พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2025 งานแต่งงานที่หมู่บ้านคานา

           สามวันต่อมามีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ท่านต้องการสิ่งใด เวลาของเรายังมาไม่ถึง” พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาคนรับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด” ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาคนรับใช้ว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม” เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า “จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด” เขาก็ตักไปให้ ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่คนรับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า “ใคร ๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้” พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ ครั้งแรกนี้ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์
(ยอห์น 2:1-11)








วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

นักบุญคิทรินแห่งเซียนนา1


ให้คำแนะนำแก่พระสันตะปาปา
น.คัทรินแห่งเซียนนามีส่วนช่วยเหลือพระศาสนจักรในระหว่างความยุ่งยากที่เกิดขึ้นในปี 1370-1378 โดยท่านเป็นเสมือนมารดาฝ่ายจิตแด่พระสันตะปาปาเกรโกรี่ที่11 น.คัทรินใช้เวลาสามเดือนที่เอวิยองในการกระตุ้นเตือนพระสันตปาปาด้วยความฝันที่จะเห็นพระสันตะปาปาเสด็จกลับมาสู่กรุงโรม  พระสันตะปาปาดูเหมือนจะไม่ประสงค์จะกลับ  แต่คัทรินยืนยันอย่างหนักแน่น  และเพื่อเป็นการยืนยันว่าพระองค์จำเป็นต้องเสด็จกลับสู่ที่ประทับของพระองค์ในกรุงโรม เธอจึงเปิดเผยให้พระสันตะปาปาทราบว่าเธอรู้ความลับของพระองค์  พระสันตะปาปาจึงสัญญาว่าจะทำตามคำแนะนำของเธอ  เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้แล้ว คัทรินจึงออกจากเอวิยอง  แต่ด้วยอิทธิพลของพระคาร์ดินัลชาวฝรั่งเศสบางคน  ต่อมาพระสันตปาปาทรงลังเลพระทัยและไม่คิดจะกลับไป คัทรินจึงต้องเขียนจดหมายกระตุ้นให้พระสันตปาปาทรงทำตามคำสัญญาที่พระองค์ทรงให้ไว้  เธอเขียนอย่างกล้าหาญว่า
 “ลูกได้สวดภาวนา และจะสวดภาวนา ต่อพระเยซูเจ้าผู้ทรงพระทัยดีและอ่อนหวาน เพื่อที่องค์สันตบิดรจะทรงเป็นอิสระจากความกลัวของคนขลาดทั้งมวล  และให้มีแต่เพียงความกลัวของสวรรค์เท่านั้น  ขอให้ความรักร้อนรนดำรงอยู่ในพระองค์  และทำให้ความชาญฉลาดปกป้องพระองค์จากการฟังเสียงของปีศาจ ทำให้พระองค์สังเกตรู้ถึงการปรึกษาของที่ปรึกษาที่ชอบประจบเหล่านั้น พวกเขาเห็นแก่ตัว  และตามความเข้าใจของลูก พวกเขาต้องการทำให้พระองค์ตื่นตกใจและทำให้พระองค์ไม่เสด็จกลับ  พวกเขาพูดว่า “พระองค์จะตาย”  จงลุกขึ้นเหมือนลูกผู้ชายเถิด องค์สันตบิดร  ลูกขอบอกพระองค์ว่าพระองค์ไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งใด”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น