ทางตอนเหนือของอิตาลี,มีร้านพิชซ่าอิตาเลียนแห่งแรกที่ดำเนินกิจการโดยคนที่เป็นออทิสติก ร้านนั้นมีชื่อว่า PizzAut ซึ่งเพิ่งเริ่มต้นกิจการ โครงการนี้มีความสำคัญมากสำหรับเยาวชนที่เป็นออทิสติกและครอบครัวของพวกเขา
หนังสือพิมพ์อิตาลี La Repubblica รายงานข่าวว่า แผนการเปิดร้านของเขาต้องชะลอตัวเนื่องจากการเกิดโรคระบาด(ร้านของพวกเขายังตกแต่งไม่เสร็จเรียบร้อยดี) แต่พวกเขามีรถบรรทุกที่พร้อมจะออกวิ่งส่งปิซซ่าแล้ว
ที่สำคัญที่สุดก็คือ พวกเขาชนะใจบรรดาแฟนกลุ่มแรกซึ่งพร้อมจะสนับสนุนพวกเขา วันที่ 12 ธันวาคม,ลูกค้าคนหนึ่งได้ซื้อพิซซ่า“ GourmAut” สองชิ้นและจ่ายเงินให้ 10,000 ดอลลาร์!
ลูกค้าใจดีผู้นี้คือผู้บริหารของ บริษัท Eaton ในสหรัฐอเมริกาซึ่งมีสำนักงานในเมือง Pessano ของอิตาลี, และอยู่ไม่ไกลจากจุดที่จะมีการสร้างร้านพิชซ่า PizzAut แห่งแรก ชื่อแรกของเขาคือ Mauro ตามที่เรารู้จาก Nico Acampora ประธานและผู้ก่อตั้ง PizzAut ซึ่งกล่าวขอบคุณเขาต่อสาธารณะด้วยการโพสต์บน Facebook
ท่าทีเช่นนี้ไม่ใช่แค่การให้เงินเพื่อการกุศล แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้บริจาคเชื่อมั่นในตัวของบุคคลและความสามารถของพวกเขาในการทำสิ่งที่ดี
ผมอ่านหน้าแรกในเว็บไซต์ของ บริษัท ของพวกเขา คำขวัญของพวกเขาคือ: “We make possible what really matters.” ท่าทีนี้ดูสอดคล้องกับคำขวัญนั้นอย่างแน่นอน
ผมคิดว่าสำหรับผู้บริหารของบริษัทต่างๆควรจะเพ่งความสนใจของเขาออกไปจากตัวเลขในบัญชีของบริษัทบ้างและหันมามองดูผู้คนที่มีความเดือดร้อน มีความสุขในการช่วยเหลือผู้อื่นและให้การสนับสนุนสักเล็กน้อยกับสิ่งที่สมควรทำ,สนับสนุนความพยายามที่สร้างสรรค์และกล้าหาญ ดังเช่น PizzAut ซึ่งมอบศักดิ์ศรีและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้ที่เสียเปรียบในสังคมได้
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2025 งานแต่งงานที่หมู่บ้านคานา
  สามวันต่อมามีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ท่านต้องการสิ่งใด เวลาของเรายังมาไม่ถึง” พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาคนรับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด” ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาคนรับใช้ว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม” เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า “จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด” เขาก็ตักไปให้ ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่คนรับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า “ใคร ๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้” พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ ครั้งแรกนี้ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์
(ยอห์น 2:1-11)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2025 งานแต่งงานที่หมู่บ้านคานา
