สุภาพสตรีผู้หนึ่งเดินทางมาจากอังกฤษเพื่อมาสารภาพบาปกับคุณพ่อปีโอ เมื่อเธอเข้าไปในที่ฟังสารภาพบาป แต่คุณพ่อปีโอกลับปิดหน้าต่างและพูดกับเธอว่า “พ่อไม่มีเวลามาฟังลูกสารภาพบาป” สตรีผู้นั้นยังคงพักอยู่ที่รอตตอนโดหลายสัปดาห์ ทุกสัปดาห์,เธอจะกลับไปยังที่ฟังสารภาพบาปของคุณพ่อปีโอ แต่เธอก็ต้องกลับไปทุกครั้งเพราะคุณพ่อปีโอยังไม่ยอมฟังเธอสารภาพบาป ด้วยความอดทนของเธอ,ในที่สุด,คุณพ่อปีโอก็ยอมฟังสารภาพบาปของสตรีผู้นี้ เธอถามคุณพ่อปีโอว่า ทำไมจึงให้เธอต้องรอคอยนานมากถึงได้ฟังสารภาพบาปของเธอ คุณพ่อปีโอตอบว่า “แล้วทำไม? ลูกจึงปล่อยให้พระเยซูเจ้ารอคอยลูกนานมากเล่า? ลูกควรสำนึกว่าพระเยซูเจ้าทรงยินดีที่จะต้อนรับลูกหลังจากที่ลูกได้ทำบาปมากมาย ลูกได้ปล่อยให้เวลาผ่านไปหลายปี นอกจากนี้,เมื่อได้ทำบาปผิดต่อสามีของลูก,ต่อแม่ของลูกแล้ว ลูกก็ยังไปรับศีลมหาสนิทพร้อมด้วยบาปหนักอีกด้วย” สตรีผู้นั้นตกตะลึงและสำนึกในความผิดของตน เธอร้องไห้ในขณะที่รับศีลอภัยบาป เธอเดินทางกลับอังกฤษในอีกสองสามวันต่อมา ด้วยความสุขอย่างยิ่ง
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี
  เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ผู้เลี้ยงแกะย่อมสละชีวิตเพื่อแกะของตน ลูกจ้างที่ไม่ใช่ผู้เลี้ยงแกะและไม่เป็นเจ้าของแกะ เมื่อเห็นสุนัขป่าเข้ามาก็ละทิ้งบรรดาแกะและหนีไป สุนัขป่าแย่งชิงแกะ และฝูงแกะก็กระจัดกระจายไป ลูกจ้างวิ่งหนีเพราะเขาเป็นเพียงลูกจ้าง ไม่มีความห่วงใยฝูงแกะเลย เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี เรารู้จักแกะของเรา และแกะของเราก็รู้จักเรา พระบิดาทรงรู้จักเราฉันใด เราก็รู้จักพระบิดาฉันนั้น เรายอมสละชีวิตเพื่อแกะของเรา เรายังมีแกะอื่น ๆ ซึ่งไม่อยู่ในคอกนี้ เราต้องนำหน้าแกะเหล่านี้ด้วย แกะจะฟังเสียงของเรา
  จะมีแกะเพียงฝูงเดียวและผู้เลี้ยงเพียงคนเดียว พระบิดาทรงรักเรา เพราะเราสละชีวิตของเราเพื่อจะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก ไม่มีใครเอาชีวิตไปจากเราได้ แต่เราเองสมัครใจสละชีวิตนั้น
  เรามีอำนาจที่จะสละชีวิตของเรา และมีอำนาจที่จะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก นี่คือพระบัญชาที่เราได้รับจากพระบิดาของเรา‘
(ยอห์น 10:11-18)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี
  เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ผู้เลี้ยงแกะย่อมสละชีวิตเพื่อแกะของตน ลูกจ้างที่ไม่ใช่ผู้เลี้ยงแกะและไม่เป็นเจ้าของแกะ เมื่อเห็นสุนัขป่าเข้ามาก็ละทิ้งบรรดาแกะและหนีไป สุนัขป่าแย่งชิงแกะ และฝูงแกะก็กระจัดกระจายไป ลูกจ้างวิ่งหนีเพราะเขาเป็นเพียงลูกจ้าง ไม่มีความห่วงใยฝูงแกะเลย เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี เรารู้จักแกะของเรา และแกะของเราก็รู้จักเรา พระบิดาทรงรู้จักเราฉันใด เราก็รู้จักพระบิดาฉันนั้น เรายอมสละชีวิตเพื่อแกะของเรา เรายังมีแกะอื่น ๆ ซึ่งไม่อยู่ในคอกนี้ เราต้องนำหน้าแกะเหล่านี้ด้วย แกะจะฟังเสียงของเรา
  จะมีแกะเพียงฝูงเดียวและผู้เลี้ยงเพียงคนเดียว พระบิดาทรงรักเรา เพราะเราสละชีวิตของเราเพื่อจะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก ไม่มีใครเอาชีวิตไปจากเราได้ แต่เราเองสมัครใจสละชีวิตนั้น
  เรามีอำนาจที่จะสละชีวิตของเรา และมีอำนาจที่จะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก นี่คือพระบัญชาที่เราได้รับจากพระบิดาของเรา‘
(ยอห์น 10:11-18)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น