พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง

          พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)








วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2566

คำขอร้องของแม่พระ


พระนางพรหมจารีย์มารีย์ทรงขอความช่วยเหลือจากเรา แต่เพื่อที่จะช่วยเหลือพระนาง, เราจำเป็นต้องมีความตระหนักรู้ว่า เหตุผลที่พระนางทรงมาที่ฟาติมาก็เพื่อร้องขอคำภาวนาของเรา,โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสวดสายประคำทุกวัน 
พระนางยังขอให้เราสวมสายจำพวกและถวายตัวของเราแด่พระหทัยนิรมลของพระนาง 
โลกอยู่ในภาวะของการละทิ้งความเชื่อ ยิ่งไปกว่านั้น การละทิ้งความเชื่อได้รุกรานเข้ามาในพระศาสนจักร นั่นคือสิ่งที่อยู่ในความลับแห่งฟาติมาข้อที่สาม ความลับข้อที่สามหมายถึงการละทิ้งความเชื่อในพระศาสนจักรเอง 
นักบุญอาธานาซีอุสบอกเราว่า พื้นฐานของความรอดของเราคือความเชื่อคาทอลิก บทแสดงความเชื่อคือสิ่งที่นักบุญอาธานาซีอุสอ้างถึง ท่านบอกเราว่า "ผู้ที่ปรารถนาที่จะได้รับความรอดจะต้องยึดมั่นในความเชื่อคาทอลิก,ทุกอย่างและทุกประการ" สังคายนาวาติกันครั้งที่หนึ่งบอกเราว่าไม่มีข้ออ้าง,ไม่มีเหตุผลใดที่คาทอลิกจะละทิ้งความเชื่อ 
ที่มา: Jesus Tells Us "Make It Known" 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น