พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี

           เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ผู้เลี้ยงแกะย่อมสละชีวิตเพื่อแกะของตน ลูกจ้างที่ไม่ใช่ผู้เลี้ยงแกะและไม่เป็นเจ้าของแกะ เมื่อเห็นสุนัขป่าเข้ามาก็ละทิ้งบรรดาแกะและหนีไป สุนัขป่าแย่งชิงแกะ และฝูงแกะก็กระจัดกระจายไป ลูกจ้างวิ่งหนีเพราะเขาเป็นเพียงลูกจ้าง ไม่มีความห่วงใยฝูงแกะเลย เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี เรารู้จักแกะของเรา และแกะของเราก็รู้จักเรา พระบิดาทรงรู้จักเราฉันใด เราก็รู้จักพระบิดาฉันนั้น เรายอมสละชีวิตเพื่อแกะของเรา เรายังมีแกะอื่น ๆ ซึ่งไม่อยู่ในคอกนี้ เราต้องนำหน้าแกะเหล่านี้ด้วย แกะจะฟังเสียงของเรา
           จะมีแกะเพียงฝูงเดียวและผู้เลี้ยงเพียงคนเดียว พระบิดาทรงรักเรา เพราะเราสละชีวิตของเราเพื่อจะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก ไม่มีใครเอาชีวิตไปจากเราได้ แต่เราเองสมัครใจสละชีวิตนั้น
           เรามีอำนาจที่จะสละชีวิตของเรา และมีอำนาจที่จะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก นี่คือพระบัญชาที่เราได้รับจากพระบิดาของเรา‘
(ยอห์น 10:11-18)








วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

นักบุญคัทรินแห่งเซียนนา5

สาส์นของพระบิดา

น.คัทรินได้รับพระพรพิเศษในการฟังและบันทึกสาส์นจากพระบิดานิรันดร  ในหนังสือของเธอชื่อ “The Dialogue” บรรยายถึงการเปิดเผยของพระบิดาที่ให้ความมั่นใจและท้าทายแก่พวกเรา  พระบิดาทรงเป็นผู้ปกครองและอาจารย์สวรรค์ของพวกเรา  พระองค์ทรงสอนดังนี้
เกี่ยวกับพิจารณาไตร่ตรอง (Discernment)
·       การพิจารณาไตร่ตรอง คือแสงสว่างที่สลายความมืดมิดทั้งปวง กำจัดความโง่เขลา และเพิ่มรสชาติให้กับคุณธรรมและการทำความดีทุกประการ  มันเป็นความฉลาดที่ไม่อาจถูกหลอกลวงได้  เป็นพละกำลังที่ไม่อาจเอาชนะได้  เป็นความถูกต้องอันมั่นคงจนถึงที่สุด  มันเชื่อมโยงโลกขึ้นไปสู่สวรรค์  เชื่อมโยงความรอบรู้ของเราไปสู่ความรอบรู้ของมนุษย์  เชื่อมโยงความรักต่อเราไปสู่ความรักต่อเพื่อนมนุษย์
·       ความถ่อมตนที่แท้จริงและรอบคอบของการพิจารณาไตร่ตรอง ทำลายสิ่งชั่วร้ายและการประจญล่อลวงทุกชนิด  และโดยอาศัยความทุกข์ มันมีชัยชนะต่อผีปีศาจและเนื้อหนังด้วยมือเปล่า  โดยอาศัยแสงสว่างรุ่งโรจน์อันอ่อนโยนนี้  วิญญาณมองเห็นและชิงชังความอ่อนแอของตนเองอย่างชัดเจน ดังนั้นด้วยการดูหมิ่นตนเอง วิญญาณจึงเป็นเจ้านายเหนือโลก  ทำให้มันอยู่ใต้เท้าด้วยความรักของวิญญาณและดูหมิ่นโลกว่าเป็นเพียงสิ่งไร้ค่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น