  สามวันต่อมามีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ท่านต้องการสิ่งใด เวลาของเรายังมาไม่ถึง” พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาคนรับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด” ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาคนรับใช้ว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม” เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า “จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด” เขาก็ตักไปให้ ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่คนรับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า “ใคร ๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้” พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ ครั้งแรกนี้ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์
(ยอห์น 2:1-11)
วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2564
วันอังคารที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2564
ความช่วยเหลือจากอารักขเทวดา
ข้าแต่อารักขเทวดา พระเจ้าทรงกรุณามอบข้าพเจ้าไว้ในความอารักขาของท่านโปรดส่องสว่าง,พิทักษ์รักษา,และนำทางข้าพเจ้า, ตามทางความรอด ณ.วันนี้ด้วยเทอญ
>>>อ่านต่อ
วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2564
ทารกผู้วิมล
แม้ว่าพระองค์จะเป็นผู้พิพากษาอย่างเข้มงวดว่าใครจะมีชีวิตนิรันดร์,แต่เราก็วางใจได้อย่างเต็มที่ว่าการพิพากษาของพระองค์จะเป็นไป ด้วยความรักและความชอบธรรม
>>>อ่านต่อ
วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2564
พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่า
บัดนี้ความสกปรกของบาปได้รับการชำระล้างแล้ว ด้วยน้ำ นำความรอดของศีลล้างบาป และเราได้กลับขาวสะอาดเหมือนขนแกะ
>>>อ่านต่อ
วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2564
ไดอารี่ของพระสงฆ์ผู้ขับไล่ปีศาจ
ฉะนั้น,เพราะความรักต่อพระคริสตเจ้า,เพราะเมื่อข้าพเจ้าอ่อนแอเมื่อใด ข้าพเจ้าก็ย่อมเข้มแข็งเมื่อนั้น
>>>อ่านต่อ
วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2564
สาส์นแม่พระ 25 มี.ค.2021
ลูกที่รักทั้งหลาย
แม่ได้มาอยู่กับลูกในวันนี้อีกครั้งเพื่อบอกกับลูกทุกคน ลูกน้อยทั้งหลาย,ผู้ที่สวดภาวนาไม่ต้องกลัวอนาคตและไม่สูญเสียความหวัง พวกลูกถูกเลือกให้มารับความยินดีและสันติภาพ เพราะพวกลูกเป็นของแม่ แม่ได้มาอยู่ที่นี่ในฐานะ”ราชินีแห่งสันติภาพ” เพราะปีศาจต้องการสงครามและความไร้สันติภาพ,มันต้องการบรรจุความกลัวอนาคตไว้ในหัวใจของพวกลูก แต่อนาคตเป็นของพระเจ้า ด้วยเหตุนี้,ลูกจึงต้องถ่อมตนและสวดภาวนา,และยอมมอบทุกสิ่งไว้ในพระหัตถ์ของพระผู้สูงสุด,ผู้ทรงสร้างพวกลูก
ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2564
ความช่วยเหลือในนามของนักบุญโยเซฟ
"จงไปหานักบุญโยเซฟ, วอนขอให้ท่านทูลขอพระหรรษทานและสิ่งที่คุณต้องการจากพระเจ้า ท่านนักบุญจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง"
