พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง

          พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)








วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

นักบุญคิทรินแห่งเซียนนา1


ให้คำแนะนำแก่พระสันตะปาปา
น.คัทรินแห่งเซียนนามีส่วนช่วยเหลือพระศาสนจักรในระหว่างความยุ่งยากที่เกิดขึ้นในปี 1370-1378 โดยท่านเป็นเสมือนมารดาฝ่ายจิตแด่พระสันตะปาปาเกรโกรี่ที่11 น.คัทรินใช้เวลาสามเดือนที่เอวิยองในการกระตุ้นเตือนพระสันตปาปาด้วยความฝันที่จะเห็นพระสันตะปาปาเสด็จกลับมาสู่กรุงโรม  พระสันตะปาปาดูเหมือนจะไม่ประสงค์จะกลับ  แต่คัทรินยืนยันอย่างหนักแน่น  และเพื่อเป็นการยืนยันว่าพระองค์จำเป็นต้องเสด็จกลับสู่ที่ประทับของพระองค์ในกรุงโรม เธอจึงเปิดเผยให้พระสันตะปาปาทราบว่าเธอรู้ความลับของพระองค์  พระสันตะปาปาจึงสัญญาว่าจะทำตามคำแนะนำของเธอ  เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้แล้ว คัทรินจึงออกจากเอวิยอง  แต่ด้วยอิทธิพลของพระคาร์ดินัลชาวฝรั่งเศสบางคน  ต่อมาพระสันตปาปาทรงลังเลพระทัยและไม่คิดจะกลับไป คัทรินจึงต้องเขียนจดหมายกระตุ้นให้พระสันตปาปาทรงทำตามคำสัญญาที่พระองค์ทรงให้ไว้  เธอเขียนอย่างกล้าหาญว่า
 “ลูกได้สวดภาวนา และจะสวดภาวนา ต่อพระเยซูเจ้าผู้ทรงพระทัยดีและอ่อนหวาน เพื่อที่องค์สันตบิดรจะทรงเป็นอิสระจากความกลัวของคนขลาดทั้งมวล  และให้มีแต่เพียงความกลัวของสวรรค์เท่านั้น  ขอให้ความรักร้อนรนดำรงอยู่ในพระองค์  และทำให้ความชาญฉลาดปกป้องพระองค์จากการฟังเสียงของปีศาจ ทำให้พระองค์สังเกตรู้ถึงการปรึกษาของที่ปรึกษาที่ชอบประจบเหล่านั้น พวกเขาเห็นแก่ตัว  และตามความเข้าใจของลูก พวกเขาต้องการทำให้พระองค์ตื่นตกใจและทำให้พระองค์ไม่เสด็จกลับ  พวกเขาพูดว่า “พระองค์จะตาย”  จงลุกขึ้นเหมือนลูกผู้ชายเถิด องค์สันตบิดร  ลูกขอบอกพระองค์ว่าพระองค์ไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งใด”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น