พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

           เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)








วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2560

สามเณรชาวอิรักช่วยรักษาศีลมหาสนิทให้พ้นจากกลุ่มISIS

             ในเดือนสิงหาคม 2014 สามเณรชาวอิรักได้สร้างวีรกรรมด้วยการนำศีลมหาสนิทจากโบสถ์ท้องถิ่นมาเก็บรักษาไว้ก่อนที่กลุ่มทหารของ ISIS จะเข้ามาโจมตีหมู่บ้านใน Karamlesh.
             Martin Baani สามเณรอายุ 24 ปีกล่าวว่า “ในวินาทีสุดท้าย Pashmerga (กองกำลังทหารเคอร์ดิชที่ปกป้องหมู่บ้าน) ได้บอกพวกเราว่าจะปลอดภัย”
“แต่แล้วเราก็ได้ยินมาว่า พวกเขากำลังติดตั้งปืนใหญ่ไว้บนเนินเขา St Barbara’s Hill (อยู่ท้ายหมู่บ้าน)  เรารู้ในเวลานั้นเองว่าสถานการณ์อยู่ในอันตรายเป็นอย่างมาก”
มีโทรศัพท์จากเพื่อนโทรมาบอกมาร์ตินเกี่ยวกับข่าวของเมืองที่อยู่ใกล้ๆ Telkaif ว่าตกอยู่ในเงื้อมมือของ ISIS แล้ว  และเมือง Karamlesh จะกลายเป็นรายต่อไป
สามเณรหนุ่มรีบวิ่งไปที่โบสถ์ nearby St Addai ทันที และนำถ้วยบรรจุศีลมหาสนิทติดตัวหนีออกจากหมู่บ้านทันทีพร้อมกับพระสงฆ์เจ้าอาวาสและนักบวชอีกสามท่าน
“ผมเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากเมือง Karemlesh โดยมีศีลมหาสนิทอยู่ในมือของผม”
มาร์ตินและเพื่อนสามเณรรู้ข่าวว่าอนาคตของคริสต์ศาสนาในอิรักแทบหมดหวังแล้ว  คริสตชนในอิรักที่มีอยู่ 1.5 ล้านคนก่อนปี 2003 ได้ลดลงเหลือเพียง 300,000 คนเท่านั้น ส่วนใหญ่ได้ลี้ภัยไปอยู่ประเทศอื่น
มาร์ตินไม่ได้หลบหนี  เขาพูดว่า “ผมอาจหนีไปได้ง่ายมาก  เพราะครอบครัวผมตอนนี้อยู่ที่คาร์ลิฟฟอร์เนีย  ผมมีวิซ่าพร้อมแล้วที่จะไปอเมริกาได้  แต่ผมต้องการอยู่  ผมไม่ต้องการหนีจากปัญหา”  มาร์ตินเลือกที่รับใช้ประชาชนที่ยังคงอยู่ที่อิรัก
 “เราต้องยืนหยัดเพื่อสิทธิอันชอบธรรมของเรา  เราต้องไม่กลัว”
มาร์ตินศึกษาต่อเพื่อเป็นพระสงฆ์ในเมือง Erbil และในเดือนกันยายน 2016 เขาก็ได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์  เวลานี้เขากำลังทำงานในเมืองบ้านเกิดของเขาซึ่งปัจจุบันนี้ได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระจากกลุ่ม ISIS แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น