พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2024 สมโภชพระเยซูจะกษัตริย์แห่งสากลจักรวาล

           ปีลาตกลับเข้าไปในจวน และเรียกพระเยซูเจ้ามาถามว่า “ท่านเป็นกษัตริย์ของชาวยิวหรือ” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านถามดังนี้ด้วยตนเอง หรือผู้อื่นบอกท่านถึงเรื่องของเรา” ปีลาตตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นชาวยิวหรือ ชนชาติของท่าน และบรรดาหัวหน้าสมณะมอบท่านให้ข้าพเจ้า ท่านทำผิดสิ่งใด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “อาณาจักรของเรามิได้มาจากโลกนี้ ถ้าอาณาจักรของเรามาจากโลกนี้ ผู้รับใช้ของเราก็คงจะต่อสู้เพื่อมิให้เราถูกมอบให้ชาวยิว แต่อาณาจักรของเราไม่ได้เป็นของโลกนี้” ปีลาตจึงถามพระองค์ว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านเป็นกษัตริย์ใช่ไหม” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านพูดว่าเราเป็นกษัตริย์นั้นถูกต้องแล้ว เราเกิดมาเพื่อเป็นกษัตริย์ เรามาในโลกนี้เพื่อเป็นพยานถึงความจริง ผู้ใดอยู่ฝ่ายความจริงก็ฟังเรา”
(ยอห์น 18:33ข-37)








วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2560

สามเณรชาวอิรักช่วยรักษาศีลมหาสนิทให้พ้นจากกลุ่มISIS

             ในเดือนสิงหาคม 2014 สามเณรชาวอิรักได้สร้างวีรกรรมด้วยการนำศีลมหาสนิทจากโบสถ์ท้องถิ่นมาเก็บรักษาไว้ก่อนที่กลุ่มทหารของ ISIS จะเข้ามาโจมตีหมู่บ้านใน Karamlesh.
             Martin Baani สามเณรอายุ 24 ปีกล่าวว่า “ในวินาทีสุดท้าย Pashmerga (กองกำลังทหารเคอร์ดิชที่ปกป้องหมู่บ้าน) ได้บอกพวกเราว่าจะปลอดภัย”
“แต่แล้วเราก็ได้ยินมาว่า พวกเขากำลังติดตั้งปืนใหญ่ไว้บนเนินเขา St Barbara’s Hill (อยู่ท้ายหมู่บ้าน)  เรารู้ในเวลานั้นเองว่าสถานการณ์อยู่ในอันตรายเป็นอย่างมาก”
มีโทรศัพท์จากเพื่อนโทรมาบอกมาร์ตินเกี่ยวกับข่าวของเมืองที่อยู่ใกล้ๆ Telkaif ว่าตกอยู่ในเงื้อมมือของ ISIS แล้ว  และเมือง Karamlesh จะกลายเป็นรายต่อไป
สามเณรหนุ่มรีบวิ่งไปที่โบสถ์ nearby St Addai ทันที และนำถ้วยบรรจุศีลมหาสนิทติดตัวหนีออกจากหมู่บ้านทันทีพร้อมกับพระสงฆ์เจ้าอาวาสและนักบวชอีกสามท่าน
“ผมเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากเมือง Karemlesh โดยมีศีลมหาสนิทอยู่ในมือของผม”
มาร์ตินและเพื่อนสามเณรรู้ข่าวว่าอนาคตของคริสต์ศาสนาในอิรักแทบหมดหวังแล้ว  คริสตชนในอิรักที่มีอยู่ 1.5 ล้านคนก่อนปี 2003 ได้ลดลงเหลือเพียง 300,000 คนเท่านั้น ส่วนใหญ่ได้ลี้ภัยไปอยู่ประเทศอื่น
มาร์ตินไม่ได้หลบหนี  เขาพูดว่า “ผมอาจหนีไปได้ง่ายมาก  เพราะครอบครัวผมตอนนี้อยู่ที่คาร์ลิฟฟอร์เนีย  ผมมีวิซ่าพร้อมแล้วที่จะไปอเมริกาได้  แต่ผมต้องการอยู่  ผมไม่ต้องการหนีจากปัญหา”  มาร์ตินเลือกที่รับใช้ประชาชนที่ยังคงอยู่ที่อิรัก
 “เราต้องยืนหยัดเพื่อสิทธิอันชอบธรรมของเรา  เราต้องไม่กลัว”
มาร์ตินศึกษาต่อเพื่อเป็นพระสงฆ์ในเมือง Erbil และในเดือนกันยายน 2016 เขาก็ได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์  เวลานี้เขากำลังทำงานในเมืองบ้านเกิดของเขาซึ่งปัจจุบันนี้ได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระจากกลุ่ม ISIS แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น