>>>อ่านต่อ
วันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2564
สวดภาวนาเสมอ
ซิสเตอร์ลูซีอา แห่งฟาติมา ได้เขียนจดหมายถึงหลานชายของเธอซึ่งเป็นพระสงฆ์ในคณะซาเลเซียน
“เป็นเรื่องน่าเศร้าที่คนจำนวนมากปล่อยให้ตัวเองถูกครอบงำโดยคลื่นแห่งความโหดร้ายที่กำลังกวาดล้างโลก,และพวกเขาตาบอดจนมองไม่เห็นข้อผิดพลาด ข้อผิดพลาดหลักของพวกเขาคือพวกเขาละทิ้งการสวดภาวนา ดังนั้นพวกเขาจึงหันเหออกจากพระเจ้า และถ้าปราศจากพระเจ้า,พวกเขาก็จะขาดทุกสิ่ง ตามที่พระเยซูเจ้าตรัสไว้ “หากปราศจากเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย” สิ่งที่ป้าแนะนำก็คือ ขอให้หลานเข้าไปใกล้ตู้ศีลบนพระแท่นและสวดภาวนา ในการสวดภาวนาอย่างเข้มข้น,หลานจะได้รับความสว่าง, ความเข้มแข็งและพระหรรษทานที่หลานต้องการเพื่อค้ำจุนหลานและนำไปแบ่งปันกับผู้อื่น ... จงเดินตามถนนสายนี้แล้วหลานจะเห็นว่าในการสวดภาวนานั้น,หลานจะมีความรู้มากขึ้น,มีความสว่างมากขึ้น,มีความเข้มแข็งมากขึ้น ได้รับพระหรรษทานและคุณธรรมมากเกินกว่าที่หลานจะได้รับโดยอาศัยการอ่านหนังสือหลายๆเล่มหรือโดยการศึกษาค้นคว้า อย่าคิดว่าการสวดภาวนาเป็นการเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ หลานจะพบว่าในการสวดภาวนานั้น,พระเจ้าทรงสื่อสารกับหลานด้วยความสว่าง,ด้วยความเข้มแข็งและพระหรรษทานที่หลานต้องการเพื่อที่จะปฏิบัติตามทุกสิ่งที่พระองค์ทรงคาดหวังจากหลาน "
วันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2564
ข้อคิดจากนักบุญยอห์นมารีย์ เวียนเนย์
เป็นบุญของผู้ที่มีชีวิตและตายภายใต้การปกป้องคุ้มครองของพระนางพรหมจารีย์มารีย์
นักบุญยอห์นมารีย์ เวียนเนย์>
วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2564
วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2564
วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2564
วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2564
สาส์นแม่พระวันที่ 18 มี.ค.2021
วันที่ 18 มี.ค. เป็นวันเกิดของมีรยานา และแม่พระทรงสัญญาจะมาเยี่ยมเธอในวันนี้ทุกปี วันนี้แม่พระประจักษ์แก่มีรยานาเวลาประมาณ 1.23 น. ที่เมดจูกอเรจ์
หลังการประจักษ์,มีรยานาพูดว่า “ฉันรู้สึกถึงความสวยงามและความหวังในสายตาของแม่พระและน้ำเสียงของพระนาง เมื่อพระนางทรงประทานสาส์น"
ต่อไปนี้คือสาส์นที่แม่พระทรงประทานให้
ลูกที่รักทั้งหลาย
หลังการประจักษ์,มีรยานาพูดว่า “ฉันรู้สึกถึงความสวยงามและความหวังในสายตาของแม่พระและน้ำเสียงของพระนาง เมื่อพระนางทรงประทานสาส์น"
ต่อไปนี้คือสาส์นที่แม่พระทรงประทานให้
ลูกที่รักทั้งหลาย
ด้วยความเป็นแม่,แม่ได้เรียกพวกลูกให้กลับมาสู่ความยินดีและความจริงแห่งพระวรสาร ให้กลับมาสู่ความรักขององค์พระบุตรของแม่ เพราะพระองค์กำลังรอคอยลูกด้วยแขนที่เปิดกว้าง เพื่อที่ทุกสิ่งที่ลูกทำในชีวิต,ลูกจะทำพร้อมกับพระองค์,ด้วยความรัก, และสิ่งนั้นจะเป็นพระพรสำหรับลูก เพื่อที่ลูกจะฝักใฝ่ในชีวิตฝ่ายจิตซึ่งอยู่ภายในตัวลูก,ไม่ใช่ฝักใฝ่ในสิ่งภายนอก
