รัสเซีย ในปัจจุบันนี้ไม่เหมือนรัสเซียในสมัยคอมมิวนิสต์ซึ่งถือว่าศาสนาเป็นสิ่งต้องห้าม   เวลานี้รัฐบาลรัสเซียส่งเสริมทะนุบำรุงศาสนาหลักของประเทศคือ คริสต์ศาสนารัสเซียออร์โธดอกซ์    ประธานาธิบดีปูตินเองได้ไปเยี่ยมชุมชนเมือง Valaam ในวันฉลองนักบุญ Saints Sergius and Herman ซึ่งมีโบสถ์พระเยซูเจ้าทรงจำแลงพระกาย  เพื่อตรวจสอบความก้าวหน้าในการบูรณะซ่อมแซมโบสถ์และอาราม และเป็นการแสวงบุญด้วย   ชุมชนเมือง Valaam นี้เป็นชุมชนเมืองของพระสงฆ์นักบวช และได้ชื่อว่าเป็น เอธอสทางตอนเหนือ (เอธอส เป็นชุมชนเมืองพระสงฆ์และนักบวชอยู่ในกรีซ)  ในเมืองนี้มีแต่พระสงฆ์และนักบวชอาศัยอยู่   ถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของรัสเซีย  ในเมืองมีสาธารณูปโภค  โรงงาน  ของตนเอง  ในประวัติศาสตร์ 700 ปีเมืองนี้เคยถูกทำลายถึงสี่ครั้ง  แต่พระธาตุของนักบุญทั้งสองยังคงอยู่เพราะถูกเก็บซ่อนเอาไว้จากผู้ที่มาทำลาย
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย  ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา  แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ  พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง
พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง
พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)


 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น