เพลง
"ลาวดวงเดือน" เป็นผลงานนิพนธ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม พระราชโอรสลำดับที่38 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
กับเจ้าจอมมรกต พระนามเดิมว่า "พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์"ในปี
พ.ศ.2446เมื่อมีพระชันษา 21 ปี
พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์เสด็จขึ้นไปนครเชียงใหม่
ได้พบรักกับเจ้าชมชื่น
ธิดาสาวของเจ้าราชสัมพันธวงศ์กับเจ้าคำย่นเป็นรักครั้งแรกที่
พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์ไม่อาจห้ามพระทัยได้
จึงทรงขอให้พระยานริศราชกิจข้าหลวงใหญ่มณฑลพายัพเป็นเถ้าแก่สู่ขอแต่เจ้าราชสัมพันธวงศ์ทัดทานไว้เพราะเห็นว่าเจ้าชมชื่นมีอายุเพียง
16 ปีในขณะนั้น รอให้มีอายุครบ18ปีเสียก่อนและต้องการให้
พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์ทูลขอพระบรมราชานุญาตจากพระบรมราชชนก
เพื่อเจ้าชมชื่นจะได้อยู่ในฐานะสะใภ้หลวงแต่
พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์ก็ถูกทัดทานจากทุกฝ่าย ความรักครั้งแรกของพระองค์จึงต้องยุติลงด้วยความผิดหวัง
เมื่อพระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์เข้ารับราชการในกระทรวงเกษตราธิการทรงรับผิดชอบการเลี้ยงไหมทำให้ต้องเสด็จไปตรวจเยี่ยมศูนย์การทำไหมในมณฑลต่างๆ
ครั้งหนึ่งในระหว่างทางที่เสด็จมณฑลอีสานได้ทรงหยุดประทับแรมบรรทมในเกวียน
บรรยากาศในยามค่ำคืนอันเงียบเหงาทำให้ทรงนึกถึงความรักที่มีต่อเจ้าชมชื่นจึงได้ทรงนิพนธ์เพลงถึงนางอันเป็นที่รักเพื่อสะท้อนความรักความคิดถึงรวมถึงความไม่สมหวังในรักโดยทรงดัดแปลงและนำท่วงท่าทำนองเพลง
"ลาวดำเนินทราย" ของพระยาประสานดุริยศัพท์(แปลก
ประสานศัพท์)ซึ่งเป็นเพลงสำเนียงลาว และตั้งชื่อเพลงว่า
"ลาวดำเนินเกวียน" เพลงนี้ได้รับความนิยมมาก หลังจากที่ พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์สิ้นพระชนม์(โดยมีพระชันษาเพียง
28 ปี)ผู้ที่นำไปขับร้องทีหลังไม่รู้ที่มาของเพลง เห็นว่าเนื้อเพลงขึ้นต้นด้วยคำว่า"โอ้ละหนอ
ดวงเดือนเอย.." จึงเรียกชื่อเพลงนี้ว่า"ลาวดวงเดือน"
ปัจจุบันมีการนำคำร้องเดิมไปแปลเป็นภาษาอังกฤษนำทำนองไปใส่คำร้อง
ภาษาจีนและภาษาญี่ปุ่น และนำไปแปลงเป็นเพลงไทยเดิมอีกเพลงหนึ่ง นั้นก็คือ
"เพลงโสมส่องแสง
กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม กับเจ้าชมชื่น
ณ เชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น