มีเพียงหนทางนี้เท่านั้นที่จะทำให้ลูกมีใจถ่อมตน,เจริญรุ่งเรือง,เต็มเปี่ยมด้วยความรักและความชื่นชมยินดี และหัวใจเยี่ยงมารดาของแม่จะชื่นชมยินดีพร้อมกับลูก
ขอขอบใจพวกลูก
วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2564
ข้อคิดจากคุณพ่อปีโอ
จงจำไว้ว่า – คนบาปที่เป็นทุกข์เสียใจในบาปของเขานั้น,อยู่ใกล้ชิดกับพระเจ้ามากกว่าคนที่ไม่มีบาปที่พูดโอ้อวดกิจการดีของเขา
คุณพ่อปีโอ
วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2564
มลพิษทางอากาศหลังโควิด-19
จะดีกว่าหรือไม่หากเราจะฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการสนับสนุนระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืนจากรากฐานชุมชน สนับสนุนผู้คนแทนการสนับสนุนกลุ่มทุนใหญ่ที่เป็นผู้ก่อมลพิษหลัก
>>>อ่านต่อ
วันอังคารที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2564
วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2564
อับบาแอมโมนาสกับนักพรตที่มีบาป
นักพรตหนุ่มผู้หนึ่งถูกจับได้ว่าได้ประพฤติผิดศีลธรรมกับหญิงผู้หนึ่งในห้องพักของเขา ดังนั้นนักพรตทุกองค์จึงมารวมกันและเรียกร้องให้อับบาแอมโมนาสลงโทษนักพรตผู้นี้และขับไล่เขาไป
นักพรตที่ถูกกล่าวหาได้ยินเสียงข้างนอกห้อง,จึงรีบซ่อนนางไว้ใต้ถังไม้ ท่านแอมโมนาสรีบไปที่ห้องพักของนักพรตและรับรู้ว่าเธออยู่ใต้ถังไม้
ท่านแอมโมนาสขึ้นไปนั่งบนถังไม้และบอกให้นักพรตองค์อื่นๆตรวจค้นทุกซอกทุกมุมในห้อง (โดยรู้ว่าพวกเขาจะไม่ขอให้ท่านขยับเขยื้อนไปที่อื่น)
แน่นอนว่านักพรตเหล่านั้นย่อมไม่พบอะไรเลย ท่านแอมโมนาสจึงบอกพวกเขาว่าอย่าตัดสินอะไร ท่านแอมโมนาสรอจนกว่าพวกเขาทั้งหมดจากไป จากนั้นท่านก็มองไปที่นักพรตผู้มีบาปและพูดว่า:“จงระวังตัวด้วย” จากนั้นท่านแอมโมนาสก็เดินจากไปโดยปกปิดความอับอายของนักพรตหนุ่มผู้นั้นไว้
นักพรตที่ถูกกล่าวหาได้ยินเสียงข้างนอกห้อง,จึงรีบซ่อนนางไว้ใต้ถังไม้ ท่านแอมโมนาสรีบไปที่ห้องพักของนักพรตและรับรู้ว่าเธออยู่ใต้ถังไม้
ท่านแอมโมนาสขึ้นไปนั่งบนถังไม้และบอกให้นักพรตองค์อื่นๆตรวจค้นทุกซอกทุกมุมในห้อง (โดยรู้ว่าพวกเขาจะไม่ขอให้ท่านขยับเขยื้อนไปที่อื่น)
แน่นอนว่านักพรตเหล่านั้นย่อมไม่พบอะไรเลย ท่านแอมโมนาสจึงบอกพวกเขาว่าอย่าตัดสินอะไร ท่านแอมโมนาสรอจนกว่าพวกเขาทั้งหมดจากไป จากนั้นท่านก็มองไปที่นักพรตผู้มีบาปและพูดว่า:“จงระวังตัวด้วย” จากนั้นท่านแอมโมนาสก็เดินจากไปโดยปกปิดความอับอายของนักพรตหนุ่มผู้นั้นไว้
วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2564
ดิน่า บาเชอร์ หญิงชาวอิรัก
ดิน่า ,จงบอกพวกเขา จงประกาศสาส์นของเราแก่โบสถ์ทุกโบสถ์ จงทำสิ่งนี้ ลูกจะได้รับความเจ็บปวดและอันตรายมากมาย แต่เราขอร้องลูกให้ทนรับไว้
>>>อ่านต่อ
วันเสาร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2564
วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564
