พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันจันทร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2567

อย่าตัดสินผู้อื่น


หัวใจของท่านเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง 
บางทีลูกอาจจะพูดกับพ่อว่า,ลูกไม่เคยตัดสินใครเลยนอกเหนือจากสิ่งที่เห็นหรือสิ่งที่ลูกได้ยินจริงๆหรือเป็นพยานถึงการกระทำบางอย่าง: “ฉันเห็นเขากระทำสิ่งนี้,ฉันจึงแน่ใจ ฉันได้ยินเขาพูดด้วยหูของฉันเอง ฉันไม่ผิดพลาดแน่ๆ " 
แต่พ่อจะขอตอบ,โดยบอกให้ลูกเริ่มต้นด้วยการเข้าไปในใจของลูกเอง,ซึ่งเป็นแต่เพียงความเย่อหยิ่งที่ซึ่งทุกสิ่งแห้งแล้ง แล้วลูกจะพบว่าตัวลูกเองมีความผิดมากกว่าคนที่ลูกตัดสินเขา,อย่างกล้าหาญ,อย่างไม่สิ้นสุด และลูกจะมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับความกลัว เมื่อวันหนึ่งลูกจะเห็นเขาเข้าสู่สวรรค์,ในขณะที่ลูกกำลังถูกปีศาจลากลงนรก "ความเย่อหยิ่งที่โชคร้ายเอ๋ย" นักบุญออกัสตินกล่าวกับเรา "ท่านกล้าที่จะตัดสินพี่น้องของท่านในความเลวเพียงเล็กน้อย, ท่านรู้ได้อย่างไรเล่าว่าเขาไม่ได้สำนึกผิดกลับใจจากความผิดของเขาแล้ว และเขาไม่ได้อยู่ในหมู่มิตรของพระเจ้า? จงระวังตัวท่านเองดีกว่า,อย่าให้ความเย่อหยิ่งของท่านทำให้ท่านตกอยู่ในอันตรายอย่างยิ่งของการสูญเสียวิญญาณ” 
ใช่แล้ว,ลูกที่รัก,การตัดสินอันหุนหันพลันแล่นและการตีความทั้งหมดนี้ล้วนมาจากบุคคลที่มีความหยิ่งผยอง,ไม่รู้จักตนเอง,และกล้าที่จะสอดรู้สอดเห็นชีวิตภายในของเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงทราบเพียงพระองค์เดียว ลูกที่รักทั้งหลาย,หากเราสามารถกำจัดบาปใหญ่ประการแรกนี้ออกไปจากใจได้ เพื่อนบ้านของเราก็จะไม่มีวันทำผิดตามที่เราพูด เราไม่ควรสร้างความสนุกสนานโดยการตรวจสอบความประพฤติของเขา เราไม่ควรทำอะไร,นอกจากร้องไห้ให้กับบาปของเราเองและทำงานให้หนักที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อแก้ไข 
ที่มา : บทเทศน์ของเจ้าอาวาสแห่งอารส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น