พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี

           เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ผู้เลี้ยงแกะย่อมสละชีวิตเพื่อแกะของตน ลูกจ้างที่ไม่ใช่ผู้เลี้ยงแกะและไม่เป็นเจ้าของแกะ เมื่อเห็นสุนัขป่าเข้ามาก็ละทิ้งบรรดาแกะและหนีไป สุนัขป่าแย่งชิงแกะ และฝูงแกะก็กระจัดกระจายไป ลูกจ้างวิ่งหนีเพราะเขาเป็นเพียงลูกจ้าง ไม่มีความห่วงใยฝูงแกะเลย เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี เรารู้จักแกะของเรา และแกะของเราก็รู้จักเรา พระบิดาทรงรู้จักเราฉันใด เราก็รู้จักพระบิดาฉันนั้น เรายอมสละชีวิตเพื่อแกะของเรา เรายังมีแกะอื่น ๆ ซึ่งไม่อยู่ในคอกนี้ เราต้องนำหน้าแกะเหล่านี้ด้วย แกะจะฟังเสียงของเรา
           จะมีแกะเพียงฝูงเดียวและผู้เลี้ยงเพียงคนเดียว พระบิดาทรงรักเรา เพราะเราสละชีวิตของเราเพื่อจะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก ไม่มีใครเอาชีวิตไปจากเราได้ แต่เราเองสมัครใจสละชีวิตนั้น
           เรามีอำนาจที่จะสละชีวิตของเรา และมีอำนาจที่จะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก นี่คือพระบัญชาที่เราได้รับจากพระบิดาของเรา‘
(ยอห์น 10:11-18)








วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2564

พวกเขาเชื่อฟังรัฐบาล,แต่ไม่เชื่อฟังเรา

         พระเยซูตรัสกับลุยซ่า ปิกค่าเรตต้า(ผู้รับใช้ของพระเจ้า)เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 1915 ว่า
         “ลูกสาวของเรา,การลงโทษนั้นสาหัสมากนัก ถึงกระนั้นผู้คนก็ยังไม่พิจารณาตัวเอง แต่พวกเขากลับทำเฉยเมยราวกับว่าพวกเขาเพียงแค่กำลังดูฉากภาพเหตุการณ์เท่านั้น,ไม่ใช่เรื่องจริง แทนที่ทุกคนจะมาหาเรา,ร้องไห้วิงวอนขอความเมตตาและการให้อภัยจากเรา พวกเขากลับตั้งใจฟังสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเหมือนกับการอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ อา,ลูกสาวของเรา,ความชั่วร้ายของมนุษย์ช่างหนักหนาสาหัสเพียงใด! ดูสิว่าพวกเขาเชื่อฟังรัฐบาลแค่ไหน พระสงฆ์และฆราวาสไม่เรียกร้องอะไร พวกเขาไม่ปฏิเสธการเสียสละตนเอง และพร้อมที่จะมอบชีวิตของตนเอง [เพื่อรัฐบาล] ... อา,แต่สำหรับเรา, ไม่มีการเชื่อฟังและไม่มีการเสียสละตนเองให้ และถ้าพวกเขาทำอะไรให้,มันก็เป็นเพียงการเสแสร้งและเพื่อหาผลประโยชน์มากกว่า นี่เป็นเพราะรัฐบาลออกกฎบังคับ แต่เราใช้ความรัก,ความรักนี้จึงถูกมองข้ามโดยมนุษย์ พวกเขายังคงเฉยเมยราวกับว่าเราไม่สมควรได้รับอะไรจากพวกเขา!”
          ขณะที่พระองค์ตรัสเช่นนี้,พระองค์ทรงกรรแสง ช่างเป็นความทุกข์ทรมานที่โหดร้ายจริงๆที่เห็นพระเยซูเจ้าทรงกรรแสง! จากนั้นพระองค์ตรัสต่อไป:“เลือดและไฟจะชำระล้างทุกสิ่งให้บริสุทธิ์และจะทำให้มนุษย์กลับใจ ยิ่งเขาล่าช้าลังเล,เลือดก็จะยิ่งหลั่งออกมามากขึ้นและการสังหารก็จะเป็นเช่นที่มนุษย์ไม่คาดคิดมาก่อน” ในขณะที่ตรัสสิ่งนี้พระองค์ทรงแสดงให้เห็นถึงการสังหารของมนุษย์ ... ช่างเป็นความทรมานที่ต้องมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลานี้! แต่ขอให้พระประสงค์ของพระเจ้าจงสำเร็จไปเถิด —จาก Book of Heaven เล่ม 11

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น