อับราฮัม บิดาแห่งผู้มีความเชื่อ
อับบราฮัมเป็นบุคคลสำคัญที่ปรากฏชื่อในคัมภีร์ของศาสนาสำคัญของโลก 3 ศาสนาคือศาสนายูดาห์ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม ทั้งสามศาสนาถือว่าอับราฮัมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสนาตน
>>>อ่านต่อ
วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2564
วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2564
อับบาโมเสสกับคนแปลกหน้า
วันหนึ่ง,ท่านอธิการแห่งทะเลทรายสเก็ตติสออกคำสั่งให้นักพรตทุกท่านทำการอดอาหารเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
ระหว่างนั้น,มีคนแปลกหน้าผู้หนึ่งแวะมาเยี่ยมท่านโมเสสแห่งเอธิโอเปีย โมเสสได้ปรุงอาหารเลี้ยงคนแปลกหน้าและต้อนรับเขาในห้องพักของท่าน
นักพรตองค์อื่นๆที่ผ่านมาเห็นอาหารให้ห้องพักของโมเสส จึงไปรายงานให้ท่านอธิการทราบถึงการที่โมเสสได้ละเมิดข้อบังคับ ท่านอธิการรับฟังอย่างตั้งใจและกล่าวกับนักพรตองค์อื่นๆว่า “ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง” เมื่อถึงวันอาทิตย์,นักพรตทุกองค์มารวมกันในพิธีกรรม ท่านอธิการพูดกับโมเสสว่า
“โอ,ท่านโมเสส, ท่านได้ทำตามพระบัญญติแห่งความรักต่อเพื่อมนุษย์อย่างดีเพื่อทำตามพระบัญญัติของพระคริสต์อย่างสมบูรณ์”
ระหว่างนั้น,มีคนแปลกหน้าผู้หนึ่งแวะมาเยี่ยมท่านโมเสสแห่งเอธิโอเปีย โมเสสได้ปรุงอาหารเลี้ยงคนแปลกหน้าและต้อนรับเขาในห้องพักของท่าน
นักพรตองค์อื่นๆที่ผ่านมาเห็นอาหารให้ห้องพักของโมเสส จึงไปรายงานให้ท่านอธิการทราบถึงการที่โมเสสได้ละเมิดข้อบังคับ ท่านอธิการรับฟังอย่างตั้งใจและกล่าวกับนักพรตองค์อื่นๆว่า “ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง” เมื่อถึงวันอาทิตย์,นักพรตทุกองค์มารวมกันในพิธีกรรม ท่านอธิการพูดกับโมเสสว่า
“โอ,ท่านโมเสส, ท่านได้ทำตามพระบัญญติแห่งความรักต่อเพื่อมนุษย์อย่างดีเพื่อทำตามพระบัญญัติของพระคริสต์อย่างสมบูรณ์”
วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2564
อับบาแอนโทนี่และนายพราน
นายพรานคนหนึ่งตามล่าสัตว์อยู่ในทะเลทรายและบังเอิญไปพบกับอับบาแอนโทนี่กำลังพักผ่อนอยู่กับศิษย์ของท่านจำนวนหนึ่งเข้า
นายพรานตกใจและรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาคิดว่าหัวหน้าของอารามน่าจะดำเนินชีวิตที่มีกฏข้อบังคับที่เข้มงวดมากกว่านี้ อับบาแอนโทนี่บอกนายพรานให้ขึ้นลูกศรที่คันธนูและยิงออกไป
นายพรานรู้สึกฉงนแต่ก็ทำตาม อับบาขอให้เขายิงอีก,ยิงอีกและยิงอีก นายพรานจึงบอกท่านนักบุญว่า ถ้าเขาทำตาม,คันธนูอาจจะงอและหักได้
อับบาแอนโทนี่จึงกล่าวว่า
“งานของพระเจ้าก็เป็นเช่นเดียวกัน ถ้าหากเราใช้กฎระเบียบวินัยที่เคร่งครัดกับพี่น้องของเรามากเกินไป พวกเขาก็อาจทนไม่ไหว ดังนั้นบางครั้งเราก็ต้องลดความเข้มงวดลงบ้างตามกำลังของพวกเขา”
นายพรานตกใจและรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาคิดว่าหัวหน้าของอารามน่าจะดำเนินชีวิตที่มีกฏข้อบังคับที่เข้มงวดมากกว่านี้ อับบาแอนโทนี่บอกนายพรานให้ขึ้นลูกศรที่คันธนูและยิงออกไป
