมื่อเห็นสุนัขป่าเข้ามาก็ละทิ้งบรรดาแกะและหนีไป สุนัขป่าแย่งชิงแกะ และฝูงแกะก็กระจัดกระจายไป ลูกจ้างวิ่งหนีเพราะเขาเป็นเพียงลูกจ้าง ไม่มีความห่วงใยฝูงแกะเลย เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี เรารู้จักแกะของเรา และแกะของเราก็รู้จักเรา พระบิดาทรงรู้จักเราฉันใด เราก็รู้จักพระบิดาฉันนั้น เรายอมสละชีวิตเพื่อแกะของเรา เรายังมีแกะอื่น ๆ ซึ่งไม่อยู่ในคอกนี้ เราต้องนำหน้าแกะเหล่านี้ด้วย แกะจะฟังเสียงของเรา
           จะมีแกะเพียงฝูงเดียวและผู้เลี้ยงเพียงคนเดียว พระบิดาทรงรักเรา เพราะเราสละชีวิตของเราเพื่อจะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก ไม่มีใครเอาชีวิตไปจากเราได้ แต่เราเองสมัครใจสละชีวิตนั้น
           เรามีอำนาจที่จะสละชีวิตของเรา และมีอำนาจที่จะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก นี่คือพระบัญชาที่เราได้รับจากพระบิดาของเรา‘
(ยอห์น 10:11-18)








วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เพลงลาวดวงเดือน



เพลง "ลาวดวงเดือน" เป็นผลงานนิพนธ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม พระราชโอรสลำดับที่38 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอมมรกต พระนามเดิมว่า "พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์"ในปี พ.ศ.2446เมื่อมีพระชันษา 21 ปี
พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์เสด็จขึ้นไปนครเชียงใหม่ ได้พบรักกับเจ้าชมชื่น ธิดาสาวของเจ้าราชสัมพันธวงศ์กับเจ้าคำย่นเป็นรักครั้งแรกที่ พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์ไม่อาจห้ามพระทัยได้ จึงทรงขอให้พระยานริศราชกิจข้าหลวงใหญ่มณฑลพายัพเป็นเถ้าแก่สู่ขอแต่เจ้าราชสัมพันธวงศ์ทัดทานไว้เพราะเห็นว่าเจ้าชมชื่นมีอายุเพียง 16 ปีในขณะนั้น รอให้มีอายุครบ18ปีเสียก่อนและต้องการให้ พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์ทูลขอพระบรมราชานุญาตจากพระบรมราชชนก เพื่อเจ้าชมชื่นจะได้อยู่ในฐานะสะใภ้หลวงแต่ พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์ก็ถูกทัดทานจากทุกฝ่าย ความรักครั้งแรกของพระองค์จึงต้องยุติลงด้วยความผิดหวัง
เมื่อพระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์เข้ารับราชการในกระทรวงเกษตราธิการทรงรับผิดชอบการเลี้ยงไหมทำให้ต้องเสด็จไปตรวจเยี่ยมศูนย์การทำไหมในมณฑลต่างๆ ครั้งหนึ่งในระหว่างทางที่เสด็จมณฑลอีสานได้ทรงหยุดประทับแรมบรรทมในเกวียน บรรยากาศในยามค่ำคืนอันเงียบเหงาทำให้ทรงนึกถึงความรักที่มีต่อเจ้าชมชื่นจึงได้ทรงนิพนธ์เพลงถึงนางอันเป็นที่รักเพื่อสะท้อนความรักความคิดถึงรวมถึงความไม่สมหวังในรักโดยทรงดัดแปลงและนำท่วงท่าทำนองเพลง "ลาวดำเนินทราย" ของพระยาประสานดุริยศัพท์(แปลก ประสานศัพท์)ซึ่งเป็นเพลงสำเนียงลาว และตั้งชื่อเพลงว่า "ลาวดำเนินเกวียน" เพลงนี้ได้รับความนิยมมาก หลังจากที่ พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์สิ้นพระชนม์(โดยมีพระชันษาเพียง 28 ปี)ผู้ที่นำไปขับร้องทีหลังไม่รู้ที่มาของเพลง เห็นว่าเนื้อเพลงขึ้นต้นด้วยคำว่า"โอ้ละหนอ ดวงเดือนเอย.." จึงเรียกชื่อเพลงนี้ว่า"ลาวดวงเดือน" ปัจจุบันมีการนำคำร้องเดิมไปแปลเป็นภาษาอังกฤษนำทำนองไปใส่คำร้อง ภาษาจีนและภาษาญี่ปุ่น และนำไปแปลงเป็นเพลงไทยเดิมอีกเพลงหนึ่ง นั้นก็คือ "เพลงโสมส่องแสง


กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม กับเจ้าชมชื่น ณ เชียงใหม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น