พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2024 สมโภชพระเยซูจะกษัตริย์แห่งสากลจักรวาล

           ปีลาตกลับเข้าไปในจวน และเรียกพระเยซูเจ้ามาถามว่า “ท่านเป็นกษัตริย์ของชาวยิวหรือ” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านถามดังนี้ด้วยตนเอง หรือผู้อื่นบอกท่านถึงเรื่องของเรา” ปีลาตตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นชาวยิวหรือ ชนชาติของท่าน และบรรดาหัวหน้าสมณะมอบท่านให้ข้าพเจ้า ท่านทำผิดสิ่งใด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “อาณาจักรของเรามิได้มาจากโลกนี้ ถ้าอาณาจักรของเรามาจากโลกนี้ ผู้รับใช้ของเราก็คงจะต่อสู้เพื่อมิให้เราถูกมอบให้ชาวยิว แต่อาณาจักรของเราไม่ได้เป็นของโลกนี้” ปีลาตจึงถามพระองค์ว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านเป็นกษัตริย์ใช่ไหม” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านพูดว่าเราเป็นกษัตริย์นั้นถูกต้องแล้ว เราเกิดมาเพื่อเป็นกษัตริย์ เรามาในโลกนี้เพื่อเป็นพยานถึงความจริง ผู้ใดอยู่ฝ่ายความจริงก็ฟังเรา”
(ยอห์น 18:33ข-37)








วันอังคารที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2560

คืนดีกับพระเป็นเจ้า


เมื่อประมาณ 400 ปีก่อนมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตในบาปหนักมานาน  เธอรู้สึกสำนึกผิดและต้องการกลับคืนดีกับพระเป็นเจ้า  ดังนั้นเธอจึงไปพบกับพระสังฆราชผู้มีชื่อเสียงในเวลานั้นคือ น.ฟรังซิส เดอ ซาลส์ และขอสารภาพบาปของเธอกับท่าน  หลังจาก น. ฟรังซิส เดอ ซาลส์ อภัยบาปให้เธอแล้ว  เธอถามท่านนักบุญอย่างตะขิดตะขวงเพราะรู้สึกอับอายในตนเอง  เธอพูดว่า “คุณพ่อคะ  หลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่เลวร้ายที่ดิฉันทำไปแล้ว  เวลานี้คุณพ่อคิดว่าลูกเป็นอย่างไรคะ?”  พระสังฆราชได้ให้คำยืนยันแก่เธอด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ลูกเอ๋ย  พ่อเห็นลูกเป็นเหมือนนักบุญ  ชีวิตในอดีตของลูกมันผ่านไปและไม่มีอีกต่อไปแล้ว  เพราะลูกถูกยกขึ้นจากสถานะบาปสู่สถานะแห่งพระหรรษทานแล้ว”
ศีลอภัยบาปทำให้เรากลับคืนมาสู่สถานะพระหรรษทาน  ทำให้เรารู้สึกถึงความชื่นชมยินดีของพระเป็นเจ้า  บาปทำให้วิญญาณของเราหม่นหมองเศร้าใจ  ทำให้ไม่รับรู้ในความยินดีของพระเป็นเจ้า  ถ้าไม่ไปรับศีลอภัยบาป  เราจะยังคงอยู่ในสภาพเช่นนั้น และนานไปจะกลายเป็นความชินชา  จนไม่รู้สึกว่าบาปเป็นสิ่งที่ผิดอีกต่อไป  ดังนั้นเราควรไปสารภาพบาปเพื่อรับการอภัยบาปเสีย  แม้ว่าจะเป็นเพียงบาปเบาก็ตาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น