นายพรานรู้สึกฉงนแต่ก็ทำตาม อับบาขอให้เขายิงอีก,ยิงอีกและยิงอีก นายพรานจึงบอกท่านนักบุญว่า ถ้าเขาทำตาม,คันธนูอาจจะงอและหักได้
อับบาแอนโทนี่จึงกล่าวว่า
“งานของพระเจ้าก็เป็นเช่นเดียวกัน ถ้าหากเราใช้กฎระเบียบวินัยที่เคร่งครัดกับพี่น้องของเรามากเกินไป พวกเขาก็อาจทนไม่ไหว ดังนั้นบางครั้งเราก็ต้องลดความเข้มงวดลงบ้างตามกำลังของพวกเขา”
วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2564
พระสันตปาปาในอิรัก
Pope Francis with the Grand Ayatollah Sayyid Ali Al-Husayni Al-Sistani
Vatican News
ตามแถลงการณ์ของสำนักข่าวสันตสำนัก, ในระหว่างการเสด็จเยื่ยมผู้นำศาสนาอิสลามของพระสันตปาปาฟรังซิสซึ่งกินเวลาประมาณสี่สิบห้านาที “พระสันตปาปาทรงเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือและมิตรภาพระหว่างชุมชนทางศาสนาเพื่อการมีส่วนร่วมกัน โดยอาศัยการปลูกฝังความเคารพซึ่งกันและกันและการเสวนากัน เพื่อประโยชน์สุขของอิรัก,เพื่อความสงบของภูมิภาคและครอบครัวมนุษย์ทั้งมวล”
แถลงการณ์ยังกล่าวอีกว่า “การประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสที่พระสันตะปาปาจะขอบคุณ อยาตอลลาห์ อัล – ซิสตานี,ผู้นำทางศาสนา,ที่ได้กล่าวแก่ชุมชนชีอะห์เพื่อปกป้องผู้ที่เปราะบางและถูกข่มเหงมากที่สุดท่ามกลางความรุนแรงและความยากลำบากครั้งใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและ เพื่อยืนยันความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตมนุษย์และความสำคัญของความสามัคคีของชาวอิรัก”
ในการอำลาท่านอายาตอลลาห์,พระสันตะปาปากล่าวว่า พระองค์ยังคงอธิษฐานต่อไปขอให้พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสร้างมนุษย์ทุกคนจะประทานอนาคตแห่งสันติภาพและความเป็นพี่น้องให้กับดินแดนที่รักของอิรัก,สำหรับตะวันออกกลางและสำหรับคนทั้งโลก
วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2564
วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2564
พระสันตปาปาเสด็จเยือนอิรัก
พระสันตปาปาฟรังซิสจะเสด็จเยือนอิรักระหว่างวันที่ 5 – 8 มีนาคม 2021 นับเป็นการเดินทางเยือนประเทศมุสลิมที่สำคัญและอันตรายที่สุดครั้งหนึ่ง
>>>อ่านต่อ
วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2564
พระสันตปาปาเยือนอิรัก
ก่อนที่พระสันตปาปาฟรังซิสจะเดินทางไปอิรัก, ในวันพฤหัสบดี 5 มี.ค. 2021 พระองค์ได้ไปสวดภาวนาเบื้องหน้าพระรูปแม่พระ Maria Salus Populi Romani. ที่อาสนวิหาร Basilica of St. Mary Major และวอนขอความคุ้มครองในการเดินทางจากแม่พระ
พระองค์จะเดินทางออกจากกรุงโรมในตอนเช้าวันศุกร์ที่ 6 มี.ค. ครั้งนี้จะเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งที่ 33 ของพระองค์ และจะอยู่ที่อิรักไปจนถึงวันที่ 8 มี.ค. พระรูปแม่พระนี้มาอยู่ที่กรุงโรมในปี 590 ระหว่างรัชสมัยของพระสันตะปาปาเกรโกรี่ผู้ยิ่งใหญ่(Gregory the Great.)
