พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2024 สมโภชพระเยซูจะกษัตริย์แห่งสากลจักรวาล

           ปีลาตกลับเข้าไปในจวน และเรียกพระเยซูเจ้ามาถามว่า “ท่านเป็นกษัตริย์ของชาวยิวหรือ” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านถามดังนี้ด้วยตนเอง หรือผู้อื่นบอกท่านถึงเรื่องของเรา” ปีลาตตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นชาวยิวหรือ ชนชาติของท่าน และบรรดาหัวหน้าสมณะมอบท่านให้ข้าพเจ้า ท่านทำผิดสิ่งใด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “อาณาจักรของเรามิได้มาจากโลกนี้ ถ้าอาณาจักรของเรามาจากโลกนี้ ผู้รับใช้ของเราก็คงจะต่อสู้เพื่อมิให้เราถูกมอบให้ชาวยิว แต่อาณาจักรของเราไม่ได้เป็นของโลกนี้” ปีลาตจึงถามพระองค์ว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านเป็นกษัตริย์ใช่ไหม” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านพูดว่าเราเป็นกษัตริย์นั้นถูกต้องแล้ว เราเกิดมาเพื่อเป็นกษัตริย์ เรามาในโลกนี้เพื่อเป็นพยานถึงความจริง ผู้ใดอยู่ฝ่ายความจริงก็ฟังเรา”
(ยอห์น 18:33ข-37)








วันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2564

สวดภาวนาเสมอ


ซิสเตอร์ลูซีอา แห่งฟาติมา ได้เขียนจดหมายถึงหลานชายของเธอซึ่งเป็นพระสงฆ์ในคณะซาเลเซียน

“เป็นเรื่องน่าเศร้าที่คนจำนวนมากปล่อยให้ตัวเองถูกครอบงำโดยคลื่นแห่งความโหดร้ายที่กำลังกวาดล้างโลก,และพวกเขาตาบอดจนมองไม่เห็นข้อผิดพลาด ข้อผิดพลาดหลักของพวกเขาคือพวกเขาละทิ้งการสวดภาวนา ดังนั้นพวกเขาจึงหันเหออกจากพระเจ้า และถ้าปราศจากพระเจ้า,พวกเขาก็จะขาดทุกสิ่ง ตามที่พระเยซูเจ้าตรัสไว้ “หากปราศจากเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย” สิ่งที่ป้าแนะนำก็คือ ขอให้หลานเข้าไปใกล้ตู้ศีลบนพระแท่นและสวดภาวนา ในการสวดภาวนาอย่างเข้มข้น,หลานจะได้รับความสว่าง, ความเข้มแข็งและพระหรรษทานที่หลานต้องการเพื่อค้ำจุนหลานและนำไปแบ่งปันกับผู้อื่น ... จงเดินตามถนนสายนี้แล้วหลานจะเห็นว่าในการสวดภาวนานั้น,หลานจะมีความรู้มากขึ้น,มีความสว่างมากขึ้น,มีความเข้มแข็งมากขึ้น ได้รับพระหรรษทานและคุณธรรมมากเกินกว่าที่หลานจะได้รับโดยอาศัยการอ่านหนังสือหลายๆเล่มหรือโดยการศึกษาค้นคว้า อย่าคิดว่าการสวดภาวนาเป็นการเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ หลานจะพบว่าในการสวดภาวนานั้น,พระเจ้าทรงสื่อสารกับหลานด้วยความสว่าง,ด้วยความเข้มแข็งและพระหรรษทานที่หลานต้องการเพื่อที่จะปฏิบัติตามทุกสิ่งที่พระองค์ทรงคาดหวังจากหลาน "

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น