พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2025 อุปมาเรื่องเศรษฐีโง่เขลาและความโลภ

          ประชาชนคนหนึ่งทูลพระเยซูเจ้าว่า ‘พระอาจารย์ โปรดบอกพี่ชายข้าพเจ้าให้แบ่งมรดกให้ข้าพเจ้าเถิด’ พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า ‘มนุษย์เอ๋ย ใครตั้งเราเป็นผู้พิพากษาหรือเป็นผู้แบ่งมรดกของท่าน แล้วพระองค์ตรัสกับคนเหล่านั้นว่า ‘จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตของคนเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา แม้ว่าเขาจะมั่งมีมากเพียงใดก็ตาม’ พระองค์ยังตรัสอุปมาเรื่องหนึ่งให้เขาทั้งหลายฟังอีกว่า ‘เศรษฐีคนหนึ่งมีที่ดินที่เกิดผลดีอย่างมาก เขาจึงคิดว่า “ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันไม่มีที่พอจะเก็บพืชผลของฉัน” เขาคิดอีกว่า “ฉันจะทำอย่างนี้ จะรื้อยุ้งฉางเก่าแล้วสร้างใหม่ให้ใหญ่โตกว่าเดิม จะได้เก็บข้าวและสมบัติทั้งหมดไว้ แล้วฉันจะพูดกับตนเองว่า “ดีแล้ว เจ้ามีทรัพย์สมบัติมากมายเก็บไว้ใช้ได้หลายปี จงพักผ่อน กินดื่มและสนุกสนานเถิด” แต่พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “คนโง่เอ๋ย คืนนี้ เขาจะเรียกเอาชีวิตเจ้าไป แล้วสิ่งที่เจ้าได้เตรียมไว้จะเป็นของใครเล่า คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนเองแต่ไม่เป็นคนมั่งมีสำหรับพระเจ้า ก็จะเป็นเช่นนี้”
(ลูกา 12:13-21)








วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ผลสำรวจเรื่องชาวมุสลิมในอังกฤษ

การสำรวจของอังกฤษเมื่อไม่นานมานี้ และ ICM poll ได้ ลงในหนังสือนิตยสารไทม์ Times แสดงให้เห็นว่า
ชาวมุสลิมในอังกฤษ 1 ใน 5 คนไม่เคยเข้าไปในบ้านของผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมเลย
ชาวมุสลิมในอังกฤษ 39 % ทั้งผู้ชายและผู้หญิงบอกว่า ผู้หญิงควรเชื่อฟังสามีของเธอเสมอ
ชาวมุสลิมที่เป็นชาวอังกฤษ 31 % สนับสนุนสิทธิของผู้ชายให้เป็นใหญ่กว่าภรรยา
ชาวมุสลิมในอังกฤษ 52 % ไม่เชื่อว่าพฤติกรรมการรักร่วมเพศควรเป็นสิ่งถูกกฎหมาย
ชาวมุสลิมในอังกฤษ 23 % สนับสนุนให้ใช้กฎชาเรียของอิสลามมากกว่าการใช้กฏหมายที่ออกโดยรัฐสภา
นาย Trevor Phillips อดีตหัวหน้าสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมกันแห่งบิรเทน (EHRC) ได้เขียนลงในนิตยสารไทม์ว่า “เมื่อก่อนความคิดเห็นของอังกฤษเสรีนิยมคิดกันว่า ชาวมุสลิมก็เหมือนปุถุชนคนทั่วไป...ชาวอังกฤษคิดว่าชาวมุสลิมทุกคนก็เหมือนกับ Mo Farah นักกรีฑาหญิงที่มีชื่อเสียงของอังกฤษ แต่จากผลการสำรวจในเรื่องชาวมุสลิมในอังกฤษครั้งนี้ทำให้เรารู้ว่ามันไม่เหมือนกับความคิดเห็นเดิมอีกต่อไป”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น