พระองค์จะเดินทางออกจากกรุงโรมในตอนเช้าวันศุกร์ที่ 6 มี.ค. ครั้งนี้จะเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งที่ 33 ของพระองค์ และจะอยู่ที่อิรักไปจนถึงวันที่ 8 มี.ค. พระรูปแม่พระนี้มาอยู่ที่กรุงโรมในปี 590 ระหว่างรัชสมัยของพระสันตะปาปาเกรโกรี่ผู้ยิ่งใหญ่(Gregory the Great.)
วันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2564
พระเยซูเจ้าเดินผ่านทุ่งข้าวสาลี
พระเยซูท่ามกลางทุ่งข้าวสาลี วาดโดย J. R. Wehle, 1900 บรรยายฉากในมาระโก 2: 23-27 ที่กล่าวว่า พระเยซูเจ้าและบรรดาอัครสาวกกำลังเดินผ่านทุ่งข้าวสาลี พวกศิษย์รู้สึกหิวจึงเด็ดเมล็ดข้าวสาลี,บดบนมือและกิน พวกฟาริสีติดตามพระเยซูเจ้ามาด้วย,จึงถามพระเยซูเจ้าถึงการกระทำของบรรดาสาวก ซึ่งถือเป็นการทำงานในวันสะบาโต พระเยซูตอบว่า “วันสะบาโตมีไว้เพื่อมนุษย์ไม่ใช่มนุษย์มีไว้เพื่อวันสะบาโต”
วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2564
อัศจรรย์ดวงอาทิตย์ที่อิตาลี
วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2564
พวกเขาเชื่อฟังรัฐบาล,แต่ไม่เชื่อฟังเรา
พระเยซูตรัสกับลุยซ่า ปิกค่าเรตต้า(ผู้รับใช้ของพระเจ้า)เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 1915 ว่า
“ลูกสาวของเรา,การลงโทษนั้นสาหัสมากนัก ถึงกระนั้นผู้คนก็ยังไม่พิจารณาตัวเอง แต่พวกเขากลับทำเฉยเมยราวกับว่าพวกเขาเพียงแค่กำลังดูฉากภาพเหตุการณ์เท่านั้น,ไม่ใช่เรื่องจริง แทนที่ทุกคนจะมาหาเรา,ร้องไห้วิงวอนขอความเมตตาและการให้อภัยจากเรา พวกเขากลับตั้งใจฟังสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเหมือนกับการอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ อา,ลูกสาวของเรา,ความชั่วร้ายของมนุษย์ช่างหนักหนาสาหัสเพียงใด! ดูสิว่าพวกเขาเชื่อฟังรัฐบาลแค่ไหน พระสงฆ์และฆราวาสไม่เรียกร้องอะไร พวกเขาไม่ปฏิเสธการเสียสละตนเอง และพร้อมที่จะมอบชีวิตของตนเอง [เพื่อรัฐบาล] ... อา,แต่สำหรับเรา, ไม่มีการเชื่อฟังและไม่มีการเสียสละตนเองให้ และถ้าพวกเขาทำอะไรให้,มันก็เป็นเพียงการเสแสร้งและเพื่อหาผลประโยชน์มากกว่า นี่เป็นเพราะรัฐบาลออกกฎบังคับ แต่เราใช้ความรัก,ความรักนี้จึงถูกมองข้ามโดยมนุษย์ พวกเขายังคงเฉยเมยราวกับว่าเราไม่สมควรได้รับอะไรจากพวกเขา!”
