ในปี 2002 มีคริสตชนอยู่ในอิรักมากกว่าหนึ่งล้านคน ปัจจุบันนี้มีเหลืออยู่เพียงประมาณ 300,000
คน คริสตชน 120,000 คนถูกบังคับให้เลือกว่าจะยอมเปลี่ยนเป็นอิสลามหรือไม่ก็ต้องตาย
ผู้เชี่ยวชาญประมาณว่าอีกห้าปีจะไม่มีคริสตชนเหลืออยู่ในอิรักเลย นี่เป็นข่าวที่มาจาก Aid to the Church in Need ซึ่งเป็นองค์การกุศลของคาทอลิก
MSGR. GEORGES
CASMOUSSAAuxiliary Patriarch, Syrian-Catholic Church
“ถ้ามีอิสรภาพ ประชาชนจะกลับมา
แต่หลายคนจะไม่กลับเพราะพวกเขาไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกเป็นครั้งที่สอง
, สี่ หรือ สิบ”
CARD. BÉCHARA
BOUTROS RAÏMaronite Patriarch of Antioch
“มันทำให้ผมเจ็บปวดมากที่ประชาคมโลกและการเมืองไม่สนใจ...พระสันตปาปาฟรังซิสทรงประณามหลายครั้งแล้ว สิ่งที่เราต้องทำให้ตะวันออกกลางคือการปฏิรูปทางการเมือง เราไม่จำเป็นต้องพูดถึงประชาธิปไตย เราต้องทำให้การค้าอาวุธสงครามยุติลง”
ในรายงานของ "Persecuted and Forgotten” ปี
2013 มีคริสตชนถูกเบียดเบียนใน 10 ประเทศได้แก่
จีน, อิหร่าน, เอริเทีย , ซาอุดิอาราเบีย,ปากีสถาน, และเกาหลีเหนือ ที่เลวร้ายที่สุดคือที่ อิรัก , ไนจีเรีย,ซูดาน
และ ซีเรีย
รายงานบอกว่า กลุ่มอิสลามหัวรุนแรงเป็นสาเหตุหลักของอันตรายของคริสตชนในประเทศเหล่านี้
แต่ก็มีประเทศที่ไม่ใช่อิสลามซึ่งกระทำความรุนแรงต่อสิทธิของคริสตชนด้วย
ในปี 2014 จีนได้จับกุมผู้นำนักบวชมากกว่า 400 คน ในเกาหลีมีสถานการณ์ที่ร้ายแรงกว่า เดือนมีนาคม 2014 เผด็จการ คิม จอง อุน
สั่งให้ประหารคริสตชน 33 คนด้วยข้อหาทำจารกรรม
รายงานกล่าวว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของคริสตชนทั้งหมด 400,000 คนทำงานในค่ายแรงงาน เป็นที่ซึ่งพวกเขาถูกทำร้าย ถูกฆ่า และใช้ในการทดลองทางการแพทย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น