ขณะที่พระองค์ตรัสเช่นนี้,พระองค์ทรงกรรแสง ช่างเป็นความทุกข์ทรมานที่โหดร้ายจริงๆที่เห็นพระเยซูเจ้าทรงกรรแสง! จากนั้นพระองค์ตรัสต่อไป:“เลือดและไฟจะชำระล้างทุกสิ่งให้บริสุทธิ์และจะทำให้มนุษย์กลับใจ ยิ่งเขาล่าช้าลังเล,เลือดก็จะยิ่งหลั่งออกมามากขึ้นและการสังหารก็จะเป็นเช่นที่มนุษย์ไม่คาดคิดมาก่อน” ในขณะที่ตรัสสิ่งนี้พระองค์ทรงแสดงให้เห็นถึงการสังหารของมนุษย์ ... ช่างเป็นความทรมานที่ต้องมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลานี้! แต่ขอให้พระประสงค์ของพระเจ้าจงสำเร็จไปเถิด —จาก Book of Heaven เล่ม 11
“ลูกสาวของเรา,การลงโทษนั้นสาหัสมากนัก ถึงกระนั้นผู้คนก็ยังไม่พิจารณาตัวเอง แต่พวกเขากลับทำเฉยเมยราวกับว่าพวกเขาเพียงแค่กำลังดูฉากภาพเหตุการณ์เท่านั้น,ไม่ใช่เรื่องจริง แทนที่ทุกคนจะมาหาเรา,ร้องไห้วิงวอนขอความเมตตาและการให้อภัยจากเรา พวกเขากลับตั้งใจฟังสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเหมือนกับการอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ อา,ลูกสาวของเรา,ความชั่วร้ายของมนุษย์ช่างหนักหนาสาหัสเพียงใด! ดูสิว่าพวกเขาเชื่อฟังรัฐบาลแค่ไหน พระสงฆ์และฆราวาสไม่เรียกร้องอะไร พวกเขาไม่ปฏิเสธการเสียสละตนเอง และพร้อมที่จะมอบชีวิตของตนเอง [เพื่อรัฐบาล] ... อา,แต่สำหรับเรา, ไม่มีการเชื่อฟังและไม่มีการเสียสละตนเองให้ และถ้าพวกเขาทำอะไรให้,มันก็เป็นเพียงการเสแสร้งและเพื่อหาผลประโยชน์มากกว่า นี่เป็นเพราะรัฐบาลออกกฎบังคับ แต่เราใช้ความรัก,ความรักนี้จึงถูกมองข้ามโดยมนุษย์ พวกเขายังคงเฉยเมยราวกับว่าเราไม่สมควรได้รับอะไรจากพวกเขา!”
ขณะที่พระองค์ตรัสเช่นนี้,พระองค์ทรงกรรแสง ช่างเป็นความทุกข์ทรมานที่โหดร้ายจริงๆที่เห็นพระเยซูเจ้าทรงกรรแสง! จากนั้นพระองค์ตรัสต่อไป:“เลือดและไฟจะชำระล้างทุกสิ่งให้บริสุทธิ์และจะทำให้มนุษย์กลับใจ ยิ่งเขาล่าช้าลังเล,เลือดก็จะยิ่งหลั่งออกมามากขึ้นและการสังหารก็จะเป็นเช่นที่มนุษย์ไม่คาดคิดมาก่อน” ในขณะที่ตรัสสิ่งนี้พระองค์ทรงแสดงให้เห็นถึงการสังหารของมนุษย์ ... ช่างเป็นความทรมานที่ต้องมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลานี้! แต่ขอให้พระประสงค์ของพระเจ้าจงสำเร็จไปเถิด —จาก Book of Heaven เล่ม 11
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)